มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
ใช้ชีวิตอยู่หอคนเดียว

เราเป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะ และอยู่นอกเมือง ม.4เข้ามาเรียนในเมืองค่ะ เป็นโรงเรียนในฝัน ดีใจมากตอนสอบติด ตอนแรกมีเมท เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ป.1 มาจบ ก็สอบติดมาด้วยกัน อยู่ได้เทอมนึง ก็ต้องแยกกัน เพราะเราเองค่ะ เราโง่เอง โง่มาก เราคิดแค่ว่าอารมณ์ตอนนั้นอยากอยู่คนเดียว อิสระดี อาจเพราะเราเองต้องทำความสะอาดอยู่คนเดียวบ่อยครั้งด้วยมั้งคะ ก็เลยแอบเคืองใจบ้าง พอมันสะสมขึ้นไปทุกวัน ก็เลยตัดสินใจอยู่คนเดียว นั่นแหละค่ะ การอยู่คนเดียวมันไ่ม่ง่ายเลย คือเราใช้ชีวิตคนเดียวได้นะ ไปโรงเรียนคนเดียว สบายมาก ไปเซเว่นคนเดียวก็ได้ แต่พอตัวคนเดียว ช่วงหลังมันก็อ้างว้างค่ะ ไม่อยากไปไหน เรื่องการไปไหนมาไหน ไม่สำคัญเท่าการที่เราต้องนอนคนเดียวเลย เพื่อนๆหลายคนอาจจะมองว่าก็แค่นอนคนเดียวเอง แต่สำหรับเรามันเหงามากค่ะ พอเปิดประตูห้องเข้ามา ทุกอย่างมันแน่นิ่ง มันเงียบสงัด มันโล่งไปหมด เวลาออกจากห้องนำ้ ก็เงียบกริบ จากที่เคยมีเพื่อนนั่งเล่นคอมอยู่ ดูทีวีอยู่ก็ว่างเปล่าค่ะ เจ็บกว่าการไม่มีก็คือเคยได้มีจริงๆค่ะ หอที่สบาย มีเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่าง กลับไร้ค่าในทุกคำ่คืน พอเลิกเรียนถึงหอ เราก็โทรหาแม่ ก็คุยแปปนึง เล่าเรื่องราววันนี้ให้ฟังบ้าง ก็ต้องวาง และจะโทรหาก่อนนอน พอเราจะนอน แม่ก็ไม่ได้โทรมา เพราะแม่นอนเร็วมาก เราโทรไปรบกวนแม่อยู่เสมอ บางทีก็อดทน ไม่อยากรบกวนแม่ บางคืนแม่โทรมาคุยได้นิดนึงก็ต้องวาง ทั้งที่ไม่อยากว่างเลยสักนิดเดียว ใจเหมือนจะขาด เสียงสั่นทุกครั้งที่คุย พอกดว่างเท่านั้น ร้องไห้แทบขาดใจ ไม่อยากอยู่แล้ว เกลียดที่นี่มากๆ เมื่อก่อน ตอนที่เรามีเพื่อนเป็นเมท ความคิดถึงบ้านมันมีค่ะ แต่แค่โทรหาแม่ในตอนเย็นแค่ครั้งเดียวก็โอเคแล้ว สบายใจแล้ว เพราะชวนกันเล่น ชวนกันหัวเราะ ก็ลืมไปค่ะ แต่ตอนนี้ทั้งเหนื่อยและท้อมากๆ รู้สึกเกลียดความคิดตัวเอง การตัดสินใจที่แสนโง่ ก่อให้เกิดความผิดพลาด ทุกอย่างมันรุมเร้าเราไปหมดเลย กินอะไรแทบไม่ลง นอนร้องไห้ทุกคืน กว่าจะผ่านแต่ละคืน แสนทรมาน เหมือนโดนเอาไม้แหลมๆมาทิ่มแทงหัวใจ มันเจ็บ มันรู้สึกผิด อยากย้อนเวลาไปมาก มันไม่อยากจะอยู่ที่นี่เลย เงียบงันเหลือเกิน หมอนเปียกทุกคืนค่ะ ตื่นเช้ามา6โมง ขนาดที่ง่วงอยู่ จิตใจมันโหวงเหวง ทุกอย่างโหดร้ายมาก นำ้ตาเราไหลอย่างไม่รู้ตัว เป็นแบบนี้มา2อาทิตย์ ก็ทรมานจนจะขาดใจ เพราะอะไรตอนนั้นเราขาดความอดทน เราขาดสติ กับการที่เราแค่เก็บกวาดทำความสะอาด แลกกับการที่เป็นอยู่แบบนี้ เราไม่คุ้มเลย เราโง่มาก หลายคนมองว่า ทำไมเราไม่อดทน ไม่รู้จักความอดทนเหรอ คนอื่นเค้าก็อยู่กันได้ บอกเลยค่ะ ว่าพยายามอดทนสุดชีวิตแล้ว เราพยายามสุดๆ เราท่องไว้ในหัวว่าอดทนนะ เพื่อนพ่อแม่ เรามาเรียนต้องตั้งใจเรียน บ่อยครั้งที่โทรหาแม่ เวลาแม่พูดแบบนี้ ยิ่งปล่อยโฮเลยค่ะ เราท่องคำว่าอดทนทุกคืน