มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
การปรับปรุงคุณภาพบริการแก่ลูกน้อง

เรียนถามอาจารย์ครับ ผมทำธุรกิจส่วนตัว มีลูกน้อง 3 คน ผมได้รับคำติจากลูกค้า ว่า ลูกน้องที่ให้บริการอยู่ หน้าตา/คำพูดไม่ประทับใจ ประมาณว่า ไม่ค่อยยิ้ม ไม่ปราศรัย พูดน้อย ทำให้ลูกค้าไม่อยากมาร้าน โดยส่วนตัวที่ทำงานมารุ้ว่า ลูกน้องเป็นคนดี เชื่อถือได้ แต่โดยบุคลิกส่วนตัวเป็นคนเงียบ หน้าตาก็เป็นอย่างนี้เอง แต่ขยัน/ซื้อสัตย์เชื่อถือได้ อยากถามว่า มีวิธีการใดบ้างทึ่เราจะปรับพฤติกรรมบริการแก่ลุกน้อง โดยไม่กระทบต่อความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

คนอยากเจริญ
tassanai.phuek@gmail.com
19 ตุลาคม 2557 10:30

คุณไม่ได้บอกว่า งานที่ว่าต้องใช้ลูกน้องให้บริการนั้นคืออะไร หากบริการเกี่ยวกับอาหารของกิน การแต่งตัวเสื้อผ้าผมต้องสะอาดมองดูสบายใจตั้งแต่หัวจรดเท้า ถึงไม่พูดก้ไม่เป็นไรหรือหากพูดก็ต้องแน่ใจว่าน้ำลายไม่กระเด็นใส่อาหารที่เสริฟ หรือทำหน้าที่ขายเครื่องสำอางเรื่องสวย ๆงาม ๆ ก็ต้องแต่งตัวสวยทันสมัยสะบายตาพูดเพราะ ชักจุงใจให้สนใจผลิตภันณ์ใหม่ ๆ ลองไปเดินดูร้านขายเครื่องสำอางค์ ร้านเล็ก ๆ ที่รวตัวกันชันหนึ่งศูนย์การค้าเซ็นทรัลก็ได้ว่าเขาทำกันอย่างไร จุดเด่นจุดด้อยคืออะไร หรือหากขายอุปกรณ์สุขภัณ หรืออุปกรณ์ใหญ่ ๆ จะนำเสนอบริการอะไร พูดเรื่องอะไรก็ไปดูที่ร้านใหญ่ ๆ เขาทำกันแล้วนำมาปรับใช้ หรือหากจะแยกแยะโดยใช้การมีส่วนร่วมของลูกน้อเข้ามาใช้ เช่นเราขายผลิตภัณย์ที่ไม่ต้องผลิตเอง สั่งเข้ามา ลูกน้องทำหน้าที่ช่วยขายระบายออก หากขายไม่ดีระบายออกไม่ทันก็จะเป็นภาระ หรือสิ่งของอุปกรณ์ที่ลูกน้องบริการนั้น คุณและลูกน้องช่วยกันผลิตด้วยกัน เขาก็เหมือนหุ้นส่วนสำคัญคือ เบื้องหลักงการเป็นผู้ขายบริการ เราก็ต้องพิจารณาว่าผลิตภัณยืของเราสิ่งที่เราขายเป็นอะไร ลูกน้องมีส่วนช่วยขารบริการในระดับไหน ขาดเขาเราอยู่ได้ไหม ที่สำคัญ คุณอยากให้เขาเป็นอย่างไร ก็ต้องแสดงเป็นตัวอย่างใหเขาดู ว่าควรจะพูดจะนำเสนออะไรบ้าง ยิ้มแย้มแจ่มใส หากเขาไม่ซ้ือก็บอกว่า ไม่เป็นไรครับวันหน้าผ่านมา แวะเชิญแวะเข้ามาดูใหม่ได้ครับ เผื่อจะมีของที่คุณสนใจต้องการใหม่ จากประสบการณ์ไปตามร้านทุกอย่างทุกเรื่อง ส่ิงแรกคืออยากเข้าไปเดินดู หากเจ้าหน้าที่เพียงยิ้มและบอกว่า ต้องการหนูเมือไรเรียกได้นะคะ ไม่ต้องเดินตามติดพูดมากจนน่ารำคาญไม่อยากเดินต่อ จัตาดูคนซ้ือห่าง ๆ ยิ้มรับ เชื้อเชิญดูตามสบายนะคะ/ครับ เราคนซ้ืออยากเดินดูแล้วคิดไปด้วยว่าจะซ้ืออะไรไม่อยากให้ใครมาเจ้ากี้เจ้าการรู้ดีไปหมดทุกอย่างทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นโดยรวม ๆ คุณมีกันแค่ 3-4 คน ลองประชุมแล้วคุยกันว่า ให้เขาแสดงความเห็นว่า ควรทำอย่างไรให้ลูกค้าสนใจพึงพอใจ ถึงไม่พูดมาก