มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
ปัญหาคนที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นในที่ทำงาน

ปัญหานี้เกิดขึ้นในที่ทำงานค่ะ คนอื่นๆในที่ทำงานก็ไม่ชอบคนนี้ เป็นผู้ชาย อายุประมาณน่าจะ 40 กว่า โดยตำแหน่งเขาสูงกว่า นิสัยของเขาจากที่คนอื่นเจอกันมา ก้จะค่อนค้างเห็นแก่ตัวใจดำ ไม่แฟร์กับลูหน้อง สิ่งใดที่ดีเอาเข้าตัวเองหมดแต่อะไรที่ไม่ดีโยนให้คนอื่น แต่จะเรียกยังไงดีละ คืองานตัวเองไม่ทำ แต่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นมาก ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวของคนอื่น เช่น 1.เรากำลังคุยงานกับงานกับเพื่อนร่วมงานเขาก็มาแทรก มาพูดเรื่องที่เรากำลังคุยอยุ่ทั้งที่เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลย ไม่ใช่กับเราคนเดียวกับคนอื่นก็เป็นเขาคุยงานกันก็แทรกเข้าไปตลอด 2. กรณีโทรศัพท์โต๊ะดัง ซึ่งเป็นโต๊ะของเราเอง เราคุยเสร็จ จะถามว่าใครโทรมาซึ่งมันไม่เกียวกับเขาเลย มันงานของเรา เช่นเมื่อวาน ดิฉันและเพื่อนๆไปซื้อของกินกันตอนเย็นแล้วไม่มีใครอยู่ข้างบนเขาอยู่คนเดียว เพื่ออีกแผนกโทรมาเพื่อนอีกคน พอพวกดิฉันขึ้นมา เขาก็บอกว่าเพื่อนอีกแผนกโทรมา หลังจากนั้น เพื่อนดิฉันก็เลยโทรไปหาเพื่อนอีกแผนก คุยเสร็จก็มานั่ง เขาเดินมาถามเพื่อนดิฉันเลยว่าโทรมามีอะไร เพื่อนดิฉันก้ตอบไปว่า ไม่มีอะไร เขาก้ยังซักอีก เพื่อนดิฉันเลยตอบไปว่าโฟสเฟสบุ๊ค เขาก็ยังถามต่ออีกว่าเรื่องอะไร คือมันไม่ใช่ที่จะมาถามขนาดนี้ 3. ทุกคนในที่ทำงานนี้ถ้าจะคุยโทรศัพท์ไม่ว่าเรื่องอะไร ต้องเดินออกไปคุยไกลๆเขา เพราะเขาอยากรู้ว่าคุยอะไร ซึ่งสังเกตได้จากที่ผ่านมา เขาจะรู้เรื่องคนอื่นหมด เพราะเขาจะพูดออกมา 4.เวลางานเขาซึ่งน้อยมากสั่งให้ลูกน้องทำ จะสั่งสั้นๆโดยที่ไม่บอกรายละเอียดอะไรกับจะลูกน้อง ซึ่งทุกคนที่อยุ่ก็บ่น เหมือนกันหมด เขาจะเป็นลักษณะที่ว่า ถ้างานไหนดีๆที่เขาได้ผลประโยชน์ เขาจะไม่ให้คนอื่นได้ยิน และไม่ให้งานลูกน้อง เพื่อนๆที่ทำงานไหนเจอคนแบบนี้บ้างคะ แก้ปัญหากันอย่างไร สำหรับที่ทำงานเราตอนนี้ก้ใช้วิธีนิ่งไม่ตอบโต้อะไรเวลาที่เขาแทรกเข้ามา เพราะโดยตำแหน่งคงแสดงออกได้ไม่มาก แต่คนที่ทำงานสูงกว่าบางคนก็สวนกลับเขาเหมือนกัน ทุกวันสุขภาพจิตจะแย่กันอ่ะคะ

พิมพ์
pimrapasd@gmail.com
12 มีนาคม 2558 09:46

หนูพิมพ์ ก็เช้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น คนที่ไม่อยู่ในเหตุการณ์ก็จะไม่เข้าใจว่ามันน่าเบื่อน่ารำคาญขนาดไหน แต่ถ้ามองอีกทีแล้วคิดว่า หากเราจะพิจารณาว่ามันเป็นปัญหาน่ารำคาญน่าหงุดหงิด มันก็เป็นปัญหาขึ้นมาได้ แต่หากเราพยายามจะมองข้ามไปว่าคนที่มีปัญหาคือชายคนนั้น เราไม่ใช่ปัญหาและปัญหาไม่ใช่ของเรา เราก็อาจจะสบายใจขึ้นคือไม่เอาความรู้สึกเข้าไปรับมันเอาไว้ เราก็ไม่ทุกข์ จากที่เล่าไปมองว่า ชายคนนี้คงมีปัญหาสับสนใจตัวเขามาก อยากได้รับการยอมรับ อยากรู้สึกว่าตวเองมีอำนาจทุกคนเกรงใจหรือเกรงกลัว แต่แทนที่เขาจะใช้ความรู้ความสามารถเป็นเครื่องเพ่ิมความเคารพยำเกรง เขากลับพยายามรวบรวมข้อมูล หาจุดอ่อนของคนรอบ ๆ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุมให้ทุกคนหรือคนรอบ ๆ เกรงกลัวเขา หรือทำให้ทุกคนตระหนักว่า เขารู้เรื่องทุกคนนะท้้งท่ีดีและไม่ดี เพียงแต่เขาจะพูดหรือนำเรื่องนั้นขึ้นมาหรือไม่เท่านั้น เช่นเดียวกับเรื่องผลประโยชน์หากเขาจะได้ผลประโบชน์ เขาก็จะเก็บรักษาไว้เพื่อตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องปกติวิสัยของคนที่ไม่ค่อยปกติ เพราะฉะนั้นการที่หนูพิมพ์บอกว่าส่วนใหญ่ทุกคนทำเฉยไม่โต้แย้ง นั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดถ้าเราไม่อยากมีเรื่องก้าวร้าวรุนแรง และหรือไม่อยากให้เขาโกรธจนทำตัวเป็นศัตรูกันมากไปกว่านี้ คงต้องนึกเอาไว้นะว่า หากเราจะมีเรื่อง ทำให้เป็นเรื่อง มันก็เป็นเรื่องได้ไปทุกเรื่อง ก็ต้องถามตัวเองว่า มันคุ้มไหม ที่จะมีเรื่อง ขัดแย้งหรือเป็นศัตรูกัน ตนโบราณจึงบอกว่า อย่าโกรธคนบ้า อย่าว่าคนเมา คือทั้งสองประเภทไม่คุ้มที่จะมีเรื่องมีปัญหาด้วยนะ ลองไตร่ตรองดู พยายามมองข้ามว่าเขาไม่ปกติหรือ หากเขาเป็นคนบ้าก็ปล่อยให้เขาบ้าไปคนเดียว เราไม่ต้องบ้าไปกับเขาด้วย ขอให้มีสตินะคะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
13 มีนาคม 2558 16:26
Post อันดับที่ 1

ตอบกระทู้


กลับด้านบน