มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ

ครอบครัว....ความรัก....และความรุนแรง (ตอน) “รักต่างวัยทำอย่างไรจะไปรอด”

15 ธันวาคม 2563
ครอบครัว....ความรัก....และความรุนแรง (ตอน) “รักต่างวัยทำอย่างไรจะไปรอด”

อาจารย์คะ เรื่องมีดังนี้ค่ะ หนูมีแฟนแก่กว่า 15 ปี ค่ะ เขามีธุรกิจส่วนตัว มีลูกสองคน หย่ากับภรรยามาหกปีได้แล้วค่ะ ตอนนี้เขาอายุ 42 ปี ส่วนหนูทำงานบริษัทค่ะ อายุ 25 ปี    ปัญหาของเราเกิดขึ้นจากเวลาที่   หนูทำใจไม่ได้ ไม่ค่อยพอใจเวลาเขาไปหาลูก หลัง ๆ ก็พยายามทำใจยอมรับว่าเขาพ่อลูกกัน แต่พอหนูอธิบายความรู้สึกให้เขาฟังบ้างว่า หนูอยากใช้เวลาอยู่กับเขาให้มากกว่านี้ เขาก็บอกว่า ก็เราอยู่ด้วยกันทุกวันแล้วไง แต่ความรู้สึกของหนู หนูอยากมีกิจกรรมนอกบ้านที่ทำร่วมกันกับเขาในวันหยุดค่ะ!  พอพูดแค่นี้  เขาก็มีอารมณ์ไม่ค่อยพอใจบอกว่า เขาเบื่อ เบื่อที่ต้องทะเลาะกัน เบื่อปัญหาเดิม ๆ เบื่อชีวิตคู่!

พอหนูถามว่าอยากจะเลิกเลยรึเปล่า เขาบอกว่าก็อาจจะ เพราะหนูไม่เคยเข้าใจเขาเรื่องลูก ระยะหลังมานี่ ภรรยาเก่าเขา ก็เอาเรื่องโน้น เรื่องนี้มาปรึกษาเขา คุยกันเป็นเรื่องเป็นราว แล้วก็ต้องมาขอความช่วยเหลือว่าให้ไปไกล่เกลี่ยปัญหาให้ จองตั๋วเครื่องบินให้ลงใต้ไปเคลียร์ปัญหา ระยะหลังภรรยาเก่าเขาก็อาจจะเลิกกับสามีใหม่แล้ว  หนูควรทำอย่างไรคะ  หนูรู้สึกอึดอัดค่ะ คำพูดที่เขาพูดกับหนูว่าเบื่อ มันยังดังก้องในหู   ใครบอกว่ามีแฟนแก่กว่าดี ที่ไหนได้หนูเจอมาไม่ใช่เลยค่ะ

เขาเป็นคน ไม่หวาน ไม่โรแมนติก เรื่องบนเตียงอาทิตย์ละครั้งเองค่ะ ไม่ค่อยมีอารมณ์ขัน พูดอะไรไม่ค่อยถนอมน้ำใจ จนบางครั้งหนูว่า เขาเห็นแก่ตัวเรื่องลูกจริง ๆ ค่ะ หนูเหงา บอกเขา เขาก็บอกโตแล้วไม่เหงาหรอก  เขากลับบ้านดึกทุกวันค่ะอาจารย์

กลับบ้านมาหนูก็หลับแล้ว ตื่นสายไปทำงานเพราะธุรกิจตนเอง แต่หนูต้องตื่นตี 5 บางทีหนูก็ไม่รู้จะทนทำไม แต่เพราะที่ผ่านมาเจอแต่คนไม่ดีค่ะ พอมาเจอเขา เขาก็ไม่เจ้าชู้ค่ะ แต่ปัญหาที่มากระทบหนูก็เรื่องลูก กับภรรยาเก่าเขา ที่ยังต้องมาขอให้เขาช่วย หนูควรทำอย่างไรดีคะอาจารย์   เรื่องเงิน ไม่เคยมีปัญหาค่ะ   เขาช่วยหนูตลอด หรือหนูยังโตไม่พอค่ะอาจารย์ แล้วหนูควรทำอย่างไรดี หรือหนูควรนิ่งคะ ถามว่ารักเขาไหม ก็รักค่ะ!”

