มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
เห็นแก่ตัวไหม

ผมอายุ 30 ปี ผมกลับมาบ้านแล้วหลังจากหายจากบ้านและหน้าที่การงานไป 8 วัน ผมกลัวไม่กล้าเผชิญหน้าเท่าที่ควร ทุกคนดูเป็นห่วงผม บางคนกล่าวถึงโทษที่ผมควรจะได้รับนั้นคือการถูกขัง บางคนกล่าวถึงสวัสดิการข้าราชการการรักษาพยาบาล เงินในการดำรงชีวิต หากผมเลือกที่จะลาออก ด้วยความคิดเห็นแก่ตัวของผม หลาย ๆ คนพูดถึง เงิน และสวัสดิการการรักษา พ่อ แม่ บุตร และอื่น ๆ ถ้าผมตัดสินใจทำงานต่อไปโดยการตัดสินใจที่ไม่เห็นแก่ตัวจริง ๆ น่ะหรอ ทุก ๆ คนเป็นห่วงผมหรือเป็นห่วงสวัสดิการของข้าราชการของผม ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน ต่างคนก็ต่างพูดในเชิงแบบนี้ทั้งนั้น แนะแนวทางการดำเนินชีวิตอย่างนี้อย่างนั้น มันต้องเป็นแบบนี้แบบนั้น ต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว ต้องเป็นผู้นำ ผมรู้สึกว่ามันเป็นแบบแผนการดำเนินชีวิตไปแล้วหรือเปล่า ผมยังไม่มีภรรยา ไม่มีลูก ผมรู้สึกว่าไม่อยากแบกรับภาระอะไรทั้งสิ้น ในใจลึก ๆ แล้วผมก็ไม่อยากมีครอบครัวเท่าไหร่ ผมคิดว่านั้นไม่มีอิสระ ผมไม่สามารถหนีออกจากชีวิตที่ขาดเงินไปไม่ได้เลย ตอนนี้ผมตอบหัวหน้างานไปว่า ผมจะทำงานต่อเพียงแต่เปลี่ยนหน้างานเท่านั้น ผมยังมีหนี้ กยศ.อยู่เก้าหมื่นกว่าบาท ถ้าผมขายและใช่จ่ายเงินเก็บเพื่อชำระหนี้ ก็คงเหลือหนี้ กยศ. ประมาณหมื่นห้า ผมเลือกแล้วที่จะทำงานต่อแต่ยังไม่รู้ว่าจะได้ย้ายหน้างานหรือไม่ เพียงแต่สิ่งที่ผมเลือกคือการไม่เห็นแก่ตัวจริง ๆ หรือเปล่า ลึก ๆ แล้วผมอยากจะเห็นแก่ตัว อยากออกจากงานไปใช้ชีวิต ช่วยเหลือศาสนาอยู่กินกับศาสนาเพียงแต่ผมคงยังไม่บวช ทางเลือกที่ผมคิดอยู่มันดูต่ำต้อยไปรึเปล่า คนอื่นจะมองยังไงก็ช่างเขา เพียงแต่ผมอยากลองไปใช่ชีวิตอยู่แบบนั้น มีอีกอย่างผมป่วยเป็นโรคจิตเภท ต้องกินยาต่อเนื่อง ขาดยาไม่ได้เลย ตอนนี้ผมหยุดยาไปหลายวันกลับมากินยาตามแพทย์แนะนำแล้ว ค่ายาก็แพงมากเลยครับ เหมือนผมติดอยู่กับสิ่งนี้โดยที่หนีไปไหนไม่ได้เลย ถ้าผมตัดสินใจหยุดยาจริง ๆ ผลลัพธ์มันคงไม่สวยอย่างที่คิด ผมอาจจะกลายเป็นภาระกับคนอื่นไปเลยก็ได้ ปัญหาของผมก็มีเพียงเท่านี้และครับ ตอนนี้ผมยังไม่เห็นแก่ตัวแต่ในใจลึก ๆ ผมก็อยากจะเห็นแก่ตัวบ้าง ช่วงนี้ผมเป็นชาวพุทธที่เข้าโบสถ์หัดอธิษฐานกับพระเจ้า ขอบคุณพระบิดา พยายามไม่ไหว้รูปเคารพเพราะรูปภาพ รูปปั้นเหล่านั้น ไม่มีชีวิต จิตใจแล้ว เป็นเพียงรูปภาพ รูปปั้นเท่านั่น เพียงแต่เวลาคนอื่นสวดมนต์ผมรู้สึกอายเลยต้องยกมือขึ้นมาพนมเหมือนคนอื่นเขา ตอนนี้ผมยังตอบไม่ได้ว่าผมเป็น พุทธ หรือ คริส เพียงแต่ผมอยู่กับพุทธมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้ผมกำลังลองเข้า คริสจักรของ โปรแตสแตน และ วัดของคาทอลิก ทั้งสองนิกายให้ความรู้สึกแตกต่างกัน ผมมีความสุขเพลิดเพลินใจที่ได้ลองศึกษาอะไรใหม่ ๆ ขอบคุณอาจารย์ที่ให้คำแนะนำครับ

