มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
ปัญหาหน้าตา

สมัยก่อน คิดมาเสมอว่าตัวเองเป็นคนที่หน้าตาพอใช้ได้ในระดับนึง ไม่แย่ และน่าจะดีพอให้ใครซักคนชอบได้ แต่สุดท้ายก็ไม่เคยมีใครมาชอบเลย จนกระทั่งเรียนมัธยมปลายก็ยังไม่มีใครมาชอบ ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะเราก็ไม่ได้แอบชอบใคร แต่วันหนึ่ง ในคาบเรียน อาจารย์ท่านหนึ่งได้แซวเล่นกับเพื่อนผู้ชายในห้องว่า ถ้าเลือกได้ในห้องนี้จะเลือกแต่งงานกับใคร ซึ่งเพื่อนดันเลือกชื่อเรา ซึ่งเหมือนจะดี แต่หลังจากเพื่อนพูดจบ อาจารย์ก็มองมาทางเรา ถามว่าแล้วเราจะเลือกแต่งงานกับเพื่อนมั้ย ซึ่งเราก็ต้องตอบว่าไม่อยู่แล้ว ตามหลักพื้นฐาน (ใครจะไปตอบว่าแต่งกันล่ะ) แต่หลังจากฉันพูดจบ คำพูดที่เจ็บจี๊ดมาจนถึงวันนี้ ก็ลอยขึ้นมาว่า"ถึง(เรา)จะหน้าตาอย่างเนี้ยะ (เรา)ก็เลือกนะ" แล้วเสียงหัวเราะจากเพื่อนในห้องก็ดังขึ้นมา เรารู้สึกเจ็บมาก แต่ก็ทำเป็นหัวเราะไปกับเพื่อน คือเรารู้ว่าเหตุผลที่เพื่อนบอกว่าจะเลือกเรา เพราะว่าเพื่อนจะได้ไม่ถูกคนอื่นในห้องล้อว่าชอบเรา คือเราน่าเกลียดมากจนไม่มีทางมีใครมาชอบหรอก ซึ่งตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้นมันก็ทำให้เราได้รู้ว่า จริงๆแล้ว เราหน้าตาน่าเกลียด ขี้เหร่ ไม่ดีพอ ไม่มีทางที่จะมีใครชอบ ทั้งๆที่เราชอบการแสดง หรือได้เดินพาเหรด แต่งตัวสวยๆๆ แต่เราก็จะถูกเลือกเป็นตัวเลือกสุดท้ายเสมอซึ่งมันก็ยิ่งซ้ำเติมความไม่สวยของเรา พอเข้ามหาลัย เพื่อนๆสวยขึ้น หุ่นดีขึ้น มีแฟนกัน มีความสุขกัน แล้วก็จะชอบมาถามเราว่ามีคนคุยยัง มีแฟนยัง แม้แต่คนที่บ้านยังพูดว่า"ถ้าอายุป่านนี้ยังไม่มีคนมาจีบก็ต้องคิดแล้วนะ" ยิ่งรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าแรงๆ เราก็ไม่อยากบอกใครว่าเรามีปมเรื่องหน้าตา เพราะกลัวเพื่อนจะมองว่าเราปัญญาอ่อน ไร้สาระ จึงต้องเงียบๆและทำเป็นขำๆๆกะเพื่อนไป ทั้งๆที่เวลาเพื่อน(คนที่สวย)พูดว่า หน้าตัวเองก็ไม่ได้สวยนะ ไม่ได้ดีพอให้ใครมาชอบหรอก คือมันยิ่งเป็นการทำให้เราคิดว่าถ้าอย่างเพื่อนไม่สวย เรานี่ไม่เป็นสัตว์ประหวาดเลยหรอ คือบางทีเราก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไง ทำหน้ายังไงเวลาที่เพื่อนชอบพูดเรื่องหน้าตา ความรัก หรือมีคนมาแอบชอบ คือเรารู้สึกเลยว่า มันแย่มาก ที่เกิดมาหน้าแย่ เกิดมาไม่มีคนมาชอบ เกิดมาไม่ได้รู้สึกว่าเป็นคนสำคัญสำหรับใคร รู้สึกแย่จนถึงขั้นไม่กล้าชอบใคร เพราะกลัวเขาจะรังเกียจที่มีคนหน้าตาน่าเกลียดอย่างเราไปชอบ เราควรทำยังไง เราไม่เชื่อหรอกนะว่าคนเราไม่ได้มองคนที่ภายนอกน่ะ เพราะจากประสบการณ์ คนที่สวย ต่อให้เห็นแก่ตัว หยาบคาย เจ้าชู้ สุดท้ายก็มีแต่คนรุมชอบอยู่ดี ในขณะที่เราต้องพยายามทำตัวเป็นคนดี มีน้ำใจทำเพื่อคนอื่น โดนเอาเปรียบตลอด เพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับการยอมรับ สุดท้ายแล้ว โลกนี้คนสวยก็แค่เดินเชชิ่ดๆไปวันๆ คนขี้เหร่ก็คอยรองมือรองเท้าคนอื่นเพื่อให้ได้รับความรักกันต่อไป เพราะถ้าถามว่าโลกนี้จะมีที่ยืนให้คนขี้เหร่มั้ย มีที่ที่จะทำให้คนขี้เหร่ได้รับความรักมั้ย มีใครตอบได้มั้ยล่ะ ว่าที่ไหน?