 

อ่านจดหมายฉบับนี้แล้ว ทำให้คิดถึงเรื่องราวของ นายเอ็มมานูเอล มาครง ผู้ซึ่งได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศฝรั่งเศสด้วยวัยเพียง 39 ปี ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศนี้  แต่เรื่องราวส่วนตัวของเขากับภรรยา นางบริจิตต์ โทรนเญอซ์ อายุ 64 ปี ผู้หญิงที่เขาเลือกเป็นภรรยาซึ่งเป็นแม่หม้ายที่มีวัยสูงกว่าเขาถึง 24 ปี  กลับเป็นเรื่องที่สร้างความประทับใจแก่ผู้คนอีกมากมายทั่วโลก โดยเฉพาะกับผู้หญิง  

 

ที่ผ่านมาในสังคมไทย การที่หญิงสาวจะแต่งงานกับชายแก่ ถือเป็นเรื่องธรรมดา ดูเหมือนความสวยสดใสของเธอจะช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้สามีดูมีสง่าบารมีขึ้น ดูอย่างกรณี นายทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาที่เคียงข้างด้วยภรรยาสาว (คนที่สาม) ก็ช่วยให้เขาดูสดชื่นกระชุ่มกระชวยขึ้นกว่าตอนที่เดินอยู่ตามลำพัง แต่ในกรณีชายหนุ่มกับหญิงสูงวัย  แทบจะไม่เคยเป็นข่าวหรืออยู่ในสายตาของผู้คนทั่วไป จนดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครต้องการจะพูดถึง  หรือเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!

 

ข่าวเล่าว่า เมื่อครั้งที่ “นายมาครง” อายุได้ 15 ปี ในชั้นเรียนที่อดีตครูที่สอนเขาหรือภรรยาในปัจจุบันยืนสอนอยู่หน้าชั้น เขาได้เดินตรงไปหาเธอแล้วกล่าวว่า “วันหนึ่งผมจะแต่งงานกับคุณ !” ไม่มีใครเชื่อว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ในขณะนั้นเขาอายุ 15 ปี ส่วนครูสาวอายุ 39 ปี มีสามีและลูกอีกสามคน  แต่วันเวลาที่ผ่านไป   เด็กหนุ่มคนนั้นก็ได้พิสูจน์ความรัก และความหนักแน่นมั่นคงของเขาที่มีต่อเธอตลอดเกือบ 15 ปี หลังจากนั้นทั้งสองแต่งงานกันใน พ.ศ. 2550 เมื่อเขาอายุ 29 ปี ส่วนเธออายุ 54 ปี และวันนี้หลังจากแต่งงานอยู่กินกันมากกว่าสิบปี  Emmanuel Magron  ก็ทำให้เธอกลายเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส  หรือความจริงคือ  เธออาจเป็นคนทำให้เขาได้เป็นประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดของประเทศฝรั่งเศสก็ได้   นั่นเป็นเรื่องที่โรแมนติกยิ่งกว่าเทพนิยายรักใด ๆ ในโลกนี้!

 

แน่นอน...เมื่อคนสองคนที่มีความแตกต่างกันมากมายทั้งวัยและประสบการณ์ การเดินทางร่วมกันบนถนนสายนี้ ถนนสายที่ขัดแย้งต่อต้านไม่เห็นด้วยของสมาชิกในครอบครัวของทั้งสองฝ่าย  ถนนสายที่มีขีดข้อจำกัดทางกฎหมายที่ทั้งสองต้องเดินด้วยความระมัดระวัง  ท่ามกลางความทะเยอทะยานที่จะเดินไปสู่เป้าหมายทางอาชีพ... มันใช่เรื่องง่าย  หรืออาจทำให้ปัญหาของผู้คนอีกมากมายในลักษณะนี้กลายเป็นเรื่องเล็กไปได้!

