มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
ความเครียดจากการเรียนและทำงาน

สวัสดีครับ ผมมีเรื่องขอคำปรึกษาหน่อยครับ ตอนนี้ผมเรียนปริญญาโทพร้อมกับทำงานไปด้วย ซึ่ง ณ ตอนนี้มันหนักมากครับ ผมเครียดขั้นสูงสุดในชีวิต วิตกกังวลตลอด ปริญญาโทเรียนในคลาสสอบผ่านหมดแล้วครับ ตอนนี้เหลือทำธีสิสจบอย่างเดียว ซึ่งเวลาทำก็น้อยลงทุกทีครับ ประกอบกับงานที่ทำงานก็หนักมากเช่นเดียวกัน แต่ก่อนไม่หนักขนาดนี้ เท่ากับว่าสองเรื่องประดังเข้ามาพร้อมกัน เอาผมทรุดเลยครับ ผมซึมเศร้า วิตกกังวล กลัว มันบั่นทอนความสามารถของผม ทั้งที่ผมเคยมั่นใจในตัวเองมาก มีหลายคนบอกว่าให้เอาทีละอย่าง ทำหลายอย่างพร้อมกันมันไม่ได้ดีหรอก แต่มันหยุดอย่างใดไว้ไม่ได้เลยครับ จำเป็นต้องทำพร้อมกัน ผมกัดฟันเรียนในคลาสจนจบได้ตามเกณฑ์คือหนึ่งปีครึ่ง ตอนนี้เทอมสุดท้ายต้องทำธีสิสจบ เครียดมากครับ

อัฒท์
Auttaphon@gmail.com
25 กุมภาพันธ์ 2563 18:44

คุณอัฒท์ คุณเครียดมากจริง ๆแหละ เพราะคนที่ได้อ่านเร่ืองราวที่คุณเล่า คงจะรู้สึกเครียดไปด้วยเช่นกันนะ เราคงต้องยืนยึดอก หายใจเข้าลึก ๆ หลาย ๆ ครั้ง เพ่ือให้สิ่งที่ติดค้างขวางลมหายใจเข้าออกได้สะดวก เพ่ือความอึดอัดจะได้ผ่อนคลายลงบ้าง ถึงคุณจะบอกไม่มีเวลาทำอย่างเอ่ืนนอกจากที่เล่ามาแล้ว ก็ยังอยากจะให้คุณอัฒท์ วางมือจากหน้าที่กิจกรรมที่ทำอยู่สัก 15 - 30 นาที หาที่น่ังที่มีลมพัดผ่านเย็น ๆ สบาย ๆ ได้ลมเย็นสักนิดหนึ่ง หรือหากเพลียง่วงก็หาโฮกาสหลับ พักสักครู่ ไม่ต้องคิดอะไร ทำใจวาง พอจะทำได้ไหม อยากให้ลองททำดูเพ่ือเป็นการเยียวยาใจและปลดปล่อยความเครียดที่เกิดจากความวิตก กังวล ความกลัว ความเหน่ือยล้า และอารมณืความรู้สึกอีกมากมายที่เข้ามาครอบงำใจเราให้หม่นหมองโศกเศร้า และมากที่สุดคือ ความกลัว กลัวความฟิดหวัว กลัวจะทำให้ได้อย่างเคยทำไม่ได้ กลัวเสียหน้า เสียผลประโชน์หรืืือไม่ได้รางวัลอย่างที่วาดฝันไว้ เกรงจะก้าวไปไม่ถึงจุดมุ่งหมายที่ตั้งใจหรือกำหนดไว้ อย่างไรก็ตามขณะที่นั่งตากลมเย็น ๆ อย่างที่แนะนำนะคะ ลองทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาหรือหลายอย่างที่เราตั้งใจไว้ว่าจะทำ โดยเป้าหมายสูงสุดของคุณิอัฒนคืออะไร เรียงลำดับความสำคัญก่อนหลังของแต่ละช่วงของแผนการที่วางไว้ และในแต่ละช่วงตอนของแผนการหรือขั้นตอนที่วางไว้ในรายละเอียดว่าได้ทำอะไรไปบ้าง เสร็จสมบูรณ์หรือไม่อย่างไร เพื่อสำรวจตรวจสอบว่าแต่ละขันตอนของแผนการ เราทำสำเร็จหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน และได้มาเพราะอะไรหรืออย่างไร และท่ำไมเป็นไปตามแผนการเพราะอะไร การเรียงลำดับทางความคิดจะช่วยให้คุณได้มองเห็นตัววเองชดเจนมากขึ้นแลรู้สึกตัวเองในางบวกมากขึ้น เหมอนท่ดฉันและคนที่ได้อ่านจดหมายฉบบนี้ด้วยความช่ืนชมุณมาก ที่มีความกล้ากาญ ขยัน อดทน มีความฝัน และได้ทำมความฝันของตนเงองตลอดมา แต่อาจเพราะทำงานมากและหนักเกินไปสุขภาพกาย อาจอ่อนและส่งผลให้สุขภาพใจออ่นแอไปด้วย จะดีกว่าไหมในวาระนี้ คือ ทำมาเกือบสุดทาง ถ้าไม่ฮึดสู้เฮือกใหญ่เฮือกหึ่ง ก็หยุดพักทุกอย่างไฟว้ก่อน ที่ผ่านมาเป็นเด็กดี ลองเกเรสัครั้ง หมดแรงขอพัก รอให้หายเหน่ือยก่อนค่อยลุกกขึ้นสู้ใหม่ จะดีไหม ลองไตร่ตรอ เดี่ยวคุยกัน่อ จะได้ไม่เบ่ือออ่านเดี่ย๋วจะเขียนต่อนะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
26 กุมภาพันธ์ 2563 18:33
Post อันดับที่ 1

