มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
ความรัก

เลิกกับแฟนทั้งที่ยังรักกันค่ะ คือรักเค้ามากส่วนเค้าก้อรักเรามากแต่การที่เค้ามีเราเข้ามามันทำให้เค้าลำบากอยู่ด้วยกันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมีแต่แย่ลง จากที่เคยมีรถมีเงินตอนนี้ไม่เหลืออะไรเลย นี่คือสาเหตุที่เราต้องได้เลิกกันค่ะ ตอนนี้เครียดมาก เครียดจนสติแตก จนกินยาฆ่าตัวตายและยิ่งไปกว่านั้น คือเราอยู่บ้านหลังเดียวกันแต่เวลาเค้าเลิกงานมาเราจะต่างคนต่างอยู่ เค้าดูเฉยชากับเรามาก เค้าเปลี่ยนไปมาก ตอนนี้เหมือนคนที่ไม่รู้จักกันเลยค่ะ คุยสักคำก็ไม่มี คือตอนนี้อึดอัดและเครียดมากไม่รู้จะคุยกะใครได้ เค้ากลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้ว มันทรมานจริงๆที่ต้องจบแบบนี้ ไม่รู้จะเดินหน้าต่อไปยังไงดี รู้สึกไม่อยากทำอะไรไม่อยากมีใครอีกแล้ว และไม่อยากอยู่แล้วค่ะ

