ก็เข้าใจถึงความรู้สึกของหนูกุ้งนะ สำหรับเร่ืองราวที่เกิดขึ้น เห็นได้ชัดว่า กว่าลูกจะฟังคำตักเตือนของพ่อแม่นั้น ปัญหาก็เกิดขึ้นให้ต้องแก้ไขทั้งที่เรายังไม่พร้อม แต่ก็ชมหนูที่มีใจเมตตากรุณา และมีจิตใจที่ดีเหมือนคุณพ่อคุณแม่ ที่ตัดสินใจเลี้ยงลูกเอง เป็นทางเลือกที่สร้างสรรค์ แม้ตัวเราและพ่อเด็จะลำบากมาก จากที่เล่าไปหมายความว่าทุกวันนี้หหนูได้พาแนเข้ามาอยู่กับครอบครวหนูและช่วยกันเลี้ยงลูก โดยหนูไม่ได้เรียนต่อและไม่ได้ทำงาน ส่วนแฟนก็ไม่ได้เรียนต่อและมีอาชีพไม่แน่นอน คือรับจ้างรายวัน มีงานบ้างไม่มีงานบ้าง การดำเนิชีวิตคงลำบากมาก อย่างไรก็ตาม อยากให้หนูวางแผนให้ตัวเองเพ่ือให้ตนเองมีอาชีพที่มั่นคงต่อไป หนูไม่ได้บอกว่าอยู่กรุงเทพหรือต่างจังหวัด กรุงเพทอาจจะดีตรงที่มีทางเลือกให้มากกว่าอยู่ชนบท คือหนูควรจะพยายามหาสถานที่เรียน กศน การศึกษาต่อเน่ืองให้จบมัธยมหก หรือสอบถามที่สำนักพัฒนาสังคมฯ ประจำจังหวัดว่า มีสถานฝึกอาชีพที่ไหนบ้าง เขาจะได้ช่วยเหลือ หากอยู่กรุงเทพ มีหน่วยงานเอกชนหรือเอนจีโอ เช่น บ้านพักฉุก้ฉิน หน่วยงานศาสนาคริสต์หลายแห่ง หนูสามรถเข้าไปขอพักอาศัย เพ่ื่อรอคลอด และดูแลลูกคนโตไปด้วย ตัวเองก็สามารถเรีย กศน ให้จบหรือฝึกอาชีพที่จะสร้างงานสร้างรายได้ให้ตัวเองต่อไป เช่นกัน สอบถามที่่สำนักงานพัฒนาสังคม หรือโทร 1300 ทั้งในกรุงเทพ หรือต่างจังหวัด อย่าอยู่เฉย พยายามหาความช่วยเหลือตัวเอง เช่นเดียวกับแฟนของหนูก็สามารถหาทางช่วยเหลือตัวเองได้ ที่พักพิงหล่านี้ เกือบทุกที่จะช่วยดูแลหนูกุ้งระหว่างท้องจนคลอด หากหนูไม่ต้องการเด็ก หน่วยงานเหล่านี้สามารถหาครอบครัวที่ต้องการเด็กเพาทอรับเป็นลูกได้ คิดอย่างไร ปัญหาหลักของหนูตอนน้ีคือ ไม่ต้องการลูกคนที่สอง ซึ่งหากทหำตามที่อาจารย์แนะนำ เพ่ือจะไม่เป็นภาระของครอบครัวที่กำลังลำบาก ให้หนูไปพักบ้านพักผู้หญิงระหว่างรอคลอด ค่ากินอยู่ฟรี พยายามเรียนให้จบมัธยมหก ฝึกอาชีพ ให้ตัวเองมัทักษะบ้าง รอจนลูกคลอด หาครอบครัวใหม่ที่ต้องการลูกให้ลูกคนที่สองมีบ้านที่ต้องการและรอเขาอยู่ หลังจากนั้น เราก็จะได้หางานทำ ค่อยสร้างครอบครัวตัวเอง ลองไตรตรองดูนะ หน่วยงานสำนักงานพัฒนาสังคม สามารถช่วยหนูได้เร่ืองนี้ พยายามโทรหรือไปพบเขานะ ขอให้ตั้งสติให้ดี ทางออกมีและมีความช่วยเหลือรออยู่เพียงพยายามค้นหาให้เจอ