มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
จิดตกกับเพื่อนร่วมงาน

สวัสดีคะอาจารย์อรอนงค์ที่เคารพ หนูชื่อไพลิน อายุ 37 ปีแล้ว ทำงานมาก็หลายที่แต่หนูมาเจอสภาวะการทำงานที่ทำปัจจุปันทำให้หนูกลายเป็นคนขี้โมโห จิตตก หนูขอเริ่มเลยนะคะอาจารย์ หนูทำงานอยู่บริษัทที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักกันในการผลิตเครื่องสำอางค์ ปัจจุปันหนูดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่จัดซื้อ มีหน้าที่นำเข้าวัตถุดิบ สั่งซื้อของ ต่างๆ นานาๆ ปัญหาที่หนูพบคือ หนูต้องประสานงานกับคลังสินค้าที่ต้องรับสินค้าเข้าคลังในแต่ละวัน การสั่งซื้อลังใส่ของค่อนข้างมีปัญหา เพราะเปลืองเนื้อที่ในการจัดเก็บ แต่หนูก็บริหารจัดการได้ดีในระดับนึง หากจะเสียก็เสียเพราะซัพพลายเออร์เพราะไม่ทำตามคำสั่งของหนู บางทีจะนำลังเข้ามาส่งก็เข้ามา ทำให้คลังสินค้าไม่พอใจ หาว่านำลังเข้ามามากจนล้นคลัง หนูพยายามอธิบายเหตุผลต่างๆ นานาให้กับคลังสินค้าได้ฟัง แต่เขาจะแสดงอัปกริยาคือหน้านิ่ง ตาเหลือก มองค้อนตาหลับตาเหลือก เดินหนี ไม่ฟัง ไม่พูดกับหนู ทั้งๆที่หนูกำลังพูดต่อหน้าเขาอยู่ สมมุติว่าน้องคนนี้ชื่อแตง แตงไม่คุยแต่จะไปฟ้องหัวหน้าชื่อต้น คนชื่อต้นเป็นรุ่นน้องหนู แต่อายุมากกว่าหนู 2 ปี ชอบพูดข่มเสียงดัง ฟังแต่ลูกน้องตัวเอง มันเดินเข้ามาถึงโต๊ะทำงาน โดยใช้คำพูดต่อว่าหนูต่างๆ นานา โดยไม่ได้ให้เกียรติหนูเลยสักนิด หนูอายคนรอบข้างมาก ไม่มีใครเดินมาปกป้องหนูซักคน หนูพยายามอธิบายถึงเหตุผลที่เกี่ยวกับงาน แต่ทั้งสองคน จะตั้งตนเป็นใหญ่ ทำงานเอาที่มันสะดวกเข้าว่า เขามีอาการที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบในตัวหนู หนูไม่ได้คิดเครียดแค้นอะไร ทุกวันนี้หนูใช้ใจแลกใจ ไปไหนมาไหนหนูก็ซื้อขนมฝากเขา ให้เขาได้กินกันตลอด ไม่ใช่เพราะซื้อของให้เขา แล้วต้องมาดีกับหนู เพราะหนูไม่ได้เกลียดอะไรเขา แต่สิ่งที่เขากระทำกับหนูในเรื่องงาน เขาไม่ยอม เขาไม่ฟังอะไรเลย บางทีไม่ใช่เรื่องงาน หนูก็ไม่เคยคุยกับเขา เขาทั้งสองก็ไม่เคยคุยกับหนู หนูทำงานที่นี่ หัวเดียวกระเทียมลีบ ไม่มีหัวหน้าโดยตรง หนูจะขึ้นกับเจ้าของโดยตรง เจ้าของก็ขี้เหวี่ยง ขี้วีน ตลอด หนูต้องใช้ความอดทนอย่างสูงสุดในการทำงานที่นี่ ทั้งเจ้าของ และเพื่อนร่วมงาน หนูเครียด จิตตกทุกวัน งานที่ทำใช่ว่าจะมีปัญหาทุกวันนะคะอาจารย์ บางทีหนูไม่มีของเรียกเข้าที่จัดเก็บในคลัง พวกเขาก็จะนั่งสุมหัว กินขนมกันอย่างเอร็ดอร่อย นั่งคุยกันเพลิดเพลิน แต่วันไหนงานเข้าคลังเยอะหน่อย ก็เหวี่ยง หน้าบูด หน้าบึ้ง พูดด้วยก็ไม่พูด มันทำให้หนูรู้สึกว่าตัวหนูเองนี่ ไม่มีศักยภาพเลย หลายๆครั้งหลายคราวที่เกิดปัญหาแบบนี้ หนูเคยพูดให้กับเจ้าของได้ฟัง แต่กับกลายเป็นว่า เขาเลือกฟังคลัง ไม่ฟังหนู หาว่าหนูพูดเข้าข้างซัพ ไม่เป็นกลาง มันไม่ได้มีคำพูดใดๆ ที่หนูไปปกป้องซัพเลยนะคะ เขาจึงรู้จุดอ่อนหนูว่ายังไงแล้ว เจ้านายก็ไม่ฟัง หนูก็ผิดอยู่วันยันค่ำ หนูจะมีวิธีรับมืออย่างไรกับคนพวกนี้ดีคะอาจารย์ หนูนิ่งแล้ว ไม่เดินไปปะทะ ไม่เดินเข้าไปคลังเลย เพราะรู้ว่า ถ้าไปคุยเรื่องงานมันก็ไม่คุยกับหนู หน้าตึง ไม่ตอบคำถาม หนูอยากมีมิตรภาพในการทำงานอย่างราบรื่น ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย มีไรคุยกันดีดี แต่สำหรับที่นี่ไม่มีเลยคะ ตั้งแต่เจ้าของ ยันลูกจ้าง ค่อนข้าง หยาบ นิสัยแปลกๆๆ กระด้างกระเดื่องกันทั้งหมดเลยคะ พวกใครพวกมัน ต้องทำงานห้ามเกิดปัญหาในแผนก บุคคลที่นำปัญหามาให้คือคนผิด จะมากิริยาแบบนี้ หนูยังอยากทำงานที่นี่เพราะใกล้บ้าน เดินทางสะดวก อายุเริ่มเยอะหางานยากแล้วคะ ถ้าไปเริ่มงานที่ใหม่เงินเดือนก็อาจจะไม่สูงเหมือนที่นี่ เสียดายเวลาที่ทำงานมาตั้ง 3 ปีแล้ว หนูขอเรียนปรึกษา หนูควรวางตัว และทำอย่างไรต่อไป ด้วยความเคารพอย่างสูงคะ ไพลิน