ผัดพริกแกง
teerapong652@gmail.com
28 กันยายน 2562 01:17

สวัสดีคุณ"ผัดพริกแกง" ดีใจที่คุณกลับมาหลังจากหลบไปใช้ชวิตสงบ ๆ ตมลำพังเพ่ือคิด ไตร่ตรอง หรือ ไม่ต้องคิดอะไรเลยก็ดี เป็นการหยุพัสักระยะหึ่ง ซึ่งใครก็ตามรู้สึกอย่างนี้ ก็ควรให้เวลาตัวเองบ้าง อย่างที่เขาบอกว่า "ชีวิตคนเรานั้น มีวิ่งบ้างเดินบ้าง เหนื่อยนักก็ลงพักผ่อน และเพราะพลังในร่างกายของเราต่างกัน ระยะเวลาของความเหนื่อยล้า ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นพร้อม ๆ หรือ เหมือน ๆ กัน ถ้าความรู้สึกบอกเราว่า เาต้องพัก เราก็พัก หายเหนื่อยแล้วก็กลับมาดำเนินชีวิตกันต่อไป ความหมายของการเห็นแก่ตัว หมายความว่า คนคนหนึ่งสนใจที่จะปกป้องสิทธิประโยชน์ของตนเองมากกว่า สิทธิประโยชน์ของส่วนรวม แต่การตัดสินใจที่จะเลือกใช้ชีวิตหรือดำเนินชีวิตอย่างที่เราต้องการ ถือเป็นการใช้สิทธิ์ส่วนบุคคล ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ส่วนว่าจะทำหน้าที่หรือประกอบอาชีพใด ทุกคนทีสิทธ์จะเลือกตามความพอใจเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ถึงคุณไม่อยากใช้ชีวิตเป็นรูปแบบเหมือนคนอื่น คือ เรียนจบ ทำงาน สร้างฐานะ สร้างครอบครัว มีภรรยามีลูก แต่ภาระผูกพันคือหนี้สินจาการเรียนเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำเสียก่อน หมดหนี้แล้วถ้าอยากบวช หรือรับใช้ศาสนาใดก็ทำได้ ทุกศาสนาสอนให้เราเป็นคนดี เพื่อความดีจะได้เป็นที่พึ่งและเป็นเป้าหมายของการดำเนินชีวิตของแต่ละคน เพราะฉะนั้นการแสดงความเคารพไม่ว่าอย่างไร ในแต่ละศาสนาไม่ใช่เรืองน่าอายเป็นการแสดงสัญญลักษืเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นทำตามเพื่อนไม่เสียหาย อย่างที่บอกแต่ละศาสนาต้องการให้เป็นคนดี จะชอบหรือไม่ต้องสุภาพแสดงความนอบน้อมและเคารพเสมอก็ดีแล้ว ลองพิจาราดูนะ

อรอนงค์ อินทรจิตร
28 กันยายน 2562 11:33
Post อันดับที่ 1

ตอบกระทู้


กลับด้านบน