มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
ขอความช่วยเหลือ

สวัสดีคะอาจารย์ หนูอายุจะ25ปีคะ หนูประสบปัญหาชีวิตอย่างมากทีเดียวพร้อมกัน หนูไม่สบายหนักมากคะ เป็นเมื่อ2ปีที่แล้วออาการที่เป็นมันไม่ใช่โรคคะ แต่มีอาการคันในจมูก และปวดหลัง หายใจลำบากมากแน่นตลอดเวลา ในหัวก็มีเสียงกระดูกกึกๆ เวลาขยับ และตึงมาก ตึงทั้งด้านซ้ายทุกส่วนเลยคะ และร่างกายด้านซ้ายมันตึงมผิดปกติ ระบบความคิดหนูก็เหมือนจะไม่มีสมาธิ กับอาการที่เป็นอยู่มันหนักมากถึงเข้าโรงพยาบาล ผ่าตัดด้วย แต่ก็ผิดพลาดที่ในจมูกคะ คุณหมอบอกมันคด แต่แก้ที่คดเสร็จแล้วก็ไม่หายยังเป็นอยู่แถมเป็นรูทะลุหนักกว่าเดิมอีก คุณหมอที่เจอตอนแรกก็ไม่ดีรักษาไม่ถูกจุด หนูหาหมอจนเหนื่อย ก็ไม่หาย ไม่รู้ว่าเป็นอะไร อาการที่เป็นเป็นมา2ปีแล้ว หนูออกจาก มหาลัย จึงเรียนไม่จบ หนูเครียดมาก หาหมอก็ไม่รู้จะหาทางไหน หมอก็รักษาตามอาการ หลังซ้ายตำแหน่งหัวใจด้านหลังปวดเกร็ง แน่นเหมือนกลั้นหายใจตลอดเวลา ถ่ายลำบากมาก ร่างกายสองข้างมันแปลกไม่ปกติ รูหายใจที่จมูก ลมก็ออกมาเยอะมากข้างซ้ายอย่างเดียว พอเป็นแบบนี้มันแพ้มากกว่าเดิมมมากๆ หนูทำอะไรก็คิดเองคนเดียวตลอด ไปหาหมอก็หาคนเดียว พ่อแม่หนูทำงานคะแต่สนใจหนูดีมาก แต่หนูจะไม่ค่อยเล่าอะไรให้ท่านฟัง หนูออกจากมหาลัยพ่อแม่ก็รู้ เค้าก็เห็นที่หนูเป็นแบบนี้ หนูเหนื่อย ไม่หายสักที ปกติหนูก็เป็นคนใจร้อน คิดมากอยู่แล้ว พอเจอแบบนี้มันเหมือนกัน เจอทางตันมากๆ. หมอหนูก็เหนื่อยจะไปหา ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ส่วนการเรียน หนูไม่กังวลมาก หนูเป็นคนไม่เก่ง แต่ถ้าหนูพยายามหนูก็จะทำได้ เมื่อก่อน หนูเรียนดีคะ เลยทำให้หนูอยากกลับไปเรียนมากๆ ติดที่เป็นแบบนี้ หนูก็สงสารพ่อแม่มากๆนะคะ เค้าเลี้ยงดูหนูดีมากๆ และพ่อแม่หนูมีเงินให้ใช้ แต่หนูทำอะไรไม่ได้หนุเครียดมาก จับต้นชนปลายไม่ถูก ตอนแรก ครอบครัวคิดว่าหนู คิดมากรึป่าว ไม่ได้ป่วยมากหรอก แต่มารู้ทีหลัง จมูกหนูผนังกั้นทะลุ หายใจผิดปกติ แต่เค้าแก้ไขแล้ว แต่ยังเหลืออยู่ หนูเลยไม่กล้าหาหมอ ไม่รู้จะยังไง หนูหามา2ปี หนูคิดไม่ตกสักที หนูรู้ว่าหนูอาจมีซึมเศร้าแน่ๆ และหนูคิดว่าถ้าซึมเศร้าหนูคงเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว คือหนูต้องอยู่คยเดียวกับ น้าสาว เค้าดูแลหนูแทนแม่กับพ่อให้ เพราะแม่กับพ่อทำงานให้เงินเลี้ยงหนู แต่น้าหนูไม่ดี มักจะพูดจาบ้าๆบอๆ กระแนะกนะแหนหนู ตั้งแต่เด็กๆ หนูก็เหมือนเก็บกดนิดๆ. แต่พอโตขึ้นเริ่มมีเพื่อนมีแฟน มีสังคมหนูก็ไม่สนใจอะไรแล้ว และน้าหนูเค้าก็ไม่ได้ดูแลหนูแล้วด้วย หนูอยู่กับพี่เลี้ยงตั้งแต่ม.6 เป็นต้นมา และหนูก็ให้อภัยเค้าคะ หนูเป็นคนขาดความมั่นใจอยู่แล้วด้วยคะ แต่ไม่สำคัญที่หนูซีเรียสมากๆ คือเรื่องป่วยหนู ทำให้หนูเฟลมาก หนูรู้สึกแย่สุดๆในชีวิต จนคิดอยากตาย เหมือนหนูอยากทำอะไรก็ทำไม่ได้ ปกติคิดอะไรก็ทำได้ ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ พอไม่สบายร่างกายแปลกๆ ก็ไม่ไหวจริงๆ ปกติหนูจะคิดเองทำเองมาตลอด พอมาเจอแบบนี้ก็ไม่ไหวมากๆ เครียดก็เอาแต่กิน หาหมอก็ไม่รู้จะหาแผนกไหน ไม่กล้าทำอะไรเลย อยากกลับไปเป็นแบบเดิมมากๆ หนูควรทำยังไงดีคะ ขอบคุณคะอาจารย์

