มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
หายไป

วันนี้ตอนนี้เวลานี้ฉันอยู่ที่ห้องเช่าฉันเพิ่งเริ่มหายไปจากที่ทำงานและที่บ้านมันเป็นวันแรก ฉันรู้สึกเสียวซ่าน กังวล ว่าที่บ้านจะห่วงไหม ที่ทำงานจะว่าอะไรเราหรือไม่ เพราะฉัน หายไปโดยที่ไม่สามารถติดต่อได้ ฉันคิดว่าจะหายจากที่ทำงานและที่บ้านประมาณ 1-2เดือน หรืออาจจะมากกว่านั้น ฉันป่วยเป็นโรคจิตเภท รักษามา 5 ปีแล้ว เคยเข้าโรงพยาบาล แล้วก็ออกมา ฉันเลือกที่จะหยุดยาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพราะมันทำให้ฉัน อ้วน เกร็ง ฉันไม่ชอบผลข้างเคียงเหล่านี้เลย ฉันจะหยุด ถึงแม้ว่าอาจจะเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง อาจจะต้องออกจากงาน ฉันก็จะลองทำดู ฉันคิดวางแผนในหัวคนเดียวมานานแล้ว เมื่อเวลาฉันทำงานมันจะมีความคิดเหล่านี้ขึ้นมากวนใจฉัน ฉันไม่มีกำลังใจในการทำ งานหากไม่ได้ทำตามแผนที่วางเอาไว้แล้วฉันก็เริ่มต้นด้วยกันเก็บเสื้อผ้าเข้ากระเป๋า แล้วหาที่พักออกจากบ้านโดยไม่บอกใคร ไม่บอกทั้งที่บ้านและที่ทำงาน และยาฉันก็ ไม่ได้เอามา ฉันคิดว่าจะหยุดมัน ฉันยอมเป็นบ้า ฉันคิดอย่างนั้น ถึงแม้ว่าฉันเป็นบ้า และต้องออกจากงานฉันก็ยอม เพราะฉันอยากจะออกจากงานอยู่แล้ว แต่ทางบ้าน ไม่ยอมให้ฉันออกง่าย ๆ การเขียนใบลาออกคงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ หากต้องผ่านลายเซ็น ของหัวหน้างาน ฉันคงจะไม่ได้ออกง่าย ๆ ฉันเลยเลือกที่จะหายไปเมื่อถึงเวลาหนึ่ง ฉันจะถูกไล่ออกก็ตามที แม้สุดท้ายหากฉันหยุดยาและเป็นบ้า ฉันก็ยอมรับมัน

ผัดพริกแกง
teerapong652@gmail.com
18 กันยายน 2562 18:48

คุณผัดพริกแกง เข้าใจ ว่าบางที บางที่ บางคน หรือหลาย ๆ คน ก็เบื่อเซ็งกับโลกใบนี้ โดยเฉพาะหากเรารู้สึกว่าตัวเองไม่มีอิสระ หรือเบื่อจะต้องทำตามความคิดหวังของคนใกล้ แต่การจะก้าวออกไปอยู่ตามลำพังในโลกกว้างที่สับสนวุ่นวายนี้ ก็ต้องมีการเตรียมตัว เตรียมใจ และที่สำคัญคือให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่แข็งแรง หากสภาพร่างการอ่อนแอ เจ็บป่วยช่วยเองไม่ได้ เราก็จะเหมือนเป็นนักโทษของตัวเอง จะยิ่งทำให้หงุดหงิดมากยิ่งขึ้น ถึงตรงนี คุณสสำรวจตัวเองครหรือยัง คุณบอกว่า คุณเป็นโรคจิตเพศ รักษามา 5 ปีแล้ว เข้าออกโรงพยาบาล แต่คุณเบ่ือจะกินยาต่อไป เพราะยาทำให้คุณน้ำหนักขึ้น หรืออ้วนขึ้น คุณจึงอยากจะเลิกยา และดูแลตัวเอง ซึ่งเป็นเร่ืองดี เพราะใครจะรู้จกตัววเราเท่ากับตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมา คุณอาจกินแต่ยา แต่ที่ไม่ได้ทำคู่กันไปคือออกกำลงกยด้วย จะช่วยให้ไม่ตองพึ่งยานาน ๆ อย่างที่ผ่านมา ควมจริงยาทีคณกิน กินยาอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องร่วมือกับหมอในการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เมื่อคืนได้ฟังเทปของนักโภชนาบำบัดท่านหนึ่ง ท่านแนะนำให้ จิบน้ำอุ่น ๆ แทนการดื่มน้ำเย็นทั้งหมด เพราะร่างกายมนุษย้แต่ปฏิสนธิในครรภ์มารดาก็อยู่ในน้ำอุ่น กว่า 37 องศา เม่ืออกมาจากท้อง ถ้าเอาแต่ดื่มน้ำเย็นตลอดเวลา ยิ่งทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายถูกทำลายไปเรื่อย ๆ ดิฉันอยากให้คุณทดลองดูได้ไหม ทำอย่างที่อาารย์ท่านนี้บอก เราจะได้กลับมาแข็งแรงดังเดิม แล้วเริ่มทำสิ่งใหม่ในวิธีที่เราอยากทำ สิ่งที่คุณคิดและทำไม่ใช่ความผิด แต่คนส่วนใหญ่ไม่มีความกล้าอย่างที่คุณทำอยู้ขณะนี้ คือก้าวออกมาเพื่อใช้ชีวิตตามลำพัง ซึ่งจะดียิ่งขึ้นกับตัวเองและคนอื่น ๆ เพื่อความปลอดภัย คุณก็ต้องไปขออาศัยอยู่ชั่วคราวกับคนทีมีจิตใจดี เช่นสถานปฏิบัติธรรมของแม่ชีไทย หรือโบถส์คริสศาสนาทีมีแม่ชีที่ฝึกปฏิบติ ให้การช่วยเหลือประชาชน เช่นโบถส์แม่พระฟาติมา ตั้งอยู่ที่ถนนดินแดง หากอยู่กรุงเทพฯ ก็ไปขอคำปรึกษาแนะนำกับแม่ชีที่นั่นได้ หรือหากอยู่ต่างจังหวัด ก็เชื่อว่ามีสำนักชีอยู่ทั่วประเทศไทย ตอนนี้คุณอยากพักผ่อนอย่างสงบ คิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา เพื่อวางแผนในอนาคตต่อไป คุณพอจะให้โอกาสตัวเองได้ทำในสิ่งที่อยากทำได้ไหมคะ ที่ผ่านมาคุณได้ให้โอกาสคนอื่นดำเนินการช่วยคุณ แต่ดูเหมือนไม่ตรงตามวัถุประสงค์ที่คุณอยากได้ ลองให้โอกาสกับตัวเองสักครังดี้ไหม ในเมื่่อคุณได้ตัดสินใจก้าวออกมาจากบ้าน จากงานที่ทำอยู่เพื่อค้นหาตัวเองแล้ว ก็ต้องช่วยรักษาตัวเองด้วย หากร่างกายคุณแข็งแรง จิตใจของคุณก็จะเข้มแข็งไปด้วย ลองให้เวลาตัวเองไตร่ตรองเรื่องอราวให้ชัดเจน และขอให้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง มีอะไรเขียนไปใหม่ได้ค่ะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
20 กันยายน 2562 14:23
Post อันดับที่ 1

ตอบกระทู้


กลับด้านบน