มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
ความรู้สึกอกัตัญญู

สวัสดีครับอาจารย์ครับ ผมรู้สึกสงสัยว่าทำไมถึงได้รู้สึกว่าเป็นลูกที่ไม่กตัญญูเลย ยิ่งโตทำไมยิ่งห่างจากพ่อแม่ครับ ตอนเรียนปริญญาตรี จากบ้านไปไกลเรียนจบสี่ปี ก็ไม่ได้กลับบ้าน ต้องไปทำงานไกลบ้าน จะได้เจอพ่อแม่ก็นานๆทีครับ เทศบาลบ้างอะไรบ้าง ลูกที่ดีต้องได้อยู่ดูแลพ่อแม่อย่างใกล้ชิดรึป่าวครับ ทำไมผมถึงต้องอยู่ห่างไกลท่าน จนรู้สึกผิดยังไงก็ไม่รู้ พี่สาวผมเองก็จากบ้านไปแต่งงานมีครอบครัว พวกเราก็จะกลับบ้านกันนานๆครั้ง แต่ก็สงเงินให้ใช้ โทรหาเป็นประจำครับ เราเลือกไมได้ที่จะทำงานใกล้บ้าน จนวันนี้รู้สึกไม่ดี ว่าเราอกตัญญูรึป่าว ทำไมไม่ดูแลพ่อแม่ ยามแก่เฒ่าท่นานก็คงอยากจะให้เราอยู่ใกล้ๆ แต่เราก็จากท่านมาแสนไกล