Anty
Ppvbb@yahoo.co.th
22 กันยายน 2558 20:49

หนูแอนตี้ หนูไม่ได้บอกว่าอยู่กรุงเทพหรือต่างจังหวัด แล้วปกติมีประกันสุขภาพหรือเปล่า หนูรักษาาแพทย์ที่ไหน รพเอกชนหรือรพ รัฐ สรุปหมอว่าไงบ้าง อยากให้กลับไปพบแพทย์ท่านเดิม คนสุดท้ายแล้วซักหมอใหรู้เรื่องว่า เราจะต้องทำอะไรที่ไหนต่อไปได้บ้าง รพใหญ่ ๆ เช่นรามา ศิริราช จุฬา มีแพทย์เก่ง ๆ มากและสามารถปรึกษาขอรักษาฟรีได้ ขอเพียงให้ถูกโรคถูกหมอ ต้องไม่ท้อ เรายังโชคดีที่พ่อแม่พอมีเงินส่งเสียไม่เดือดร้อน แต่เราต้องม่งมั่นทำตัวให้ดี รักษาสุขภาพให้แข็งแรงให้ได้ เรื่องเรียน หากทำได้ก็ลงที่มหาวิทยาลัยสุโขทัย หรือรามคำแหงไว้ก่อน ค่อยเก็บสะสมหน่วยกิจไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบร้อนเรียนเมือไรก็ได้ ตอนนี้พยายามหาข้อมูลคุยกับหมอ เรื่องพ่อแม่หนูก้ควรบอกให้ท่านรู้ ชวนท่านไปเป็นเพื่อนพบแพทย์ พ่อแม่จะได้รู้สึกใกล้ชิดลูกมากขึ้น ฟังเหมือนพ่อแม่รักแต่เกรงใจลูกมากนะ ช่วงนี้รัฐาลมุ่งปฏิรูปประเทศ ทุกอาชีพต้องใส่ใจกับประชาชนหรือคนไข้ในกรณีของหนู ลองเปิดเวบ ของกระทรวงสาธารณสุข หรือโรงพยาบาลต่าง ๆ หาข้อมูล สอบถามขอความช่วยเหลือจากแพทย์โดยตรง รายการโทรทัศนืของ รพรามา ก็มีรายการเกี่ยวกับโรค อยากให้หนูตั้งใจหาความรู้อย่าท้อแท้ ก็ในเมื่อเราเป็นโรคหรือป่วยด้วยอาการนี้ ก็ต้องศึกษาเรียนรู้ให้มันเก่งไปเลย ดีกว่าอยู่เฉย ๆ รอความช่วยเหลือโดยไม่เอ่ยปาก คิดอย่างไร? ทำได้ไหม ลงมือทำตอนนี้เลย พยายามทบทวนว่าเกิดอะไรข้นกับเราเกิดเมือไร เรียงลำดบความคิดเรื่องราวให้ต่อเนื่องเป็นระบบ อย่าตกเป็นเหยื่อของโรคของอาการเหล่านี้ แต่จงพยายามควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ให้ได้นะ ลองคิดดู ปรึกษาไปใหม่ได้นะ รักษาสุขภาพด้วย