ไพลิน
kookjo_k@hotmail.com
20 สิงหาคม 2565 15:34

ก่อนอื่นต้องขอโทษที่ตอบช้า แต่ก็เข้าใจถึงความไม่สบายใจของคุณ จากสถานการณ์ปัจจุบันในสังคมไทย เชื่อว่าเหตุการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้กับในทุกองค์กร มีผู้คนจำนวนมากตกงาน หรือว่าไม่มีงานทำ เค้าพูดกันว่า ปัจจุบันถ้าใครไม่มีความทุกข์เรื่องงาน หรือ สิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวันผิดปกติ แสดงว่า คุณเป็นคนที่รักษาสุขภาพจิตของตนเองได้เป็นอย่างดี มีความเข้าใจว่า ตนเองต้องวางตัวอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้ นั่นคือ ขยัน อดทน พยายามมองโลกในแง่ดี และที่สำคัญ คือ ให้ความเห็นใจแก่คนรอบตัว เป็นไปได้หรือไม่ว่า เพื่อนๆ คุณก็อยากทำได้อย่างคุณ แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องเพราะเค้าไม่มีความเข้มแข็งเท่ากับคุณ หรือในอีกความหมายหนึี่งก็คือ เค้าอ่อนแอ ในสภาพสังคมที่ต้องการความเข้มแข็ง เมื่อเค้าเห็นคุณดูมีความสุข ไม่ทุกข์เหมือนเค้า เค้าโมโหตัวเค้าเอง คือ อยากจะทำ อยากจะเป็น แต่ทำไม่ได้ จึงแสดงพฤติกรรมต่อต้านคุณกลายๆ เพราะฉะบั้นถ้าคุณเข้าใจถึงสภาพจิตใจของคนรอบๆ หรือแม้กระทั่งพยายามจะเข้าใจ ไม่ถือสา และมองข้ามเสียบ้าง เค้าก็อยากจะเป็นเหมือนคุณ แต่ทำไม่ได้ เพราะฉะนั้น คุณก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ทำตัวตามปกติ เพราะว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ การจะออกจากงานไปหางานใหม่เป็นเรื่องยาก ถ้าคุณออกจากงานนี้ ไปหางานใหม่ คุณอาจเผชิญสถานการณ์เช่นเดียวกัน หรือ แย่ยิ่งกว่านี้ แต่ที่นี่คุณรู้จักทุกคนแล้ว เพราะฉะนั้นอดทนรักษางาน นอกจากคุณจะได้งานใหม่ที่คุณพอใจจริงๆ แต่ถ้าคุณทำไม่ได้ ทำสิ่งที่คุณทำได้ดีที่สุดขณะนี้ นั่นคือ คุณทำได้ดีอยู่แล้ว ในสถานการณ์นี้ มองเห็นและยอมรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกล้าหาญ จะทำให้คุณสามารถอยู่ไปได้อย่างมีสุขภาพจิตที่ดี และมีงานทำ ลองไตร่ตรองดูให้ดี ขณะนี้คุณยังมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้หรือไม่ อย่างที่คุณกล่าวว่า ทุกวันนี้ทุกคนมีปัญหาคล้ายๆ กัน ความอดทนจะเป็นเครื่องกำหนดว่าคุณ จะผ่านไปได้หรือไม่ ลองกลับไปคิดทบทวนดูอีกครั้ง มีอะไรกลับมาคุยใหม่ได้ พี่เชื่อในความเข้มแข็งของคุณ โชคดีคะ

ไพลิน
27 สิงหาคม 2565 15:47
Post อันดับที่ 1

ตอบกระทู้


กลับด้านบน