แต่สายตาท่าทาง "สื่อ" ว่าพร้อมจะให้คำอธิบายให้ความสะดวก ให้โอกาสคนเดินดู ถึงไม่ซ้ือก็ไม่เป็นไร ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าไว้ หากขายไม่ได้ก็ไม่ต้องเร่งหรือตั้งเงื่อนไขให้ลูกน้องเครียด หรือหากเป็นงานที่ลูกน้องมีความสำคัญมีส่วนร่วมในการผลิตด้วยกํน ก็ต้องพิจารณาการตอบแทนเงินเดือน และสวัสดิการให้มั่นคง ไม่ใช่เรารวยอยู่คนเดียวทั้งที่ลูกน้องมีส่วนช่วย การทำธุรกิจถึงวันนี้ควรต้องให้ความเป็นธรรมกับลูกน้องให้มากกว่าที่ผ่านมา เพราะค่าใช้จ่ายสูง รายจ่ายของทุกคนสูงลำบากมาก หากเจ้าของคิดถึงแต่กำไรของตนอย่างเดียวไม่คิดถึงหัวอกลูกน้อง ซึ่งอาจจะมีปัญหามากมายที่บ้านในครอบครัว นายจ้างต้องมีเมตตามีความยุติธรรมมากกว่าที่ผ่านมาเราจึงจะสามารถอยู่กันไปได้ ธุรกิจเล็ก ๆ ต้องพึ่งพิงกัน อยากอยู่อย่างมีความสุขก็ต้องคิดถึงอกเขาอกเรา ให้รายได้ไม่แตกต่างกันมากก้น่าจะทำให้ลูกน้องยิ้มออกกันมากขึ้นนะ ยกตัวอย่างที่เห็นคืออย่างร้านทำผมนั้น ลูกค้าจ่ายค่าทำผมตามราคา แต่ช่างทำผมลูกจ้างรายได้อยู่ได้ไม่ใช่เพราะเงินเดือนแต่อยู่เพราะค่าทิป ที่คนไปทำผมให้เป็นพิเศษ ทำให้ช่างสระช่างเสร็จผมต้องพยายามบริการลูกค้าให้ประณีตมากขึ้นเพื่อจะได้ทิป อีกที่หนึ่งซึ่งทุกวันนี้ดูน่าสงสาร คือเจ้าหน้าที่ธนาคาร จะเป็นว่านายทุนหรือเจ้าของหรือฝ่ายบริหารสูง ๆ กินเงินเดือนสูง กำหนดแต่นโยบายแล้วโยนให้ลูกน้องทำ สมัยก่อนคนเข้าทำงานธนาคารว่าโก้ ว่ามั่นคง แบ่งแยกหน้าที่กันดี แต่ตอนนี้ลูกน้องหรือเจ้าหน้าที่ทุกข์มาก ยิ้มไม่ค่อยออก เพราะนโยบายใหม่ให้ทุกคนชวยกันเชื้อเชิญให้ลูกค้าทำประกันภัยประกันสุขภาพไปด้วย ไม่ใช่ให้เฉพาะบางหน่วยหาประกัน แต่ทุกคนต้องแข่งแย่งกันหาลูกค้า หลายคนไม่เคยทำและไม่คิดว่าจะต้องทำงานนี้มาก่อน ก็ทุกข์ต้องลาออกหรือย้ายไป หลายคนโดนย้ายไปไกลเพราะหาลูกค้าไม่ได้ นี่เป็นลักษณะที่ฝ่ายบริหารเอกเปรียบทั้งประชาชน ทั้งเจ้าหน้าที่ของธนาคาร หรือลูกน้อง ประชาชนอย่างเราเวลาไปธนาคารจะรู้สึกเหมือนมีโจรคอยจ้องว่าจะปล้นเราเมื่อไรอย่างไรบ้าง เพราะทุกคนพยายามเข้ามาเพื่อหาประโยชน์ชวนเราซื่อโน่นทำนี่ น่ารำคาญน่าเศร้าสำหรับนักธุรกิจที่คิดแต่ผลประโยช์ของตนเองและของนายทุน มองแล้วเป็นสังคมที่ไม่น่าอยู่ ลำพังการฝากเงินธนาคารทุกวันนี้ไม่มีความหมายดอกเบี้ยน้อยมาก หากกู้ธนาคารดอกเบี้ยก็ทำให้คนไทยลำบาก นักธุรกินธนาคารพิจารณาดูไม่น่าช่ืนชมอีกต่อไป เพราะเขาไม่เสยอะไรแต่คนรอบ ๆ และประชาชต้องเสียเพื่อกำไรของเขา คุณอยากเจริญ ก็ขอให้ทำทุกอย่างด้วยความเมตตา ด้วยความเห็นอกเป็นใจทั้งลูกน้องและคนที่ซื้อ อย่างนั้นเราจึงจะเจิรญไปด้วยกันนะ!

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
19 ตุลาคม 2557 12:01
Post อันดับที่ 1

ตอบกระทู้


กลับด้านบน