 

กรณีของหญิงสาวข้างบนนี้ (อาจสะท้อนภาพผู้หญิงทั่วไปในกลุ่มประเทศอาเซีย)  จะเห็นว่าการที่หญิงสาวคนหนึ่งแต่งงานกับชายสูงวัยกว่า เธอย่อมคาดหวังการรักใคร่เอาใจใส่  การเอาอกเอาใจดูแลอย่างใกล้ชิดทะนุถนอม เธออยากให้เขามีเวลาให้กับเธอนาน ๆ ในแต่ละวัน ได้ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกัน ทำให้เธอรู้สึกว่าตนเองสำคัญ มีคนคอยให้บริการให้ความสะดวกสบาย ให้การปกป้องคุ้มครองเหมือนเธอเป็นเจ้าหญิงน้อย ๆ   และ ที่สำคัญคงจะดีมาก ๆ หากฝ่ายชายจะมีฐานะการเงินที่ดีพอสมควร  เพราะส่วนใหญ่คู่สมรสที่อยู่ในวัยเดียวกันก็ต้องช่วยกันทำมาหากินสร้างฐานะ  กว่าจะถึงวาระของความมั่งคั่งสะดวกสบาย  ทั้งสองฝ่ายก็อาจหมดแรง ในขณะที่ภรรยาอาจหมดความสนใจฝ่ายชายต่อไป เขาก็อาจต้องการสาว  ๆ  อ่อนวัยไว้ออดอ้อนออเซาะให้หัวใจชายสูงวัยกระชุ่มกระชวยอีกครั้ง นั่นคือความต้องการของภรรยากับสามีในแต่ละคู่ ยังจะมีความแตกต่างกันในรายละเอียดอีกมาก

 

ในกรณีนี้ที่เห็นชัดเจนคือ  ฝ่ายชายหย่าขาดจากภรรยาคนแรก  แต่ยังส่งเสียเลี้ยงดูลูกอีกสองคน และถึงจะหย่าขาดจากกัน  และฝ่ายหญิงมีสามีหรือคู่สมรสใหม่แล้ว  แต่ทั้งสองยังรักษาความเป็นเพื่อนสนิทในการจะพูดคุยปรึกษาเรื่องลูก  เรื่องส่วนตัวในฐานะคนวัยเดียวกัน  รู้ใจคุ้นเคยกันและอาจจะจะมีอาชีพเดียวกันมาก่อน การหย่าขาดจึงไม่อาจตัดสัมพันธ์อันยาวนานในฐานะ “เพื่อนและการเป็นพ่อแม่ของลูกอีกสองคนได้” และหากภรรยาใหม่ไม่เข้าใจ  ยอมรับไม่ได้  ปัญหาย่อมจะเกิดขึ้นกับตัวเธอ นั่นคือความรู้สึกผิดหวัง!

 

