มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
การตั้งครรภ์และการแต่งงาน

สวัสดีคะ หนูไม่มีทางออกใดแล้ว... คือหนูตั้งครรภ์คะตอนนี้ใกล้จะ3เดือนแล้ว หนูบอกแม่ แฟน ครอบครัวให้ทราบ ตอนแรกที่รู้ว่าท้องประมาณเดือนนิดๆคะ และยังไม่ได้บอกใครตอนนั้นเพราะสับสนว่าจะเกิดดีไหม เพราะแฟนนิสัยเจ้าชู้คะ พึ่งติดยศ ส.ต.ต ไป เราเจ็บเพราะเค้ามาหลายครั้งแล้ว ส่วนครอบครัวแฟนก็ดีนะคะ แต่ก็ไม่จริงใจเท่าไหร่ หนูไม่ได้ว่าเขานะคะแต่เปรียบเทียบให้ดูว่า ครอบครัวหนูเป็นคนชนบทคะ ไม่มีเล่เหลี่ยมกับใคร บ้านเราเกษตรกรคะ มีที่ดิน ไม่มีหนี้สิน การเงินไม่รวยมากแต่มีความสุขดี หนูลูกคนเดียว ส่วนครอบครัวแฟนเป็นคนในเมือง จากที่คบมาตลอดเค้าไม่ได้จริงใจเท่าไหร่คะ เรื่องเงินเป็นเรื่องหลักสำหรับเค้า บ้านเค้าเป็นครอบครัวตร.คะ ซึ่งมีลูกคนเดียวเช่นกัน การเงินเค้าก็มีหนี้นะคะ แต่เค้าทำกิจการค้าขาย หมุนเวียนเงิน และเราไม่รู้หมดหรอก เค้าไม่เล่าหรอกแต่หนูสังเหตุการกระทำและคำพูดของเค้าตอนที่หนูไปอยู่กับแฟนที่บ้านเค้า ส่วนเรื่องอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับเงิน เค้าก็ดีคะ สำหรับบ้านหนูเรื่องครอบครัวเราไม่สนใจที่จะอยากได้เงินใคร เพราะเราไม่ได้จนตกอับขนาดนั้น ดีด้วยซ้ำไม่มีหนี้สิน แต่เรื่องเงินนี่แหละคะปัญหาใหญ่สำหรับบ้านเค้าตอนนี้ คือหนูท้อง แม่ไม่ให้เอาออกเพราะกลัวอันตรายต่อตัวหนู และหนูก็เรียนจบแล้ว แค่ยังไม่ได้ทำงานแต่ไม่เครียดในส่วนนั้นคะ ดูแลสวนไร่ของตัวเองได้ ขณะที่ยังไม่คลอด หลังคลอดทำงานก็ได้ แฟนกับบ้านแฟนก็ไม่ให้เอาออกคะ รับผิดชอบ แฟนบอกรักลูก ลูกเค้า เค้าไม่ยอมให้เอาออก แล้วก็พาไปหาหมอฝากครรภ์ในช่วง10สัปดาห์ แล้วเขาก็ต้องไปทำงานที่กทม.คะ หนูแพ้ท้องหนูยังต้องอยู่บ้านให้แม่คอยดูแลคะ เค้าบอกว่าค่อยขึ้นไปปลายปีตอนที่เค้าพร้อม ตอนที่เค้าสะดวกกว่านี้ และให้หนูหายแพ้สักหน่อย แม่กับหนูก็เลยโอเคร แต่แม่บอกว่าต้องทำตามประเพณีคะ คือมาสู่ขอ เพราะบ้านเค้าไม่ได้เสียหาย แถมมียศมีหน้ามีตา ก็ไม่ได้เสียหายอะไร ส่วนบ้านเราลูกผญ.ต้องให้เกียรติในส่วนนี้คะ แม่บอกไม่จัดใหญ่ แค่ไหว้ตาไหว้ยาย เลี้ยงที่บ้านนิดๆหน่อยๆ ขอสินสอด 300,000 กับทอง 1-2 บาท เค้าไม่ตอบตกลงคะ ขอไปคิดดูแล้วเงียบไป แม่ต้องโทรไปถามเค้าไม่กล้าบอกแม่ตรงๆคะ เค้าพูดดี อ้อมค้อมไป แล้วแฟนก็โทรมาคุยกับหนูเองว่าไม่มีเงินช่วงนี้หาไม่ทัน บอกเรื่องหนี้นู้นนี่นั่น ถ้ามีก็คือกู้ยืม หรือไม่ก็ขายรถ แต่หนูต้องไปใช้หนี้กับเค้า จะรับได้ไหมสภาพนั้น พูดแบบประชดคะ เอาตรงๆคือแต่งไม่ได้ไม่มีเงิน แต่ขอวิธีอื่นเช่น จดทะเบียนหรือหมั่นหมายไว้ก่อนได้ไหม ค่อยแต่งทีหลัง หนูถามว่าแล้วจะแต่งตอนไหน แม่อยากจัดแบบเรียบๆงานเล็กๆ แต่เค้าบอกว่าค่อยแต่ทีหลัง อยากจัดใหญ่โตให้สมยศสมชื่อเสียง และเกียรติเค้าคะ หนูถามว่าช่วงไหนเค้าก็บอกว่าแล้วแต่หนู แต่แม่หนูยืนยันคำเดิมคะว่า ต้องทำตามประเพณีไม่อยากจัดใหญ่โต สรุปคือเค้าไม่มีเงินคะ และหนูถามว่าจะมีเงินช่วงไหน เค้าบอกเป็นสิบๆปีก็ไม่มีคะ แม่หนูเลยบอกว่า ถ้าไม่รู้จักพอไม่พอดีกับเงินก็ไม่มีอยู่แบบนั้นแหละ ทั้งๆที่บ้านเค้าหารายได้หลายช่องทางคะ เงินเดือน สหกรณ์ ปันผล อื่นๆเค้าไม่บอกเราหรอกคะ แต่เค้าคงคิดว่าคนบ้านๆแบบเราโง่คะ ตามเค้าไม่ทัน นี่แหละคะ หนูคิดว่าเค้าเห็นแก่ตัวนะคะ เพราะหนูรู้ดีว่าเค้าไม่อยากจ่ายเงิน แต่ถ้าทำเพื่อนอนาคตลูกเค้า เพื่อครอบครัวตัวเอง รักตัวเอง เค้าทำได้ทั้งนั้นคะ แต่ไม่ยอมให่เกียรติเราในจุดนี้ คือหนูเล่าในส่วนนี้คงไม่หมดคะ เพราะหนูรู้ว่าบ้านเค้านิสัยยังไงเพราะหนูลองไปอยู่ไปฟังและดูพฤติกรรมบ้านเค้าจนรู้นิสัยไปแล้วคะ แฟนหนูก็บอกว่ารัก แต่เรื่องเงินก็เหมือนแม่เค้าคะ ไม่ยอมเสียง่ายๆ แล้วดันมาต่อว่าหนูว่าจะไปเอาเด็กออกหรอ คือหนูไม่รู้จะทำยังไงดีคะ แม่หนูก็ยืนยันคำเดิม และบ้านเค้าก็บอกไม่มีและเฉยเมย แม่บอกแม่อึ้งไปเลยเจอบ้านนั้น เค้าอยากได้แบบฟรีๆคะ ไม่อยากเสียอะไร ตอนพูดกับเราอย่างนึง แต่พอลับหลังก็อีกอย่างนึง ไม่รู้จะเอายังไงต่อคะ เลือกเดินทางไหนดี ฝั่งนี้ก็แม่ ฝั่งนั้นก็พ่อของลูก.