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
23 กันยายน 2558 18:55
Post อันดับที่ 1

อยู่ กทมคะ รักษา เอกชนคะอาจารย์ รพ.ดังๆ แต่คุณหมอที่หนูเจอตอนแรก เค้าไม่ดีคะ เค้าทำพลาดแถมยังทำเหมือนหนูคิดมากไป ไม่พยายามหาสาเหตุที่หนูเป็นจนสุดท้ายถึงจะรู้วิธีแก้ไข แต่ยังไม่หายขาด มันเป็นอะไรที่ไม่แน่นอนว่าเกิดจากอะไรค่ะ ล่าสุด คุณหมอให้ไปmriค่ะ หนูกำลังจะไปคะอาจารย์ แต่หนูสับสนมากๆ มันเหมือนกับ ที่เป็นอยู่มันคืออะไร หนูพยายามคิดว่าไม่มีอะไร แต่หนูเป็นจริงๆคะ แน่น ปวดหายใจลำบาก จมูกหายจขัด ปวดหัวปวดซีกซ้ายปวดร้าวๆเสียวๆ ถ่ายลำบากมาก ระบบทุกอย่างมันรวน หนูเลยท้อที่จะหาหมอมากๆคะ ๆไม่รู้จะบอกหมอว่ายังไง ไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย แต่มีปัญหาอย่างที่หนูบอกอาจารย์ไป มันแย่มากเลยคะ หนูไม่รู้จะหาทางออกยังไงได้