กานต์
-
1 พฤศจิกายน 2561 16:29

คุณกานต์ สำหรับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่นั้น ถ้าถามว่าต้องการอะไรจากลูก ๆ บ้างนั้น ส่วนใหญ่ก็จะคิดหวังเพียงให้ลูกเติบใหญ่ มีการศึกษา มีงานทำ มีความซ่ือสัตย์สุจริตและมีความสุข ไม่ ทำตัวให้เป็นปัญหาเป็นภาระกับคนในสังคม เท่านั้นท่านก็พอใจมากแล้ว แต่หากลูกช่วยส่งเสียดูแลพ่อแม่บ้างยามแก่ชรา ท่านก็ถือว่าลูกเป็นลูกที่ดีมีความกตัญญูมาก แต่หากลูกทำได้มากกว่านั้นคือ มีตำแหน่งหน้าทีมีเกียรติยศ มีช่ือเสียง ได้ช่วยเหลือราชการ สังคม ประเทศชาติ หรือทำตัวให้เป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูล ก็ถือเป็นเกียรตประวัติแก่วงค์ตระกูลและเครือญาติลูกหลานเหลนรุ่นหลังต่อไป แต่ทั้งหมดนี้ สิ่งที่พ่อแม่จะภาคภูมิใจและปลื้มใจมากที่สุดคือ การที่พ่อแม่ได้ตระหนักว่าลูก ๆ มีการดำเนินชีวิตที่ซ่ือสัตย์สุจริต ไม่เบียดเบียนเอาเปรียบผู้คนในสังคม เพราะชีวิตคนเรานั้น ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จ ร่ำรวยล้นฟ้ามากแค่ไหน ถึงเวลาตายก็เอาอะไรไปด้วยไม่ได้ จะมีก็แต่คุณงามความดี ที่จะติดตัวไปและคงดำรงอยู่ต่อไป อันประกอบด้วยความซ่ือสัตย์สุจริต ความกตัญญูรู้คุณเท่านั้นที่จะยังเป็นที่สรรเสริญชื่นชมอยู่ข้างหลัง กรณีของคุณฏาน๖์ เป็นเร่ืองดีที่คุณจะหาเวลาหยุดคิดและถามตัวเองบ้างว่า หลายปีของความเจริญเติบโต จนเรียนสำเร็จมีงานการทำ มีหน้าทีการงานก้าวหน้ามั่นคง บนพ้ืนฐานของการช่วยเหลือเกื้อกูลของพ่อแม่ตั้งแต่วันที่เราลืมตาดูโลกจนถึงวันนี้ ที่คุณมีครอบครัวของตัวเอง และถึงคุณจะได้ปฏิบัติต่อพ่อแม่ตามวัฒนธรรมความเช่ือและที่คนไทยส่วนใหญ่ได้ประพฤติปฏิบัติสืบเน่ืองกันมา แต่ก็สงสัยว่า เราควรจะทำมากกว่าที่ผ่านมาไหม การที่ไม่สามารถจะอยู่ใกล้ท่านได้ ถือว่าไม่กตัญญูรู้คุณพ่อแม่หรือเปล่า ซึ่งความหมายของคำว่า กตัญญูรู้คุณนั้น เราต่างเข้าใจเหมือน ๆ กันว่าคือการู้จักตอบแทนคุณงามความดีความเมตตากรุณา ของพ่อแม่ผู้ใหญ่ตลอดจนคนที่เคยดีเคยแสดงนำ้ใจไมตรีกับเรา เม่ือมีโอกาสที่จะให้ส่ิงดี ๆ กับท่านผู้นั้นได้ เราก็ควรกระทำ ส่วนจะมากน้อยแค่่ไหนอย่างไรเป็นรายละเอียดขึ้นอยู่กับวาระเวลาโอกาสและทัศนคติของแต่ละคน พ่อแม่ของเราก็เช่นกัน แต่ละคนมีความคิดความเช่ือ ค่านิยมและทัศนคติที่แตกต่างกันไป การที่เรจะรู้ว่าพ่อแม่ต้องการอะไรหรือคาดหวังอะไรจากลูกคนไหนอย่างไร ก็ต้องถามท่านตรง ๆ หรือสังเกตุ ทำความเข้าใจสถานการณ์ของท่านว่าต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้าง เพราะส่ิงที่ลูกคิด กับความคาดหวังความต้องการของพ่อแม่อาจจะไม่เหมือนกัน ก่อนหน้านี้ เาามักคิดว่าพ่อแม่แก่ชราแล้วคงเหงา ไม่อยากอยู่ตามลำพัง ลูก ๆ ทั้งหลายพอมีลูกของตัวก็ขนเอาไปให้พ่อแม่หรือตายายของเด็กลี้ยง พ่อแม่พูดไม่ออกกลายเปนภาระไม่ใช่ว่าท่านต้องการเลี้ยงเด็ก แต่จำยอมเพราะสงสารลูกหลาน เพราะฉะนั้นการจะทำอะไรก็ควรต้องถามไถ่พูดคุยกับท่าน โดยคำนึงถึงความสุขของท่านมากกว่าจะคำนึงถึงความสะดวกขงองตัวเอง แล้วคิดไปเองว่าเป็นแสดงความกตัญญูแล้ว การแสดงความกตัญญูมีได้หลายระดับ เพราะการแสดงความกตัญญูเป็นการแสดงความรัก ทีทำให้ทั้คนทำและคนได้รับมีความสุข ความสุขจึงเป็นเร่ืองที่เราต้องสะสมเก็บรักษาและปฏิบัติได้ตั้งแต่เร่ืองเล็ก ๆ น้อยในชีวิตประจำวันในครอบครัว ไม่ต้องรอให้ท่านแก่ชราหรือตายเสียก่อน เป็นเร่ืองต้องลงมืือทำทันทีที่มีโอกาสหรือมองเห็นความต้องการความช่วยเหลือแม้เพียงเล็กน้อยของพ่อแม่ ทำอย่างไรให้ท่านสะดวกสะบายไม่ทุกข์ร้อนเหน่ือยยาก คนจำนวนมากเข้าใจว่าเอาไว้รอให้ตัวเองมีความสุขสะดวกสบายแล้วค่อยอบแทนบุญคุณพ่อแม่ แต่เวลาของพ่อแม่อาจไม่สามารถจะรอได้นาน ๆ ต่อไป หากต้องการแสดงความกตัญญูต่อท่านก็ต้องทำให้ดีให้มากที่สุดเท่าที่พอจะทำได้ในขณะนี้ แต่ไม่ใช่ลงมือทำจนกลายเป็นสร้างภาระปัญหาให้กับตัวเอง ครอบครัวหรือคนที่แวดล้อมในที่ทำงาน ซึ่งในขณะทีพ่อแม่ยังไม่แก่ชรา ท่านยังสามารทำงานช่วยเหลือตัวเองได้ อยากจะใช้ชีิวิตที่สงบ ๆ ท่านอาจไม่ตอ้งการเงินทองทรพัย์สินหรือวัตถุอะไรมากมาย การติดต่อส่ือสารพูดคุยรับฟังเร่ืองราวของท่าน อาจเป็นสิ่งที่พ่่่อแม่ต้องการคือรับรู้เร่ืองราวของลูกหลานบ้าน เท่านี้ท่านก็ม่เหงาม เราต้องทำใน่ิงที่ท่านอยากให้ท่าน หากไม่รู้ก็ตอ้งถามสังเกตุให้แน่ใจ อย่างที่บอก ความสุขเป็นเร่ืองที่สะสมเก็บรักษาตั้งแต่าเรายังเยาวัย พอเติบใหญ่ก็มีทุนขยายความสุขใพ้หพ่อแม่มากขึ้น หากเราทำอย่างสม่ำเสมอ เกิดท่านบุญน้ยอต้องจากไปอย่างกระทันหัน เราจะได้ไม่ต้องเสียใจหรือมาพร่ำบ่นว่าไม่เคยทำอะไให้กับท่านเลย เพราะฉะนั้นส่ิงดี ๆ ที่พอจะทำได้ทำให้ดีที่สุดทั้งแต่วันี้ เม่ือถึงเวลาท่านต้องจากไปเราจะได้ไม่รู้สึกผิด และท่านก็คงจดจำแต่ส่ิงดี ๆ ที่ลูกเป็นและทำให้ตลอดมา ส่วนทีท่านแก่ชราก็ต้องดูถามไถ่ ศึกษาว่าการดำเนิีวิตอย่างไรที่ท่านอยากจเป็นหรือทำ หากพูดคุยกับพ่อแม่เสมอ ๆ นานไปเราก็คงพอจะรู้ว่าท่านชอบและตองการอย่างไร เราเองก็จะได้วางแผนระยะยาวว่าจะใใช้ชีิตกับท่านในช่วงสุดท้ายอย่างไรที่จะทำให้ท่านสุขสงบ และเราเองอิ่มเอมในการได้ช่วยดูแลปกป้องรักษาหญิงชายคู่นี้ ที่ในอดีตคือคนที่ดูแลประคับประคองเรามาอย่างดี ค่อย ๆ คิดไปนะ แล้วค่อยคุยกัน ขอให้มีความสุขและเจริญรุ่งเรือง ความกตัญญูรู้คุณเพียงแค่คิดได้ก็ดีมากแล้วนะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
2 พฤศจิกายน 2561 12:39
Post อันดับที่ 1

ตอบกระทู้


กลับด้านบน