ก้อย
-
18 กุมภาพันธ์ 2561 22:24

สังคมไทยสมัยก่อน ให้ความสำคัญกับบุรุษในฐานะผู้นำครอบครัว เพราะผู้ชายสามารถออกไปทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวได้ ผู้หญิงที่เป็นภรรยาในฐานะผู้ตาม ต้องอยู่บ้านเลี้ยงดูลูก ทำความสะอาดครัวเรือน และคอยปรนนิบัติเอาใจสามี การจะมีสามีดีมีตำแหน่งสูง ๆ นอกจากผู้หญิงต้องเกิดมาในเช้ือสายสูงศักดิ์ที่คู่ควรกับฝ่ายชายแล้ว หน้าตาท่าทางจะต้องสวยงามมีสง่าราศีเป็นหน้าเป็นตาของสามีและครอบครัว ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผู้หญิงหน้าตาสวยก็จะเป็นที่ยอมรับชื่นชมของผู้คนในสังคมไทยทั่วไปมากกว่าผู้หญิงที่หน้าตาไม่สวย ด้วยวัฒนธรรมความเช่ือดังกล่าว เด็กมากมายจึงให้ความสนใจกับหน้าตาความสวยของตนมากกว่า กิริยามรรยาท และคุณความดีของจิตใจที่อยูภายในดังกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นกับคุณก้อย ซึ่งถูกเพ่ือนแซวว่าเธอเป็นคนไม่สวย จึงยากที่จะหาชายใดมาเคียงคู่ด้วยและถึงจะเป็นเร่ืองพูดล้อเลียนกันเล่น ๆ แต่เพราะคุณก้อยขาดความเข้าใจในตนเอง มองตัวเองในทางลบ มาตลอดทำให้การพูดล้อเลียน กลายเป็นความบาดเจ็บ อับอาย และเสียใจในความไม่สวยของเธอเอง อย่างไรก็ตามสังคมสมัยนี้ ผู้หญิงมีโอกาสเรียนสูง ๆ และสามารถออกมาทำงานเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้เอง ความสวยจึงไม่ใช่ปัญหาต่อไป นอกจากนั้นวิทยาการด้านเทคโนโลยี่ที่ก้าวไปไกล กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่ผู้หญิงสามารถทำให้หน้าตาของเธอสวยงามขึ้นได้ ถึงกระนั้นการพัฒนาทำให้หน้าตาผู้หญิงสวยขึ้นอาจสร้างปัญหา การเงินและการผิดพลาดทางการแพทย์ที่ขาดความชำนาญ อาจนำความเสียหายให้ผู้หญิงได้ การเรียนรู้ในการสร้างความเขาใจในตนเอ ให้ความเคารพในเกียรติศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ตลอดจนเห็นคุณค่าของตนเองในฐานะคนดีคนหนึ่งจะช่วยให้ความสวยทนทานถาวรมากย่ิงขึ้น ลองไตร่ตรองดู คิดพิจารณาว่าเราอยากจะแก้ไขความสวยที่ใบหน้าหรือคุณความดีที่จิตใจ ไหนจะง่ายและถาวรมากกว่ากัน

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
19 กุมภาพันธ์ 2561 16:13
Post อันดับที่ 1