Antty
23 กันยายน 2558 20:57
Post อันดับที่ 2

หนูแอนตี้ อาการท่ีเล่าไป อาจารย์เชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ คุณไม่ได้คิดไปเองหรอก เพราะคนรุ่นใหม่บริโภคแต่อาหารที่เป็นพิษ นับตั้งแต่ผงชูรส สารกันบูด น้ำยาแช่รดให้ผัก-ปลา-ผลไม้สดเสมอ หรือการฉีดฮอร์โมนเข้าในไก่หมู ให้มันอ้วนโตเร็ว สารพิษเหล่านี้ติดค้างส่งต่อมายังคนที่ใช้ ทุกอย่างเร่ิมต้นตั้งแต่มี แม่บ้านถุงพลาสติก คือคนไทยเลิกทำอาหารเอง ซ้ือกินง่ายกว่า ขณะเดียวกันนายทุนที่กุมอำนาจในการผลิตสิ้นค้าทั้งประเทศไทยซึ่งมีอยู่ไม่กี่เจ้า ก็ฉวยโอกาสเอาจากประชาชนที่หมดเวลาไปกับการเดินทางบนถนนจนเหมือนหมดเวลาไปกับการนั่งนอนบนรถฆ่าเวลาและผลาญน้ำมันบนถนน ถึงเวลากินก็กินแต่สารพิษทุกมื้อไป โดยเฉพาะคนจนกับคนระดับกลาง ๆ ที่มองเห็นความสะดวกสะบายเป็นผลตอบแทนจากการทำงานหนัก กว่าจะรู้ตัวเราก็มีถึงวันนี้ วันที่คนมากมายป่วยไข้ด้วยโรคแปลก ๆ ด้วยออาการที่หมอก็บอกไม่ได้ รักษาไม่เป็น ประชาชนก็ได้แต่ตกเป็นเหยื่อของคนที่มีความสุขกับการฉวยโอกาส นอกจากนั้นสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ มลภาวะในอากาศก็เป็นส่วนสำคัญที่เราหายใจเข้าไปและมันเข้าไปครอบครองระบบหายใจหัวใจของเราสารพัดจะทำให้ทุกคนมีโรคร้าย มากมายตายก่อนวัยด้วยมะเร็ง เบาหวาน ฯลฯ เพราะอาหารที่กินเข้าไป อากาศที่หายใจเข้าใจ เป็นต้น นานไปการที่ประชาชนต้องทนหรือต้องพอใจกับอาหารร้านสะดวกที่ทำขายแม้กระทั่ง ไขต้ม บอกได้เลยหากเราไม่คิดตั้งสติช่วยเหลือตัวเอง ยอมลำบากกันบ้างในเรื่องอาหารการกินหรือใส่ใจป้องกันสารพิษกันบ้าง เราอาจะต้องเดินไปถึงจุดที่เป็นโรคสารพัดโรค ซ้ำคนรุ่นใหม่ก็ทำอะไรไม่เป็นแม้กระทั่งต้มไข่! คือคนไทยในอานาคตนอกจากจะมีโรคมากมายตั้งแต่เยาวัยแล้ว ก็อาจะจะโง่มากด้วยเช่นกัน! กรณีของหนูอยากให้หันมาศึกษาชีวิตการกินอยู่ประจำวันว่า กินอะไรเข้าไปบ้าง อาหารสำเร็จรูปที่มีผงชูรสควรเลิก ซ้ือผักผลไม้มากินก็ต้องล้างแช่ด่างทับทิมก็ได้ถูกดี ศึกษาพฤติกรรมการกินนอนของเรา ห้อง-บ้านมีฝุ่นละอองมากไหมมาจากไหน ทำความสะอาด ลดน้ำยาหรือประเภทสารเคมีลงให้มาก ๆ หลังฝนตกเปิดหน้าต่างให้ลมอากาศสะอาดไหลผ่านเข้าออกในบ้านบ้าง แดดแยะก็เปิดให้แสงแดดส่องเข้าบ้านบ้าง เรื่องอาหารอยากให้ศึกษาน้ำมันมะพร้าวสะกัดเย็น หากพอซ้ือได้ ลองซื้อมากินวันละช้อนโต๊ะ หรือน้ำมันที่ทำอาหารก็ใช้น้ำมันมะพร้าวสำหรับทำกับข้าวแทน คนโบราณใช้แต่น้ำมันหมู ทำกับข้าว น้ำมันมะพร้าวทำของหวาน ก็เห็นสุขภาพแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วย แต่ทำไมสมัยนี้พวกเราป่วยง่ายด้วยสารพัดโรค หนูต้องหันมาคิดพิจารณาศึกษาการรักษาสุขภาพด้วยอาหารตามธรรมชาติด้วยนะ เรื่องจมูก ในความคิดของอาจารย์ กรณีของหนูน่าปรึกษา หมอทำพลาสติดบ้างนะ เห็นคนมากมายทำหน้าให้สวยด้วยศัลยกรรม แต่กรณีของหนูไม่ใช่ให้สวย แต่เป็นการซ่อมแซมส่วนที่บกพร่อง น่าจะปรึกษาแพทย์ ENTE คือหมอ Ear Nose Throat and Eyes ดูนะ กรณีท้องผูกแพทย์สั่งยาหรือเปล่าลองปรึกษาแพทย์ดูนะ อ้อ ดื่มน้ำให้มาก ๆ ในแต่ละวันนะ ทุกวันนี้มีรายการสุขภาพดี ๆ หลายช่อง เช่นช่องของ รพ รามา หรือช่อง News 1 ลองคิดดูนะ แล้วเขียนไปใหม่ว่าได้เร่ิมทำอะไรไปบ้าง อ้อ หมอให้ไปทำ MRI ก็ไปดูนะ ดูวซิว่าคำตอบมันอยู่ที่ไหน อย่าท้อ มุ่งจะยืนหยัดเพื่อปกป้องดูแลตนเองให้ได้นะ ให้มันรู้ไปว่าเรากำลังสู้อยู่กับอะไรนะ ขอให้โชคดี

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
24 กันยายน 2558 12:04
Post อันดับที่ 3

ขอบคุณอาจารย์มากๆคะ

28 กันยายน 2558 00:36
Post อันดับที่ 4

ตอบกระทู้


กลับด้านบน