เราเอามืออีกอย่าง มาจับมือตัวเองไว้ แล้วบอกตัวเองว่าอดทน บางคนอาจดูว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรที่จะต้องเป็นขนาดนี้ ชีวิตเราผ่านเรื่องแย่มาก็เยอะอยู่ แต่เราไม่เคยเจอแบบคนเดียว เรามักมีเพื่อนหรือพ่อแม่คอยผ่านไปด้วยเสมอ แต่สำหรับเรื่องนี้ มันเป็นสิ่งที่เราเผชิญอยู่คนเดียว เรากลืนไม่เข้าคายไม่ออก มันเป็นเรื่องใหญ่ เป็นจุดบอดจุดนึง ในชีวิตเรา แล้วทำไมคนอื่นอยู่กันได้ แต่เราเป็นแบบนี้ พอมองดูแล้ว เราคิดว่าความรู้สึกแต่ละคนไม่เท่ากันเลยค่ะ เพื่อนบางคน มีชีวิตที่รักในการอยู่ในเมือง แต่เราไม่ ขอเราอยู่กับพ่อแม่ดีกว่า เพื่อนคนอื่นรักในการเดินห้างไปเช็คอินร้านดัง แต่เราไม่ได้อยากไปไหน มันไปจนมันเบื่อแล้วค่ะ ทุกครั้งที่อยู่ที่โรงเรียนจากที่เคยสดใส กลับต้องมานั่งซึม เพราะกลับไปก็ต้องอยู่แบบนั้น ใช้ชีวิตแบบนั้น บางครั้งออกไปกับเพื่อน พอกลับก็กลับคนเดียว จากที่ไปไหนไม่กังวลเพราะมีเพื่อน แต่นี่มันก็คิดหนักอยู่เลยค่ะ มันเหนื่อยสุดๆ สำหรับเราในตอนนี้ ก่อนจะแยกเคยคิดว่าอยู่คนเดียว จะอ่านหนังสือได้เต็มที่ นอนดึกได้ แต่ตอนนี้รีบทำรีบนอนตั้งแต่2ทุ่ม ยิ่งดึกยิ่งทรมาน อยากหลับแล้วลืมทุกอย่าง ใช้ชีวิตให้มันจบ1อาทิตย์ จะได้กลับบ้าน ตอนนี้คิดว่าหาทางไปกลับแล้วค่ะ นั่งรถ1ชั่วโมงครึ่ง ต้องตื่นตี4และแม่ขับรถไปส่งตี5แล้วต่อรถไปโรงเรียน กลับถึงบ้านก็6โมงกว่า เราคิดว่าเหนื่อยนะ แต่เราทนได้ เราทนได้จริงๆ แต่ประเด็นอยู่ที่พ่อเราจะอนุญาตมั้ย เพราะพ่อห่วงว่าเราจะเหนื่อย ไหนจะทำการบ้านอีก แต่เราเคลียร์ที่โรงเรียนในตอนเที่ยงได้นะ การบ้านไม่ค่อยจะเยอะ สังเกตจากที่ผ่านมา แต่สิ่งสำคัญคือเรื่องอุบัติเหตุ นั่งรถทุกวันอันตราย แต่ตอนอยู่โรงเรียนเก่าเราก็ตีนตี5ถึงบ้าน5โมง นั่งรถรับส่งอยู่แล้ว นั่งมาเป็น10ปี แล้วอีกเรื่องคือการที่แม่ต้องไปรับไปส่งที่คิวรถ เราคิดว่าจะตื่นเองปลุกให้แม่นั่งไปและขับกลับ เพราะเราขับรถเองเป็น จะหาข้ออ้างกับพ่อว่าไม่ต้องเป็นห่วงความปลอดภัยว่าลูกจะถึงหอมั้ย จะเที่ยวมั้ย ซึ่งไปเป็นบางที กลับดึกสุดก็2ทุ่ม ประหยัดค่าหอ เอาเงินมาใส่นำ้มันไปส่ง แต่โอกาสที่จะสำเร็จ คือไม่มั่นใจมากๆ เพราะพ่อห่วงเรื่องอุบัติเหตุมาก ถ้าเราไปกลับ เพื่อนเราก็จะไปกลับด้วยกัน เพราะไม่อยากอยู่หอเช่นกัน เราคิดอยากไปกลับตั้งแต่ทีแรกแล้ว อยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ไม่รู้ว่าวันนึงพ่อกับแม่ท่านจะไม่อยู่กับเราแล้วตอนไหน ยิ่งเรียนเหมือนยิ่งไกลบ้าน เข้าใจว่าทำเพื่อท่าน แต่มันก็นะ อยากใช้เวลาตรงนี้ เพราะมหาลัยนั้น เป็นสิ่งจำเป็น เราโตขึ้น มันคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะปรับตัว แต่ตอนนี้เรายังมีโอกาสอยู่บ้าง เลยอยากลองดู *ปล.เราพิมพ์ในคืนวันเสาร์ที่ในวันพรุ่งนี้จะต้องกลับไปที่นั่น มันรู้สึกหดหู่มากๆ แค่ได้กลิ่นอะไรที่คล้ายที่นั่น ก็แทบก็ฉุดตัวเองให้ลืมไป ให้หยุดหดหู่ มันทรมานจริงๆ เรายอมรับเลยว่าเราอ่อนแอ และเราเกลียดที่นั่นมาก

