มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ

ครอบครัว....ความรัก....ความรุนแรง (ตอน) พลาดท่าท้องกับชายอื่น

15 ธันวาคม 2563
ครอบครัว....ความรัก....ความรุนแรง (ตอน) พลาดท่าท้องกับชายอื่น

“ดิฉันเป็นแม่หม้ายลูกติดเป็นชายหนึ่งคน  ได้มาอยู่กินกับสามีปัจจุบันมากว่าหกปี  โดยรวมสามีเป็นคนดีแต่ที่แย่คือเขาชอบดื่ม  ไม่มีเวลา และไม่ค่อยสนใจ ทิ้งให้ดิฉันต้องดูแลทุกอย่างในบ้าน  และดิฉันก็พลาดไปมีความสัมพันธ์กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ในระยะเวลาแค่ไม่ถึงสองเดือนดิฉันก็ตั้งครรภ์ ซึ่งสามีดิฉันเขาดีใจมาก  เพราะตอนเราแต่งงานกันไม่ถึงเดือน ดิฉันท้องแต่สามีบอกว่าไม่พร้อม  เราก็เลยตัดสินใจที่จะยังไม่มีลูก  คือดิฉันไปทำแท้ง


เมื่อเวลาผ่านมาเกือบสี่ปีกว่า เขาก็อยากมีลูก เราไปตรวจร่างกาย หมอบอกว่าเชื้อของเขาไม่ค่อยแข็งแรง แต่ปัญหาตอนนี้คือดิฉันเกิดท้อง และแน่นอนที่ลูกในท้องอาจไม่ใช่ลูกของสามี ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่เขาดื่มเหล้ามาก  เที่ยว และไม่ค่อยจะกลับบ้าน


ดิฉันจะทำอย่างไรดี  ผู้ชายคนนี้เขามีครอบครัวอยู่แล้ว และเขาขอร้องไม่ให้ดิฉันเอาลูกออก  แต่ดิฉันเครียดมาก  รู้สึกสำนึกผิด  และกลัวปัญหาในอนาคต  ไม่รู้จะทำอย่างไรดี


อย่างที่บอก ก่อนจะมาอยู่กับสามีคนนี้ ดิฉันเคยมีครอบครัวและมีลูก แต่เลิกร้างกันไป  ตอนนี้ลูกจากสามีเก่ามาอยู่กับดิฉัน  ใจหนึ่งดิฉันอยากมีลูกกับสามี และไม่อยากให้เกิดปัญหาผิดลูกผิดพ่อกัน  ซึ่งที่ผ่านมาสามีเขาก็รักและเอ็นดูลูกดิฉันที่ติดมามาก  ไม่เคยรังเกียจลูกเลย   ดิฉันรู้สึกสงสารเขา  อยากกลับตัวไม่คิดไปยุ่งกับคนอื่นอีก


ดิฉันอยากเป็นเมียที่ดี  รู้สึกผิดต่อสามีมาก  ใจหนึ่งก็อยากสารภาพผิดกับเขา  แต่ก็กลัวเขาจะโกรธ  ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ ขอความกรุณาด้วย  ขอบพระคุณค่ะที่ช่วยให้คำแนะนำและชี้แนะ”

 

ที่ผ่านมาเมื่อหญิงชายคู่สมรสเกิดความผิดพลาดเรื่องชู้สาว  หรือเกิดนอกใจไปมีความสัมพันธ์กับหญิงหรือชายที่ไม่ใช่คู่ครอง  ฝ่ายชายมักจะเอาตัวรอดได้ง่ายกว่า  เพราะไม่มีปัญหาการตั้งครรภ์  ในขณะที่ฝ่ายหญิงการตั้งครรภ์อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเธอ  โดยเฉพาะต่อเด็กที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ   อาจกลายเป็นสักขีพยานของความอัปยศ และทำให้เด็กมีตราบาปไปจนตลอดชีวิต


