มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
ท้องไม่พร้อมค่ะ

อยู่หอคนเดียวค่ะ ไม่กล้าบอกคนในครอบครัวเลยกลัวจะทำใจไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะหาทางออกยังไงค่ะ

เอิร์น
Love_19980@hotmail.com
18 มกราคม 2562 19:35

หนูเอิร์น หนูกำลังเรียนอยู้ชั้นไหน อยู่ในกรุงเทพหรือต่างจังหวัด พอจะบอกได้ไหม จะได้รู้ว่าที่ไหนมีความช่วยเหลืออะไรบ้าง เช่นที่กรุงเทพมีสถานที่ผู้หญิง สามารถไปหลบซ่อนตัวได้ระยะหนึ่ง แล้ววางแผนว่าจะยกให้ครอบครัวที่ต้องการลูก หรือจะฝากเลี้ยง เรียนให้จบแล้วกลับมารับลูกได้ แล้วฝ่ายชายรู้เร่ืองนี้ไหม เขาเป็นใคร มีการพูดคุยกันเร่ืองนี้ไหม แล้วมีใครรู้เร่ืองนี้บ้าง ที่สำคัญหนูอายุเท่าไร คุณพ่อคุณแม่ดุมากหรือมีข้อห้ามอย่างไร ทำไมจึงพูดกันเร่ืองนี้ไม่ได้ มีเพ่ือนสนิทไหม หนูค่อย ๆ เรียงลำดับทางความคิดตามที่อาจารย์ถามมาเพ่ือจะได้รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไปอย่างไร รีบตอบมานะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตรร
20 มกราคม 2562 11:18
Post อันดับที่ 1

เรืองมีอยู่ว่า แนนได้ตั้งครรณทั้งที่ยังเรียนอยู่มหาลัย รีบรู้แล้วทั้ง ผู้ชายและดิฉัน แต่ ครอบครัวทั้ง2 ฝ่ายค่อนข้างไม่โอเคกับเรื่องนี่ แต่ทางบ้านทั้ง2 ยังไม่มีฝ่ายไหนรู้นะค้ะ หนู่ควรทำอย่างไรดีหนูยังไม่พร้อมทางบ้านเคยเกรินๆไปแล้วแน่นอนว่าไม่โอเคเหมื่อนกันค้ะ

แนน
24 มกราคม 2562 22:04
Post อันดับที่ 2

หนูแนน การที่พ่อแม้ห้ามปรามและบอกว่า พ่อแม่รับไม่ได้หรือไม่โอเคนั้น ส่วนใหญ่คือพยายามป้องงกันและตักเตือนลูก ๆ ล่วงหน้าว่า อย่าทำให้เกิดเร่ืองการตั้งครรภ์ขึ้น เพราะลูกยังอยู่ในวัยเรียน การไม่มีความพร้อมทำให้เราไม่สามารถจะทำงาน/หน้าที่/และทำในส่ิงที่เราอยากทำให้ดีได้ทุกอย่าง แต่เม่ือเกิดเร่ืองขึ้นแล้ว ดังในกรณีที่หนูแนน บอกว่ากำลังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาอีก สองถึงสามปีจึงจะจบ แต่การเรียนมหาวิทยาลัยก็ดีกว่าการเรียนมัธยม เพราะโดยวัยวุมิก็คงมีความเป็ฯผู้ใหญ่พอจะดูแลสุขภาพตัวเอง และสุขภาพของลูกในท้องได้ ซึ่งหากฝ่ายชายแสดงความรับผิดชอบ ก็จะช่วยให้เราทั้งสองและลูกสามารถฟันฝ่าปัญหาไปได้ ที่สำคัญคือ เราสมารถขอหยุดพัการเรีนกับทางมหาวิทยาลัยไได้ชั่วระยะที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งขอหยุดช่วงท่ครรภ์แก่หรือท้องได้ 7-9 เดือน มีสถานที่ที่เราจะไปพักพิงได้เป็นการชั่วคราวทั้งของเอกชนและของราชการ เพ่ือเราจะให้สงบใจและเรียนรู้ในการดูแลตัวเราและลูก เป็นการเตรียมความพร้อมเพ่ือพิจรณาทางเลือกที่มีอยู่ว่า เราอาจเริ่มด้วย จะบอกพ่อแม่ว่าอย่างไร ท่านนอยู่ในฐานะหรือพร้อมจะช่วยเลี้ยงดูลูกเเเเเเาไปก่อนสักระยะ เม่ือเรียนจบจึงจะรับไปเลี้ยงเอออออออออออออออออง หรือเราจะจ้างเขาเลี้ยงก่อนสักระยะค่อยมารับดลับไปเลี้ยงเอง ซึ่งอาจต้องเสียเงิน หรือม่ต้องเสีย ากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการเจรจา การพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาจะทำให้สามารถหาทางออกไดชัดเจนดีกว่าปกปิด หรือเาสองคนคุยกันแล้วไม่พร้อมจะรับบเด็ก เราสามารถจะปรึกษาทางบ้านพักให้หาครอบครัวท่ีต้องการบุตรบุญธรรมไปเลี้ยง ก็มีสถานการณ์เช่นนี้อยู่เยอะ ถึงแม่เราสองคนอาจรู้สึกอับอาย รู้สึกไม่สบายใจในการต้องเปิดเผยเร่ืองราวกับเจ้าหน้าที่หรือคนแปลกหน้า แต่เจ้าหน้าที่เหล่านี้ทงานตามหน้าท่ ทุกคนรู้ดีว่า การบกพร่องผิดพลาดสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน หน้าที่ของพวกเขาและพวกเราคือช่วยให้หนูแนน แฟนและครอบครัวได้เรียนรู้ที่จะตัดสินใจเลือกทางออกที่สร้างสรรค์เพ่ือความสุขของครอบครัและสังคม หนูจึงไม่ต้องกังวลหรือวิตกกังวลว่าใครจะคิดหรือมองหนูไม่ดี เพราะไม่ว่าจะเกิดเร่ืองนี้ขึ้น หนูก็ยังเป็นคนดีอยู่อย่างเดิม เราทุกคนเป็นปุถุชน มีโอกาสผิดพลาดได้เสมอ เพียงต้องอาศัยความกล้าหาญในการเรียนรู้เพ่ือเผชิญกับปัญหาอย่างเป็นเหตุเป็นผล และหากจะมีความเสียหายเกิดขึ้นก็ต้องให้้น้อยที่สุด ไม่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่าเดิม คิดยังไง คุยกับฝ่ายชายแล้วหรือยัง วาแผนที่ละขั้นตอนและทำไปทีละเร่ือง ถ้าหนูแนนเข้มแข็งกล้าหาญจัดการเร่ืองนี้ไปได้ อาจจะให้ประสบการณืและความหมายในชีวิตมากกว่าได้ปริญญานะ ลองไตร่ตรองดู หากมีครูแนะแนว เพ่ือ หรือญาติผู้ใหญ่ที่พอพึ่งได้ ลองงคุยกบท่านดู จะได้ดหลาย ๆ ความคิด หลายทางออก แต่่การตัดสินใจสุดท้ายจะต้องเป็นของแนนและแฟนเ พราะนี่คือชีีวิตของเรา เราต้องรับผิดชอบด้วยตัวเราเอง ขดให้มีสติและปัญญา ไตร่ตรองแล้วปรึกษาไปใหม่ได้

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
26 มกราคม 2562 11:37
Post อันดับที่ 3

ตอบกระทู้


กลับด้านบน