ฌาวิสา นิตินากร
25 ธันวาคม 2559 00:56

หนูฌาวิสา หนูรู้สึกผิดที่แยกห้องพักกับเพ่ือนที่เรียนมาด้วยกัน ตอนนี้อยู่ห้องคนเดียว แล้วเพ่ือนคนนั้นเธออยู่กับใคร ไม่มีใครต้องการแชร์ห้องด้วยหรือ แล้วเพ่ือนคนนั่นที่เราให้เขาออกไป หากหนูรู้สึกผิด คิดจะไปพูดคุยปรับความเข้าใจกับเขาหรือเปล่า ไม่เสียหายและไม่เสียหน้าถ้าเราจะพูดหรือสารภาพตรง ๆ ว่าคิดผิดและอยากให้เขามาอยู่กับเราตามเดิม ทำได้ไหม เน่ืองจากหนูยังเด็กมาก การอยู่หอไม่ใช่เร่ืองที่คนทั่วไปคุ้นเคย หากการมาอยู่ตรงนี้ทำให้เราคิดมากขนาดนี้ เคยคิดจะย้ายไปอยู่โรงเรียนเดิมใกล้บ้านไหม จะดีกว่าไหม หนูมาจากครอบครัวอบอุ่นพอแม่ดูแลมาดี ลองคุยกับท่านตรง ๆ ดี ๆ เช่ือว่าท่านจะเข้าใจ ที่โรงเรียนมียิมหรือห้องออกกำลังกาย หรือมีวิชาเรียนพิเศาตอนเย็นไหม เราจะได้มีกิจกรรมที่ไม่ทำให้เหงา มองหาซิว่าจะทำอะไรดี กลับไปตั้งหลักที่บ้านก่อนก็ไม่เสียหายนะ การจะเรียนให้จบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เราต้องมีมีสุขภาพกาย สุขภาพจิตดีนะลองไตร่ตรองดู แล้วเขียนไใหม่ได้นะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
26 ธันวาคม 2559 16:22
Post อันดับที่ 1

ตอบกระทู้


กลับด้านบน