สำหรับผู้หญิงวัย 25 ปี การแต่งงานเป็นการเริ่มต้นเดินทางบนเส้นทางของความฝัน เหมือนนกน้อยตัวเล็ก ๆ ที่เพิ่งออกจากอกพ่อแม่มาผจญภัย  อยากจะได้ดูโลกกว้าง อยากลอยละลิ่วเล่นลม  โดยไม่ได้ระแวดระไวกับความเป็นไปของคนอีกมากมาย  ทั้งอาจไม่ระแวงภัยรอบ ๆ ตัว โดยเฉพาะเมื่อแต่งงานกับชายสูงวัยที่ดูคล้าย “พญานก” ที่เธอคาดว่าเขาจะสามารถปกป้องคุ้มครองและดูแลเธอให้มีความสุข  สนุกสนาน  และปลอดภัยได้บนฟากฟ้ากว้าง  โดยมองไม่เห็นชัดเจนถึงความแตกต่างระหว่างวัย    โดยเฉพาะ “นกใหญ่” ย่อมอยู่สูงแสนไกล จะให้บินต่ำลงมามาก ๆ  คงยากสักหน่อย  จำเป็นที่นกเล็กจะต้องฝึกบินให้สูงขึ้น  เพื่อจะได้พบกันครึ่งทาง จะได้ช่วยเหลือประคับประคองบินไปด้วยกันได้ นั่นคือในฐานะภรรยาวัยสาว ขณะที่สามีมีฐานะพอที่จะส่งเสียดูแลให้ความสะดวกสบายกับภรรยาใหม่ได้  เธอก็จะต้องทำหน้าที่เป็นผู้ให้ความเข้าใจ  ให้การบริการ รับรู้ รับฟังปัญหาของเขาด้วย  ศึกษานิสัยใจคอของสามี  ว่าเขาคิดและต้องการอะไร   การจะเรียกร้องให้เขาต้องทำในสิ่งที่เขากับภรรยาก่อนเคยทำมาแล้ว เช่น มีเวลาแสดงความรักอ่อนหวานเอาอกเอาใจ บางทีฝ่ายชายในคนที่เคยผ่านชีวิตคู่มาแล้ว  เขาก็อาจเบื่อหน่ายและไม่สนใจการกระทำเช่นนั้นต่อไป แต่หากฝ่ายหญิงต้องการ  ก็ต้องเริ่มทำให้เขารู้สึกสบายใจและไม่รำคาญ โดยเฉพาะเมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่  และต้องการให้เธอเป็นผู้ใหญ่ด้วย  เธอก็ต้องโตไปกับเขาบ้าง  เพื่อให้เขารู้สึกว่ามีเพื่อนที่พูดคุยกันรู้เรื่อง

 

การที่สามียังพบปะพูดคุยปรึกษากับภรรยาเก่า ในเรื่องส่วนตัวเรื่องลูก  ๆ  เพราะเขาเคยอยู่กินคุ้นเคยกันมาก่อน เคยทำหน้าที่มีความรับผิดชอบร่วมกัน  เคยมีความรู้สึกดี  ๆ  ต่อกัน  มีความเคารพในกันและกัน  ถึงเลิกร้างกันไปเขาก็ยังคงความเป็นเพื่อนไว้   ไม่เสียหาย ไม่ใช่เรื่องที่ภรรยาใหม่จะต้องไปหึงหวง หรือแสดงความเป็นปรปักษ์  ตรงกันข้ามกลับต้องแสดงความเป็นมิตร  ให้ความเคารพและปฏิบัติต่อเธอและลูก  ๆ  ด้วยความสุภาพและมีเมตตา

 

จะเห็นได้ว่า  แม้เป็นภรรยาสาวที่มีความสาวสดสวยเป็นจุดเด่น  ก็ใช่ว่าเส้นทางนี้จะโรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป   แต่ด้วยวัยที่อ่อนกว่าฝ่ายชายมาก  ความผิดพลาดบกพร่องก็อาจถูกมองข้ามไปได้ด้วยตัวเธอเองและคนรอบด้าน โดยเฉพาะหากฝ่ายชายรักหลงเธอมากจนมองไม่เห็นความแตกต่างใด ๆ   ในขณะที่ กรณีผู้หญิงสูงวัยจะแต่งงานหรืออยู่กินกับชายหนุ่มรุ่นเด็กกว่ามากนั้น  ดูจะไม่เป็นที่ยอมรับหรือถูกมองว่าไม่ปกติตั้งแต่เริ่มต้น  คำพูดประชดประชันมักมุ่งตรงไปที่  “ผู้หญิงรวยเท่านั้นจึงจะหาผู้ชายหนุ่มหรือสามีหนุ่มได้!”  นั่นคือหากเธอไม่รวยจริง  ก็คงไม่มีหนุ่มที่ไหนจะสนใจผู้หญิงเหี่ยวแก่คราวแม่ได้!”  หรือผู้ชายที่แต่งงานกับผู้หญิงที่อายุสูงกว่ามาก ๆ ก็เพราะเงินของเธอเท่านั้น เราจึงเปรียบเทียบคู่สมรสระหว่างชายหญิงสูงวัยแตกต่างกันมากว่า  “หนูตกถังข้าวสาร!”  นั่นคือถือว่า  ฝ่ายหนึ่งโชคดีที่ไม่ต้องทำมาหากินเพราะคู่สมรสรวยอยู่แล้ว หรือการที่ชายหนุ่มจะแต่งงานกับหญิงสูงวัยนั้นก็เพียงเพราะ “เพื่อเงิน”  เท่านั้นเอง  เพราะฉะนั้นถึงทั้งสองฝ่ายจะมีใจให้แก่กันจริง ๆ ก็ไม่บ่อยนักที่จะเห็นความกล้าหาญของทั้งสองฝ่ายในการก้าวออกมาให้อยู่ในสายตาของผู้คนในสังคม  แม้จะเป็นสังคมตะวันตกก็ตาม 