แอ๋ว
a_ewnaruk@hotmail.com
12 ตุลาคม 2562 13:39

ขอโทษด้วย ขณะนี้เครื่องคอมพิวเตอร์มีปัญหาอยู่ กำลังแก้ไชอยู่ คงสามารถตอบได้ในวันพรุ่งนี้ อรอนงค์

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
19 ตุลาคม 2562 17:24
Post อันดับที่ 1

หนูแอ๋ว ที่หนูเล่าไป ทำให้เหมือนมองเห็นชีวิตครอบครัวเล็ก ๆ ในชนบทที่ดูมีความสุขดี อยู่อย่างอเพียง เลี้ยงตัวเองและครอบครวได้ เรียนจบแล้วพ่อแม่ก็สบายใจ รอเพียงคลอดลูกแล้วก็หางานทำ ทุกอย่างดูลงตัวดี ส่วนฝ่ายชาย เขาก็ดีไปอีกแบบหนึ่ง อาจเพราะรูปแบบการดำเำนินชีวิตของขาราชการไทยที่กำลังจะเติบโตต่อไป สิ่งแวดล้อมองเขาคงจะมีภาระที่ครอบครัวและตัวเขาจะต้องแบกรับกันต่อไป แต่เขาก็รักลูก และไม่รังเกียยจหนูและครอบครัว เพียงแต่จำนวนเงินที่พ่อแม่เราขอไป อาจดูสูงมากเพราะเขามีเร่ืองต้อ เสี่ยงอีกมาก และเขาก็คงต้องการก้าวต่อไปอีกให้ไกล หากเราไม่มองว่าเขาหาเงินได้มาก ส่วนจะหามาจากไหน เราไมต้องไปสนใจ เม่ือเขาบอกยังไม่มี ยังไม่พร้อม หรือดูจะสูงเกินไป เขามีความจำเป็นต้องเก็บเงินก้อนนี้ไว้สำหรับเร่ืองในครอบครัว และครอบครัวเราก็ไม่ลำบาก เป็นไปได้ไหมที่หนูจะพูดกับพ่อแม่ ว่าตอนนี้เขายังไม่พร้ออม เราก็ทำพิธีไปย่างเรียบง่าย และไม่ต้องไปคาดฝันอะไรมาก หากมีขอขัดแย้งในอนาคต จะได้ไม่ต้องมากล่าวหาหรือทวงบุญคุณกัน คือเราก็ไม่เดือดร้อน แต่เขาบอกพ่อแม่่เขาเดือดร้อน เราก็ต้องเข้าใจ เห็นใจ นานไปเขาจะได้เกรงใจเรา หากเราผ่านให้ตอนนี้และบอกเขาว่า ก็ค่อยเก็บเงินสินสอดไว้เป็นการศึกษาลูก ๆ ก็็็็็็แล้วกัน มีเม่ือไรค่อยทะยอยให้จนครบ พ่อแม่คุณจะยอมได้ไหม นี่เป็นการเิ่มต้นชีวิตที่ดี ทั้งสองฝ่าต้องการเด็กที่กำลังเกิดมา เป็ฯของขวัญสำหรับทุกคนในครอบครวท้งสองฝ่าย ถ้ายอมกันได้บ้าง น่าจะเป็นมงคลกว่าการจะต้องเอาให้อย่างที่หวังนะ ลองไตร่รองดู หรือมีวิธีอ่ืนอีกไหม อให้ใช้สติและปํญญาค่ะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
20 ตุลาคม 2562 12:28
Post อันดับที่ 2

ตอบกระทู้


กลับด้านบน