เกวรินทร์
uiresa325@gmail.com
3 กรกฎาคม 2562 03:29

คุณเกวรินทร์ คุณไม่ได้ให้ข้อมูลว่า ทรัพย์สินที่ว่าหายไปเพราะอะไร หรือใครนำไปใช้หมด อย่างไรก็ตาม หากเรายอมรับได้ว่า ทรัพย์สินหรือวัตุนั้นเมื่อหามาได้ ก็หายก็หมดไปได้ ต่อไปเราก็ยังสามารถจะหาใหม่ได้เช่นกัน แต่อาจารย์กไม่คิดจะนำมาเปรียบกับความรู้สึก โดยเฉพาะ ในเรื่องของ"ความรัก" เพราะไม่ใช่เพียงเป็นความรู้สึกในจิตใจเท่านั้น ความรักที่เรามีให้ใครสักคน อาจรวมหมายถึงจิตวิญญานของเราด้วย จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่เราจะหลงลืมหรือ กำจัดออกไปได้ในเวลาอันรวดเร็ว ดังที่คุณเกวรินร์กำลังรู้สึกอยู่ขณะนี้ และอาจจะเกิดขึ้นกับคนรักของคุณด้วยเช่นกัน แต่ในฐานะที่เขาเป็นผู้ชายที่อาจต้องรับผิดชอบคนรัก ตัวเขา และอาจมีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ คือพ่อแม่ของเขา ด้วยภาวะความรับผิดชอบของเขาที่มีอยู่ เมื่อต้องสูญเสียทรัพย์สินที่เคยมีเคยเป็นเครื่องมือในการดำเนินชิวิตประจำวัน ก็อาจทำให้เขาเครียด วิตกกังวล และหรืออาจมีปัญหาอื่น ๆ ตามมาด้วย กรณีที่คุณบอกว่า ทั้งเขาและคุณต่างก็รักกันมาก ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องดี แต่อีกส่วนอาจสร้างความตึงเครียดเพราะเราต่างห็คาดหวังในตัวเองและคาดหวังจากคนรักมากเกินความสามารถที่คนหนึ่งคนใดจะแบกรับไว้ได้ ทำให้กลายเป็นความเปราะบางอ่อนไหวและ ขาดความหนักแน่นมั่นคง เพราะฉะนั้นคนรุ่นเก่า ๆ มักจะสอนสั่งแนะนำให้หนุ่มสาวคู่รักคบหาดูใจกันไปนาน ๆ เพื่อได้เรียนรู้จักกันจริง ๆ และฝึกความเข็มแข็งอดทนในความสัมพันธ์ระหว่างกันและกัน จากวันแรกที่อ่อนไหวเหมือนยอดหญ้าก็กลับมีความแข็งแกร่งเป้นต้นไม้ใหญ่ ให้เป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวของกันและกันก็ได้ ลองหันกลับไปพิจารณาเรื่องราวพฤติกรรมของคุณเกวรินร์เองว่ามีจุดอ่อนตรงไหน ีเรื่องอะไรที่เป็นปัญหาสำหรับตัวเองและคนรักบ้าง ครอบครัวเราเป็นอย่างไร ถึงเราจะมีคนรักแล้ว แต่ก็ควรกลับไปเยี่ย่มพูดคุยปรึกษาพ่อแม่คนในครอบครัวด้วย อย่าคาดหวังเพียงผู้ชายเท่านั้น ที่สำคัญ ในภาวะวิกฤติที่กำลังเผชิญอยู่ จะเพราะเกิดจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหรือทั้งสองฝ่ายก็ตาม แม้จะเหนื่อยและท้อแค่ไหนก็ต้องพยายามทำตัวให้เข้มแข็ง เป็นกำลังใจของกัและกันอย่าให้ความอ่อนแอของเรากลายเป็นภาระของอีกฝ่ายหนึ่ง คนรักกันย่อมร่วมทั้งทุกข์และสูขหมายความว่าหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีทุกข์ก็ต้องช่วยกันแก้ไข ต่างฝ่ายต่างต้อง่วยกันทำงานแบ่งปันด้วยการช่วยลดทุกข์เพิ่มสุขให้กันและกัน นั่นแหละจึงจะถือว่ารักกันจริง ๆ ลองถามตัวเองซิว่าเราได้ทำอะไรไปเพื่อเขาบ้าง มากพอหรือยัง และเขาทำอะไรให้เราบ้าง มากแค่ไหนที่เราลงทุนด้วยหัวใจและความรัก ในขณะนี้ถึงหากเขาไม่พูดไม่รู้จะพูดอะไร คุณก็ต้องเป็นฝ่ายเริ่มได้ คุณเองก็รู้ปัญหาอยู่แล้ว ไม่เสียหายที่จะเป็นฝ่ายพูด หรือบอกเขาถึงความรู้สึกของคุณว่าคิดรู้สึกอย่างไร และหากปัญหานี้คุณเป็นผู้สร้าง ก็ไม่ต้องอายจะกล่าวคำว่า ขอโทษ หรือเสียใจที่ทำไป และขอโอกาสเขา เพื่อเราจะได้ตั้งตนใหม่ การที่แนะนำเช่นนี้ แม้คุณจะให้ข้อมูลไปไม่หมด แต่เมื่อคุณบอกว่า ต่างฝ่ายต่างรักันมาก ก็แสดงว่า เขาเป็นคนดีมากสำหรับคุณ และหากเขารักเรามาก เราก็ไม่ควรจะต้องแยกทางกัน เพียงแต่คุณและเขาอาจต้องการเวลาในการปรับเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตนเองบ้าง การเปลี่ยนแปลงเป็นความเจริญเติบโต เพราะฉะน้นหากเราต้องห่างกันบ้างก็อาจะจะดีสำหรับทั้งสองคน เมื่อสภาพจิตได้รับการเยียวยา เราก็สามารถจะกลับมาอยู่ด้วยกันต่อไปได้ ไม่จำเป็นจะต้องคิดถึงเรื่องความตาย เพราะคุณจะไม่ได้อะไรจากการกระทำหรือความคิดนั้น แต่การปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อไขว่คว้าเอาคนดี ๆ ที่เรารัก คือเขากลับมา ดงจะทำใด้ง่ายกว่า เพราะเขารักเราอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นขอให้มุ่งมั่นพัฒนาตนเองและความสัมพันธ์จะ ไม่ดีกว่าหรือค ะ หรืออย่างน้อยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนั้นก็เพื่อที่เราจะได้ก้าวต่อไปด้วยหัวใจที่มั่นคงเข้มแข็งกว่าเดิม ลองไตร่ตรองดูนะ เขียนใปเพิ่มเติมได้ค่ะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
3 กรกฎาคม 2562 14:14
Post อันดับที่ 1

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ แต่ตอนนี้เขาเลิกกับหนูไปแล้วและเขาก็มีคนใหม่แล้วค่ะซึ่งพึ่งเลิกกันได้แค่3วันเอง ตอนนี้หนูรุ้สึกแย่มากเลยค่ะ