 

กรณีของประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของประเทศฝรั่งเศส  เส้นทางรักของ “นายมาครง” เริ่มขึ้นด้วยวัยเพียง  15  ปี ที่เขายืนมองครูสาววัยเกือบ 40 ปี ด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นว่า  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  ผู้หญิงคนนี้แหละที่เขาจะเลือกขอแต่งงานในวันหนึ่งข้างหน้า  คือเขา “เลือกแล้ว” ตั้งแต่อายุ 15 ปี  ท่ามกลางการคัดค้านต่อต้านของครอบครัวทั้งสองฝ่าย  แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งความหนักแน่นมั่นคงในจิตใจของเด็กหนุ่มคนนั้นได้  ซึ่งสะท้อนความกล้าหาญ   ความมุ่งมั่น  และความเชื่อมั่นเป็นตัวตนของเขาในวันนี้  วันที่เขากลายเป็นผู้นำประเทศฝรั่งเศสด้วยวัยเพียง 39 ปี ส่วนเธอ “ผู้หญิงสูงวัยคนนั้น ปัจจุบันเธออายุ 64 ปี”  และเป็นศรีภรรยาของเขามากว่าสิบปีแล้ว

 

แน่นอน  คงยากที่ใครจะเข้าใจถึงปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นบนเส้นทางรักของทั้งคู่ตลอดระยะเวลากว่า 15 ปี ที่ผ่านมา  โดยเฉพาะเธอนั้นมีทั้งสามีคนแรกกับลูกอีกสามคน  เธอมีหน้าที่ความรับผิดชอบในการดูแลเลี้ยงดูครอบครัว  และทำงานสอนหนังสือเพื่อสร้างรายได้  ท่ามกลางการต่อต้านคัดค้านของคนรอบด้าน  กลุ่มบุคคลที่เธอต้องใช้ชีวิตร่วมด้วย  ที่มองว่าเธอไม่ยุติธรรมกับชีวิตของเด็กหนุ่ม  ซึ่งสมัยนั้นเธออาจจะรู้สึกได้ว่า คำพูดของเด็กหนุ่มเป็นเพียงคำพูดลม ๆ  แล้ง ๆ  ของคนช่างฝันคนหนึ่ง  หากเธอเชื่อมั่นในคำพูดนั้น  ความสัมพันธ์อาจจบลงที่ความบาดเจ็บอันมากมายของเธอเพียงลำพังเช่นกัน.....ไม่มีใครรู้ว่า อะไร  หรือเมื่อไร ที่จิตวิญญาณของเธอกับเขาได้หล่อหลอมเป็นดวงเดียวเพื่อเกาะเกี่ยวกันเดินข้ามมหาสมุทรอันกว้างใหญ่  เพื่อทำให้ฝันนั้นเป็นจริง!    

