ตกลงยังไม่จบม. 6 จริง ๆ ใช่ไหมคือต้องสอบซ่อมอีกหนึ่งวิชาใช่ไหม แต่จากที่เล่าไป อาจารย์ฟังเรื่องความรู้ความสามารถที่มีอยู่นับว่า ดีเกินตัว อาจจะพลั้งพลาดไปบ้างไม่อยากให้เสียกำลังใจ เพียงคิดได้กลับมาตั้งสติ สอบซ่อมวิชาที่ค้างอยู่ให้จบมัธยมหกจริง ๆ ก็ดีมากนะ ส่วนGAT PAT นั้นมันมีรอบระยะเวลาของการสอบใช่ไหมแล้วปีนี้จะได้สอบอีกเมื่อไร ถึงอาจารย์จะไม่ค่อยเข้าใจระบบการเรียนของเด็กรุ่นใหม่ แต่ก็คิดว่าในเมื่อเราทำพลาดก็ต้องแก้ไขจัดการให้เรียบร้อยในวิชาที่ยังขาด สมัยนี้ไม่ต้องไปสนใจว่าจะต้องเข้าหมาวิทยาลัยปิดที่มีชื่อ การเรียนรามคำแหงช่วยแก้ปัญหาให้คนมากมาย คือไปตรวจสอบว่าตัวเราสามารถจะเข้าเรียนมหรวิทยาลัยรามคำแหงได้เมื่อไร รีบบันทึกไว้เป็นการเตรียมความพร้อม ส่วนจะเลือกเรียนวิชาใด ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสื่อ ซึ่งหนูมีความรู้พิเศษดีหลายอย่าง ภาษาอังกฤษก็ดีเป็นที่ต้องการเพราะASEAN ที่จะมาถึง ในการศึกษาศึกษาเพ่ิ่มเติในส่ิงที่เรารู้เราชำนาญอยู่แล้วจะทำให้สำเร็จเร็ว พร้อมกันก็สามารถจะปลีกเวลาไปหางานพิเศษทำได้ ไม่ต้องท้อ หลายคนสมัยนี้เข้าไปเรียน ไม่พอใจออกมาเรียนใหม่วนเวียนอยู่ปีหนึ่งหลายมหาวิทยาลัยก็ดีกว่าไปเสียเวลากับเรื่องไม่ถูกต้องหรือผิดกฎหมายเช่นติดพนัน ฯลฯ เพราะฉะนั้นขอให้กำลังใจตั้งใจเรียน จัดการเรื่องเรียนให้เข้ารูปเข้ารอย ไม่นานเราก็เรียนจบแล้ว อะไรที่ทำพลาดผ่านไปแล้วก็ผ่านไปอย่าไปติดอยู่กับเรื่องที่ผ่านมา ก้าวต่อไปนะ เชื่อว่าหนูจะไปรอดปลอดภัย ขอให้มีสติและปัญญานะคะ

ขอโทษมือโดน สะกด มหาวิทยาลัย ผิดพลาดไปขออภัยด้วย ไม่ได้เจตนาค่ะ

ตอนนี้ถือว่าเรียนจบแล้วครับ ประเด็นจริงๆคือทางบ้านค่อนข้าง stick กับการเรียนต่อมหาลัยที่ต้องการมากกว่า ผมเคยอยากจะขอทำงานแล้วเรียนรามก่อน แต่ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไง เพราะพวกท่านโมโหแรงมาก ตั้งแต่ผมเหลวแหลกก่อนหน้านี้ และอาจจะไม่ยอมรับ ผมควรทำยังไงดีครับ

หนูวิทย์ ที่ว่าจบแล้วหมายความว่ามีเอกสารพร้อมจะไปสมัครสอบเพื่อเข้าสอบในมหาวิทยาลัยที่พ่อแม่ต้องการใช่ไหม? แล้วคิดว่าจะสอบได้ไหม ได้ลองพยายามสอบเข้ามหาวิทยาลัยปิดเช่น จุฬา เกษตร หรือมหิดล หรือที่ไหนที่มีวิชาที่เราอยากเรียน หรือพ่อแม่อยากให้เรียนบ้างหรือยัง ไปขอเอกสารเพื่อขอดูเนื้อหาวิชาหรือหลักสูตรที่จะเรียน หรือนำเอกสารนั้นมาคุยกับพ่อแม่ดูว่าเราจะสอบได้บ้างไหม แล้วหากสอบไม่ได้จะเรียนที่ไหนต่อไปดี จะให้เรียนเอกชน หรือเรียนรามคำแหงหรือสุโขทัย ก็ต้องค่อย ๆ พูดคุย ไม่ต้องกลัวหรอกพ่อแม่ ยังไง ๆ ก็ไม่ถึงฆ่าแกงลูกหรอกนะ เขาอาจเครียดเรื่องงาน เรื่องการเงินและสิ่งแวดล้อม เขาแรงมาเราก็เงียบฟังอย่างเดียวไม่ต้องเถียง เขาหายโมโหก็ว่ากันใหม่ เพราะหากเราเกรงกลัว คิดว่าเขาไม่ยอมรับ แล้วจะทำยังไงต่อ เรื่องผิดพลาดที่ผ่านมา ขออภัยพ่อแม่และอย่าให้เกิดเรื่องอย่างนั้นอีก เชื่อว่าพ่อแม่จะใจอ่อนนะ เพราะหากท่านปฏิเสธทุกอย่าง ก็ถามท่านว่าจะให้หนูวิทย์ทำอย่างไร ให้ท่านบอกว่าจะให้ทำอะไรอย่างไร หากมีอุปสรรคปัญหาเกิดขึ้นก็ต้องอธิบาย ไม่พูดไม่ได้ และไม่ลองก็ไม่รู้ หนูมีพี่น้องที่พอจะช่วยพูดบ้างไหม หรือญาติผู้ใหญ่ที่พ่อแม่เกรงใจมีไหม ลองปรึกษาเพื่อให้ท่านพูดให้จะดีไหม ลอพยายามดูแล้วปรึกษาไปใหม่ได้