ผู้ใหญ่สมัยก่อนจึงมักเตือนใจให้ตระหนักเสมอมาว่า “แม่คือผู้กำหนดชีวิตลูก!” นั่นคือทุกอย่างที่แม่คิด  และทำ ล้วนส่งผลต่อความเป็นไปในการดำเนินชีวิตของลูกตั้งแต่เล็กจนโตเสมอ ฉะนั้นคนเป็นแม่จะต้องคิดให้ดีเสียก่อนจะทำอะไร  ดังกรณีของหญิงสาวรายนี้  เมื่อเธอแยกทางกับสามีคนแรก และนำลูกติดมาอยู่กินกับสามีคนปัจจุบัน การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ลูกชายคนเดียวกับสามีเก่า   มีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นมีความสุข  สามีปัจจุบันส่งเสียดูแลลูกอย่างดีเหมือนเป็นลูกแท้  ๆ  ของเขา เช่นเดียวกับบุตรชายที่ยอมรับเขาในฐานะเป็นพ่อ  แต่ตัวเธอเองกลับปล่อยให้ความเหงาทำร้ายทำลายตนเอง ด้วยการคบหาเพื่อนชายจนพลาดพลั้งตั้งครรภ์คนที่สอง  ซึ่งเธอค่อนข้างจะเชื่อว่าลูกในท้องคนนี้เป็นลูกของชายชู้ เพราะช่วงที่เธอคบหาผู้ชายคนนี้  เป็นระยะเวลาที่สามีของเธอออกไปดื่มเหล้า ไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ  ไม่มีเวลาจะสนใจหรือช่วยเหลือดูแลเธอและลูก  ปล่อยให้เธอจัดการงานบ้านและครอบครัวตามลำพัง

แต่ทันใดที่สามีรู้ว่าเธอตั้งครรภ์  เขาดีใจมาก    เพราะเมื่อแต่งงานกันใหม่ ๆ ฐานะของครอบครัวยังไม่ดี  สามียังไม่พร้อมจะดูแลลูกอีกคนได้  เมื่อเธอตั้งครรภ์กับเขา เธอจึงต้องทำแท้ง แต่หลังจากนั้นเธอกลับไม่ตั้งครรภ์ ทั้งสองเคยไปตรวจร่างกาย และปรึกษาแพทย์แต่หมอระบุว่า  เชื้อของสามีไม่ค่อยแข็งแรง  และทำให้เธอมีปัญหาในการตั้งครรภ์


มาวันนี้ สามีเข้าใจว่าเธอตั้งครรภ์ลูกของเขา  ส่วนเธอเชื่อว่าเด็กน่าจะเป็นลูกของชายชู้ซึ่งมีครอบครัวอยู่แล้ว  และเขาไม่สามารถหยิบยื่นอะไรให้เธอได้เลย   นอกจากขอร้องไม่ให้เธอทำแท้ง  แต่เมื่อเธอหันมามองสามีที่แสนดีของเธอ ทำให้หญิงสาวรู้สึกผิด ความดีของเขาสมควรจะได้รับการตอบแทนด้วยความซื่อสัตย์กตัญญูจากภรรยา  ไม่ใช่การหักหลังหลอกลวงหรือสวมเขาให้เขาอย่างที่เธอกำลังเป็นอยู่   ความรู้สึกผิดทำให้เธอคิดอยากจะบอกความจริงสารภาพความผิดต่อสามี  เพื่อเธอจะได้รู้สึกสบายใจ และสามีจะได้ตระหนักในความซื่อสัตย์ของภรรยา แต่เธอก็ไม่แน่ใจในผลที่จะตามมาหากเขารู้ว่าเธอได้ทำอะไรลงไป   เธอรู้สึกสับสนกับเรื่องราวของตนเอง!


แน่นอน...ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเป็นเรื่องถูกต้อง แต่ความรู้สึกนี้ควรจะเกิดขึ้นก่อนจะมาถึงวันนี้   ความดีของสามีน่าจะทำให้เธอมีความระมัดระวัง  รู้จักยับยั้งชั่งใจก่อนจะทำอะไรที่ไม่ดีลงไป  มาถึงวันนี้หรือจุดนี้ การจะรู้สึกผิดก็ดูจะช้าเกินไป  และการจะสารภาพผิดกลับจะยิ่งเป็นความผิดมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว  เพราะวันนี้  เธอไม่ได้มีเพียงลูกชายคนโต  แต่ลูกในท้องกำลังอยู่ในเงื่อนไขว่าจะได้มีโอกาสเกิดขึ้นมาหรือไม่
?