 

ที่สำคัญ  หากเราเชื่อว่า  คำว่า “ความรัก”  คือเครื่องผูกพันความสัมพันธ์ของคนสองคนเอาไว้  หรือจะเรียกว่า  “รักแรกพบ” สำหรับเด็กหนุ่มวัย 15 ปี  ก็แล้วผู้หญิงที่มีทั้งสามีและลูกในวัย  39 ปี เธอจะเชื่อคำพูดของเด็กหนุ่มคนนั้นหรือ? หรือว่าเธอเองก็ต้องมนต์เสน่หาเช่นเดียวกับเขา  หรือเพราะจิตวิญญาณของความเป็น “แม่”  ที่ทำให้เธอยอมรับเขาไว้ด้วยใจเมตตา    เป็นไปได้หรือเปล่าที่ฝ่ายหญิง  เริ่มต้นที่ความรักใคร่เมตตาเหมือนครูรักนักเรียนคนหนึ่ง  หรือเหมือนที่แม่จะรักลูกของเธอเอง  จากนั้นจึงพัฒนาไปเป็นความรักของหญิงชาย!

 

เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า  ในความเป็นผู้หญิงไม่ว่าจะอยู่ในวัยใด   เธอย่อมมีสันชาติญาณของความเป็นแม่อยู่แล้ว  จึงเป็นไปได้ที่ความสัมพันธ์ระหว่าง นายมาครงและภรรยา  จะมีทั้งความรักฉันหญิงชายและเป็นความรักใคร่ผูกพันฉันแม่กับลูกชาย  ซึ่งนับเป็นความโชคดีของทั้งสองฝ่ายที่สามารถใช้วัยวุฒิของฝ่ายหญิงมาถักร้อยเติมเต็มช่องว่างระหว่างวัย ให้สามารถเรียนรู้ในการช่วยเหลือประคับประคองชีวิตสมรส ให้มีความสุขและสมดุลได้อย่างที่เห็นจากในข่าว

 

เพราะฉะนั้นการนำเรื่องราวของรักต่างวัยมาใช้เป็นตัวอย่างในกรณีนี้  แม้จะเป็นเรื่องในต่างประเทศ  หรือเป็นคู่สมรสต่างชาติพันธุ์  แต่ในความเป็นมนุษย์แล้ว  เราต่างมีหัวใจและความปรารถนา ที่จะมีชีวิตคู่อย่างมีความสุขเสมอกัน  การเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์จึงเป็นเรื่องจำเป็น   ดังเช่นคู่สมรสที่ปรึกษามาข้างต้นนี้  ปัญหาและอุปสรรคที่คุณผู้หญิงเล่ามา อาจเกิดขึ้นจากการขาดการเรียนรู้ในการปรับตัวเข้าหากัน  หรือต่างฝ่ายอาจยังไม่เข้าใจในบทบาทหน้าที่ และความต้องการที่แท้จริงของกันและกัน ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการพูดคุยสื่อสารกันอย่างตรงไปตรงมา   เมื่อต่างฝ่ายต่างตกลงแต่งงานมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน  ก็ด้วยเหตุผลเดียวกันคือ  “ความรัก” เราก็ต้องใช้ความรักเป็นเครื่องมือในการฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหมดให้ผ่านพ้นไปได้ในที่สุด......

 

ผู้คนมากมายกล่าวไว้เสมอว่า ความรักเป็นความสวยสดงดงาม  เหมือนกุหลาบแรกแย้มแห่งฤดูใบไม้ผลิ  เป็นความมหัศจรรย์ของชีวิต ที่ให้กำเนิดทุกอย่างบนโลกนี้  ความรักเป็นเหตุผลของการมีชีวิตอยู่  และความรักคือมงกุฎทองที่ทำให้ผู้ชายธรรมดากลายเป็นพระราชา.....” นี่เป็นเพียงส่วนนิดเดียวของคำบรรยายเปรียบเทียบคำว่า “ความรัก”  แต่ทำให้มองเป็นความ “กล้าหาญและความพยายามอันยิ่งใหญ่”  ที่คนสองคนจะต้องนำความแตกต่างมากน้อยมาผสมผสานกันให้สมดุล ถึงหากจะก้ำเกินกันบ้าง ต่างต้องรู้จักการให้เกียรติ  การให้ความเคารพ  และการให้อภัยในกันและกัน สองคนนั้นจึงจะเดินไปถึงจุดหมายปลายทางด้วยกันในที่สุด


กลับด้านบน