เกวรินทร์
4 กรกฎาคม 2562 19:20
Post อันดับที่ 2

หนูเกวรินทร์ อาจารย์เสียใจด้วยนะที่ได้ยินว่า เขาก้าวออกไปจากเราแล้ว และเพียงสามวันก็มีคนใหม่แล้ว ถ้าพูดกันตรง ๆ ก็ต้องบอกว่า หนูเกวรินทร์โชคดี และคนที่โชคร้ายอาจเป็นคนใหม่ เพราะพฤติกรรมของเขาสะท้อนให้เห็นว่า เขาอาจเป็นคนขี้เหงา อยู่คนเดียวไม่ได้ หรือไม่กล้าที่จะใช้ชีวิตตามลำพัง ซึ่งโดยธรรมชาติของคนเรา ดารต้องอยู่คนเดียวบ้าง ระยะสั้น ๆ ระยะยาว ๆ บ้าง เป็นเรื่องปกติ เพราะสุดท้ายเราก็ต้องอยู่ตัวคนเดียวกันทุกคน การฝึกตัวเองให้คุ้นเคยไว้ไม่เสียหายหรอกนะ แต่ตอนนี้เรารู้สึกผิดหวัง เสียใจ เงียบเหงา ว้าเหว่ใจมองไปข้างหน้ามีแต่ความว่างเปล่า หลายคนรู้สึกเหมือน หัวใจแหลกสลายออกเป็นเสี่ยง่ ๆ แต่นั่นแหละนะ ถึงจะเจ็บปวดแค่ไหน ก็ต้องพยุงตัวเดินไปเก็บชิ้นส่วนนั้นมาปะติดปะต่อเข้าที่เดิม แล้วก็ใส่ยารักษาใจด้วยน้ำตาตามลำพัง ด้วยความหวังว่า ครั้งต่อไปเราจะไม่รักใตรมากเท่านี้ หรือคงยากจะรักใครได้อีกครั้ง ทว่า... ส่วใหญ่กามเทพมักชอบเล่นตลก เวลาผ่านไปได้ไม่นานเราก้กลับมาตกหลุมรักอีกครั้ง ก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ตรวจสอบให้เห็นชัด ๆ ว่าจะรักใครสักคน คนคนนั้นมีค่าควรแก่ความรักของเราหรือไม่ เราอาจจะมีเวลาคิดไตร่ตรองได้มากกว่าครั้งก่อน ถึงวันนี้เราได้ตระหนักหรือยังว่า "ความรักคือความเสี่ยง!" เสี่ยงต่อการสมหวังหรือผิดหวัง เสี่ยงต่อสุขและทุกข์ เสียงต่อความพ่ายแพ้และชนะ เพราะฉะนั้นหากเราต้องการจะมีรักและเป็นที่รัก คงต้องมีความกล้าที่จะเสี่ยงกับความสมหวังหรือผิดหวัง หากยามนี้เราเสียใจผิดหวัง ต้องบอกกับตัวเองว่า "ไม่เป็นไร ประสบการณ์ครั้งนี้จะทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้น และโอกาสที่จะได้พบกับคนที่ดีกว่าเดิมก็มากขึ้นเช่นกัน เพราะเราจะให้เวลาตัวเองในการเรียนรู้จักรักครั้งใหม่อย่างใจเย็นและระมัดระวัง!" เพราะฉะนั้นการกระโจนเข้าสู่รักครั้งใหม่เพื่อชดเชยหรือเยียวยาความเสียใจที่ผ่านมา อาจกลายเป็นความผิดพลาดครั้งที่สองก็ได้ ใครไม่รู้เคยพูดว่า "หัวใจก็เหมือนห้องเช่า คนเก่าออกไป ก็ต้องใช้เวลาในการทำความสะอาดห้องสักระยะ เพื่อต้อนรับคนใหม่เข้ามา!" ก็อย่าให้นานนักก็แล้วกัน คนมากมายอาจชอบจมอยู่กับความสูญเสีย มองไม่เห็นว่ามีอีกหลายคนกำลังรอเราอยู่เช่นกัน เพราะฉะนั้นตั้งสติให้ดี และจำไว้ว่า การที่ต้องพลาดจากคนนี้ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นคนสุดท้ายในโลกนี้ ศึกษาเรียนรู้จากประสบการณ์ มองย้อนกลับไปแล้วไตร่ตรองถามตัวเองว่า ในความสัมพันธ์ที่ผ่านมา เราได้ทำดีที่สุดแล้วหรือยัง มีข้อบกพร่องตรงไหนต้องแก้ไขก็ทำเสีย หากพบว่าเราทำดีที่สุดในฐานะคนรักแล้ว เขายังไม่เห็นค่าของเรา เขายังก้าวไปจากเราททั้งที่บอกว่ารักเราเสียนักหนา นั่นหมายความว่า เมื่อเขาไม่เห็นคุณค่าของเรา เขาก็สมควรแล้วที่จะต้องไม่มีเรา เอาหัวใจเราคืนมา!

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
6 กรกฎาคม 2562 13:58
Post อันดับที่ 3

ตอบกระทู้


กลับด้านบน