รบกวนเรียนปรึกษาค่ะ ลูกสาวอายุ 20ปี มีแฟนไม่ยมเรียนหนังสือ แอบไปอยู่กับแฟนที่บ้านของแฟน พ่อแม่ผู้ชายรับได้ชอบลูกสาว ไม่มีปัญหาอะไร แต่ทางบ้านดิฉันยังไม่มีใครทราบ ดิฉันตามไปเจอไม่รู้จะทำอย่างไรเมื่อเป็นไปแล้วเลยปล่อยเลยตามเลย ลูกสาวไม่ยอมเรียนไปหางานทำ ผู้ชายตอนนี้ตกงาน เมื่อก่อนดิฉันจ่ายค่าขนมลูกตลอดตอนนี้พอรู้ว่าเค้ามีแฟน เลยจ่ายน้อยลง เพราะไม่อยากจะได้ชื่อว่าเลี้ยงลูกแล้วต้องมาเลี้ยงแฟนลูกอีก ตอนนี้ลูกสาวได้งานทำแล้ว แต่ผู้ชายยังตกงานอยู่ ดิฉันก็เลิกจ่ายค่าขนมลูกแล้ว จะเรียนปรึกษาว่า ควรใช้คำพูดอย่างไรเพื่อที่จะให้เค้าเข้าใจว่าแม่ไม่จ่ายเพราะอะไร
คุณโย ปกติคุณให้เงินค่าขนมลูกเป็นรายเดือน หรือรายวัน หรือรายสัปดาห์ จนถึงวันนี้คุณบอกว่าเลิกจ่ายค่าขนมแล้ว ลูกสาวมาขอหรือถามถึงเงินค่าขนมหรือไม่ หากเขาถามถึง คุณสามารถบอกเธอตรง ๆ ได้ว่า "แม่ตั้งใจจะส่งเสียลูกให้เรียนจนจบ แต่เมื่อลูกตัดสินใจมีชีวิตคู่ เพราะเชื่อว่าเขาเป็นคนดี แม่เห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีที่หนูจะพิสูจน์ตัวเองว่า โตพอจะมีครอบครัวแล้ว มีงานมีรายได้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งเงินแม่ หากหนูจะกลับไปเรียนอีกครั้ง มีความจำเป็นต้องใช้เงินค่าเล่าเรียน หนูมาบอกแม่นะ แม่จะช่วยเรื่องเรียนต่อไป คือใจเย็นเปิดทางให้บ้าง และปิดทางที่คุณคิดว่าไม่ควร เมื่อเรื่องมันเลยมาขนาดนี้แล้ว ไม่อยากยอมรับแต่ก็ต้องแบ่งรับแบ่งสู้เอาไว้ จะได้ไม่ขัดเคืองใจกันนะ ขอให้โชคดีค่ะ
ก่อนเค้าออกจากบ้านเค้าบอกว่าไปทำงานค่ะ เพราะตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอม ช่วงแรกยังให้เค้าค่ะ วันทำงานให้ 200 ไม่ทำงานให้ 100 คือช่วยค่ารถเค้าช่วงแรก พอตอนหลังทราบว่าเค้าไอยู่กับแฟน เลยบอกไปว่าถ้ามีครอบครัวไม่จ่ายแล้วนะ ให้ช่วยตัวเอง เค้าก็ไม่พูดอะไรค่ะ จนมาเมื่อสัปดาห์ก่อนเค้ากลับมาบ้านมาถามเอาเงินรายวัน พอบอกเค้าว่าเคยคุยแล้วนะว่าถ้าเรียนจะให้ ไม่เรียนไม่ให้ เค้าก็ถามกลับว่า ตกลงไม่เลี้ยงเค้าแล้วใช่ไหม แล้วเค้าก้กลับไปค่ะ โทรไปหาก็บอกว่ายุ่งอยู่ ทักแชทก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้างค่ะ ใจหนึ่งก็ห่วง อีกใจก็อยากปล่อยให้รู้ดีชอบด้วยตัวเอง เลยเครียดค่ะ ไม่ทราบว่าทำถูกหรือไม่ **ขอบคุณอาจารย์นะคะที่ให้คำแนะนำ มีอะไรเพิ่มเติมแนะนำด้วยนะคะ
เข้าใจนะว่า หัวใจของคุณแม่นะอยากจะให้เธอใจแทบขาด ย่ิงรู้สึกว่าลูกกำลังทุกข์เดือดร้อน หัวใจแม่แทบสลาย คุณโยเคยพบหรือคุยกับพ่อแม่ของฝ่ายชายบ้างหรือเปล่า เห็นว่าพ่อแม่เขาชอบและยอมรับลูกเราได้ ก็ลองโทรไปคุยกันตรง ๆ ถามทุกข์สุข ถามว่าลูกเราทำตัวเป็นภาระหรือเปล่า บอกเขาว่าเราเกรงใจ เพราะลูกเรายังเด็ก อยากให้กลับไปเรียนต่อให้จบ หากเธอเรียนต่อได้็ยินดีจะส่งเสียให้เรียน แต่หากเธอต้องการปักหลักสร้างครอบครัว ก็ให้โอกาสลูกช่วยเหลือตนเองไปก่อน คือเราอะลุ้มอะล่วย แบ่งรับแบ่งสู้ ไม่ตัดเยื่อใย ไม่ทอดท้ิงทีเดียว ถ้าเธอมาขออีก ก็ให้บ้างหรือขาดเหลืออะไรก็พาไปซ้ือ รักษาความสัมพันธ์ไว้แต่ก็หวังว่าลูกจะได้เรียนรู้บทเรียนต่อไป ตัวคุณเวลาเครียด ต้องพยายามคลายเครียดด้วยการออกกำลังกาย สวดมนต์ไหว้พระ แผ่ส่วนบุญให้จิตน่ิง ที่สำคัญอยากให้้คิดว่า อย่างน้อยลูกก็โชคดีที่อยู่กับคนที่เธอรัก รักเธอและครอบครัวเขายอมรับเธอ ลูกไม่น่าจะมีอันตราย แต่ลูกก็ต้องฝึกจะต้องยอมรับผลจากการตัดสินใจของเธอด้วยเช่นกัน ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ ปรึกษาไปใหม่ได้
เคยตามไปที่บ้านผู้ชายหนหนึ่งค่ะ แต่ไม่เจอพ่อแม่เค้าค่ะ แต่เท่าที่ถามลูก ลูกบอกว่าเค้าเอ็นดูลูกดี เค้าพูดเพียงแค่ให้รุ้จักช่วยกันทำมาหากิน ประคับประคองกันไป แต่ตอนนี้ลูกสาวทำงานคนเดียว ผู้ชายเค้าเป็นนักดนตรี ช่วงนี้ไม่ค่อยมีงานค่ะ ตอนนี้ก็ไม่ได้ดทร ไม่ได้อะไรกับลูกแล้วค่ะ คือรอเค้าติดต่อมาเอง ก็ได้แค่บอกทิ้งท้ายไว้ว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นลูกยังมีแม่นะ แม่รอลูกอยู่ อยากเรียนก็กลับบ้านไปเรียน บอกแค่นั้นค่ะ กราบขอบพระคุณอาจารย์มากนะคะ สำหรับคำแนะนำ