คุณอัฒน์ เปนไงได้นอนหลับพักผ่อนสักหน่อยบ้างหรือยัง อย่าใจร้ายกับตัวเองมากนักนะ เป็นคนดีมานานแล้ว หยุดพักรวมพลังสักระยะจะดีไหม แล้วค่อยลุกขึ้นสู้ใหม่ คงไม่ช้าไปหรออกนะที่จะไปถึงหลักชัย แต่ถ้าวันนี้ประมาท ไม่ดูแลตนเอง เกิดไม่สบายเพราะเหน่ือย หรือถ้าไม่ได้ดูแลตนเองดีพอ ป่วยไปอาจเสียเวลามากว่าตอนนี้น ะลองไตร่ตรองดู py'ไหวไหม?

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
27 กุมภาพันธ์ 2563 14:59
Post อันดับที่ 2

ตอนนี้หากิจกรรมทำ ไม่ให้ตัวเองว่างครับ เป็นกิจกรรมที่ตัวเองชอบ ทำแล้วรู้สึกดีกับตัวเอง ออกกำลังกาย เลือกกินอาหารมีประโยชน์ มันก็พอบรรเทาไม่ให้เครียดได้บ้างครับ แต่พอมานึกถึงเรื่องงาน เรื่องเรียนโท เวลาว่างๆก็เครียดอยู่ดีครับ กายยังแข็งแรงเต็มร้อยครับ แต่ใจมันเหมือนจะท้อ หดหู่ ตัดพ้อยังไงไม่รู้ครับ พอใจมันไม่เอา มันก็ไม่เริ่มที่จะลงมือทำครับ ทั้งๆที่ผ่านมาจนจะสุดทางแล้ว คิดแล้วก็รู้สึกแย่กับตัวเองครับ อีกอึดใจเดียว ทำไมมาถอดใจอะไรแบบนี้

อัฒท์
1 มีนาคม 2563 21:04
Post อันดับที่ 3

คุณอัฒท์ ดีใจที่คุณรู้จักตัวเอง และมีกิจกรรมที่ชอบ พอผ่อนคลายความเครียดไปได้ เม่ือสมองยังไม่ปรอดโปร่งพอ ห็หันมาใช้กำลงกาย ดูแล รักษาทนุบำรุงตัวเอง เป็นการแบ่งเบาภาระน้ำหนักทางร่างกาย กับสมองให้สมดุล อีกไม่ช้าก็จะรู้สึกดีข้ึนกับตัวเองและส่ิงแวดล้อมและสถานการณ์ รู้สึกคุณอ่อนไหวง่ายเหมือนกัน ทำอย่างไรจะฝึกใจเราให้นิ่ง ถ้าปลอยให้ใจวิ่งขึ่นวิ่งลงง่าย ความสงบสุขก็จะไม่เกิด ลองค่อย ๆคิดพิจารณานะ มนุษย์เราต้องรู้จักเคารพและยอมรับศักยะภาพของร่างกายตัวเองด้วย เมื่อืได้พยายามจนสุกทางแล้ว เหนื่อยก็หยุดพัก ดูแลรักษและสะสมพลังในร่างหาย ไม่ฝืืน ไม่หักโหมเกินกำลัง ถ้าทำดีถึงที่สุดแล้ว ต้องให้คะแนนความพอใจกับตัวเอง ไม่ต้องรู้สึกท้อ เบ่ือ เซ็ง ไม่ต้องรู้สึกผิด แต่เรียนรู้ที่จะรู้สึกพอใจในทุกอย่างและทุกขั้นตอน จำว้ว่า ชีวิตเหมือน/คือการเดินทาง บางครั้งรเาก็ว่ิง บางคราวเราก็เดิน เหน่ือยนักลงนั่งพักผ่อนสะสมพลังแล้วลุกขึ้นเดินต่อ ไม่ท้อ ไม่ถอย ไม่วิตกกังวล มองหาสิ่งดีงามในความไม่ชอบ ในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ประสบการณ์ที่ได้ทำให้ชีวิตเรากล้าแแกร่งมากขึ้น เคยคิดอย่างนี้บ้างไหม เช่ือว่าคุณเข้าใจตัวเอง และคิดได้คิดเป็น ขอให้โชคดีมีความสุขค่ะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
6 มีนาคม 2563 15:39
Post อันดับที่ 4

ตอบกระทู้


กลับด้านบน