หากเธอบอกความจริงแก่สามีว่าเธอมีชายอื่น และเด็กในท้องน่าจะเป็นลูกของชายชู้   สามีจะยอมรับได้หรือ  หากเขายอมรับได้ (ตอนนี้) ก็คงดี  แต่ในอนาคตที่เด็กเติบโตขึ้นมา  ทุกครั้งที่เขามองหน้าเด็ก   เขาก็จะสะกิดใจและไม่อาจทำใจยอมรับความไม่ซื่อสัตย์ของภรรยาได้  เขาอาจจะพูดจาก้าวร้าวรุนแรงต่อเธอและลูก  หรือยิ่งลูกโตก็ยิ่งปฏิเสธลูกและเธอ   แล้วความสุขจะเกิดได้อย่างไรในบ้านหลังนี้
!


หรือหากเธอบอกความจริงแก่สามีว่าเกิดอะไรขึ้น  สามีโกรธและไม่ยอมรับ  และให้เธอไปทำแท้ง เธอจะทำใจได้ไหม  หากทำแท้งแล้วใช่ว่าเรื่องจะสงบ เขาอาจทำใจยอมรับเธอในฐานะภรรยาต่อไปไม่ได้  การทะเลาะก้าวร้าวรุนแรงทางวาจาย่อมจะนำความเจ็บปวดมาสู่เธอและลูก  รวมทั้งตัวเขา  ความสุขที่เคยมีโดยเฉพาะกับลูกชายคนโตก็จะกระเด็นหายไปด้วยเพราะการตัดสินใจของแม่


เพราะฉะนั้นหากเราตระหนักว่า  ถ้าพูดหรือสารภาพไปแล้วจะมีปัญหามากมายตามมา  โดยเฉพาะจะไม่เกิดประโยชน์ต่อลูกของเราทั้งสองคน  ทั้งยังนำความทุกข์ ความเสียหายมาสู่ลูกสองคนของเรา ในฐานะของคนที่เป็นแม่  ที่ต้องคำนึงถึงความทุกข์สุขตลอดระยะเวลาของการเจริญเติบโตของลูกทั้งสองคน   การสารภาพผิดจึงไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดขณะนี้


นั่นหมายความว่า  การแสดงความเปิดเผยจริงใจระหว่างสามีภรรยาเป็นเรื่องจำเป็น แต่ในกรณีนี้ดูเหมือนว่า “ความลับนี้” ยังไม่ถึงเวลาต้องเปิดเผย  แต่ก็มีคำถามว่า หากไม่บอกเขาตอนนี้ แต่รอจนลูกโต แล้วสามีจับได้ว่า “ลูกคนนี้ไม่ใช่ลูกที่เกิดจากเขา!” แล้วทั้งตัวภรรยาและลูกจะทำอย่างไรต่อไป หากสามีรู้ความจริง?


แน่นอน...บนเส้นทางของสถานะความเป็นแม่  ชีวิตมี “ความเสี่ยง” มากมายที่คนเป็นแม่จะต้องเดินด้วยความระมัดระวังเพื่อนำพาลูก ๆ ไปสู่เป้าหมายของความสำเร็จด้วยความปลอดภัย  ในกรณีนี้  เมื่อพ่อ  พอใจและพร้อมยอมรับลูกคนโตและคนที่กำลังจะเกิดในขณะนี้  พฤติกรรมของแม่ในการส่งเสริมสนับสนุนให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกมีความผูกพันใกล้ชิด เป็นเรื่องจำเป็นที่แม่จะต้องทำให้เกิดขึ้น  เพราะท่ามกลางวันเวลาที่ผ่านไป ย่อมถักทอสายใยแห่งความรักความเอื้ออาทรระหว่างพ่อลูก จนแนบแน่นเกินกว่าความลับใด ๆ จะมาหักล้างและทำลายสายใยของความสัมพันธ์ครั้งนี้ได้ !


บทบาทของผู้ทำหน้าให้คำปรึกษาแนะนำในกรณีนี้  ไม่ว่าจะเป็น นักจิตวิทยา  นักสังคมสงเคราะห์ หรือจิตแพทย์  หรือบุคลากรทางการแพทย์  ย่อมจะต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุด ที่ผู้มาขอคำปรึกษาจะได้รับ   โดยสะท้อนให้ฝ่ายหญิงได้ตระหนัก ถึงผลที่เธอจะต้องเผชิญจากการตัดสินใจของเธอ ทั้งทางตรงและทางอ้อม


กลับด้านบน