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะอาจารย์ คือจริงๆแล้วปัญหาหน้าตาขี้เหร่ของเราจะไม่เป็นไรเลย ถ้ามันไม่ทำให้เราถูกมองข้าม ถูกเอาเปรียบ ถูกลดความสำคัญ ซึ่งการที่จะเพิ่มความสำคัญที่้เราเลือก คือการทำดี เพื่อให้คนอื่นยอมรับ แต่นั่นก็ทำให้เราถูกเอาเปรียบตลอดเลย เราต้องเป็นฝ่ายเสียสละตลอด ซึ่งตอนแรกเราก็โอเค แต่พอนานเข้ามันก็ท้อใจที่รู้สึกว่าเราเป็นได้แค่คนที่ถูกหาผลประโยชน์ เราควรจะเป็นแบบนี้ต่อไปใช่มั้ย รักษาความดี ยอมเสียผลประโยชน์ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับอย่างนี้ต่อไปใช่มั้ย ทำดีได้ดีมีที่ไหนกัน

ก้อย
19 กุมภาพันธ์ 2561 23:34
Post อันดับที่ 2

เมื่อได้ชื่อว่าเป็นคนดี ทำแต่ส่ิงดี ๆ คิดดี พูดดี ก็ต้องเป็นคนดีตลอดไป เราคงเปลี่ยนเป็นคนไม่ดีไม่ได้ ส่วนคนอ่ืนจะเห็นความดีของเราหรือไม่ไม่สำคัญ เราทำความดี คิดดีพูดดีก็เพ่ือเป็นสิริมงคลสำหรับตัวเราเอง เช่นเดียวกับหน้าตาของเรา ฝึกเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใสเพื่อใจเราจะได้สบาย คนพบเห็นก็ใจสบาย ปกติความสวยไม่สวยไม่สำคัญเท่าความสะอาด นั่นคือผมเผ้าต้องสะอาดจัดการรวบ ให้เรียบร้อยอย่าปล่อยยาวสะยายหรือรุงรังกระเซอกระเ.ซิง ยิ่งผมเผ้าไม่เรียบร้อย ผสมกับหน้าตาบึ้งตึง คิ้วขมวดหมกมุ่นย่ิงทำให้คนที่พบเห็นไม่สบายใจ ใส่เส้ือผ้าสะอาดสีสุภาพแบบเรียบร้อยดูมีระเบียบ คนพบเห็นก็จะรู้สึกเกรงใจว่าเราท่าทางหน้าตาสุภาพ รู้จักกาลเทศะ คนไทยส่วนมากไม่เหมาะกับการว่ิงตามแฟชั่น เพียงแค่แต่งอะไรที่ทำให้ราดูเป็นสไตล์ของเราก็พอแล้ว เราต้องคิดว่า แต่งตัวด้วยแบบและสีสุภาพให้ถูกกาละเเพื่อความสบายใจของเราเป็นอันดับแรก คนอื่นเป็นอันดับรอง อย่าแต่งตัวเพื่อเอาใจคนอื่น เพราะเรากับเขาไม่เหมือนกัน ผู้คนมากมายสมัยนี้ไม่รู้จักตัวเอง ไม่เชื่อมั่นในคำว่ากาลเทศะทำให้พยายามแต่งตัวแข่งขันกับคนรอบ ๆ สุดท้ายก็หงุดหงิดไม่พอใจตัวเอง กลายเป็นหมกมุ่นแต่ตนเองไม่สนใจคนรอบ ๆ ทำให้เป็นที่รำคาญและเราก็อาจรู้สึกเบื่อตัวเองไปด้วย กรณีที่รู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ อาจเพราะปฏิเสธไม่เป็น ก็ต้องฝึกพูดให้สุภาพ ถ้าอะไรที่ดูเกินความสามารถหรือไม่ถนัดที่จะทำ ก็ปฏิเสธเรียบ ๆ สุภาพ ไม่ต้องโกรธหรือฝืนใจทำแล้วมาไม่พอใจทีหลังส่วนที่มองเห็นแล้วคนหนึ่งคนใดนิสัยชอบเอาเปรียบเราก็ต้องถอยห่างออกมาจะได้ไม่มีปัญหา ที่สำคัญ การคบหาเพื่อนสมัยนี้ มีเพื่อนดีไม่กี่คน ดีกว่ามีเพื่อนเหลวไหลมากมาย ถ้าหาไม่ได้ก็เป็นเพื่อนตัวเองนี่แหละดีที่สุด ค่อย ๆ คิดไตร่ตรองนะ เขียนไปคุยใหม่ได้ เอาทีละขั้นตอนนะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
20 กุมภาพันธ์ 2561 15:55
Post อันดับที่ 3

ตอบกระทู้


กลับด้านบน