มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
ครอบครัวสามีต้องการให้มีบุตร

สวัสดีค่ะ ตอนนี้เครียดมาก ดิฉันอยู่กับสามีมา10 ปี ปัจจุบันดิฉันอายุ 44 สามี 40 ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ดิฉันไม่อยากมีลูกค่ะ มีความรู้สึกว่าไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบใคร และคิดว่าสังคมสมัยนี้อยู่ยาก และน่ากลัว จึงไม่อยากมีลูกให้รุ้สึกห่วง ที่ผ่านมาก็คุยกับสามีมาตลอดว่าขอไม่มีลูกนะ แต่ตัวสามีเองเป็นคนรักเด็กก็คงอยากมี แต่เขาก็ตามใจให้ดิฉันคุมกำเนิดมาตลอด แต่เมื่อสัปดาที่แล้ว ไปบ้านแม่สามี จู่ๆท่านถามว่าทำไมถึงไม่อยากมีลูก ดิฉันก็ตอบไปตามเหตุผลข้างต้น แต่ท่านก็บอกว่าแล้วคิดมั๊ยว่าแก่ตัวไปใครจะดูแล ดิฉันก็ค้านไปว่าแล้วจะรุ้ได้ยังไงว่าในอนาคตลูกจะดูแลเราหรือไม่ แต่สุดท้ายแม่สามีบอกว่าให้เลิกคุม ให้ปล่อยตามธรรมชาติ จะมีหรือไม่มีก็ปล่อยไปก่อน แต่ดฺิฉันก็บอกไปว่าอายุมากแล้วนะ กลัวมีลูกแล้วจะไม่สมบูรณ์ กลัวเด็กจะเอ๋อ แต่ท่านก็บอกว่าหมอสมัยนี้เก่ง ตรวจก็รุ้ ถ้าเขาตรวจเจอว่าเอ๋อ ก็ให้เอาออก เรื่องมีลูกทำให้ดิฉันทุกข์ใจมากค่ะ ถ้าดิฉันท้องจริงแล้วเด็กไม่ปกติ ต้องทำแท้ง ดิฉันก็ต้องทำบาปโดยการทำแท้งเหรอค่ะ ดิฉันไม่รู้จะปรึกษาใคร รบกวนด้วยนะคะ

บุ๋มบิ๋ม
pim0677@gmail.com
8 มิถุนายน 2559 11:01

คุณบุ๋มบิ๋ม ก็เข้าใจความคิดของคุณแม่สามีที่ห่วงว่าเราจะไม่มีใครดูแลตอนชรา ลำพังคุณแม่สามีนี่อายุคงมากแล้ว หากท่านป่วยหรือชราภาพไปในไม่ช้า คุณพอจะมองออกไหมว่า เธอมีลูกคนไหนที่หมายมั่นจะให้ดูแลเธอ สามีของคุณ ตัวคุณ หรือสามีมีพี่น้องคนไหนที่เช่ือว่าจะดูแลคุณแม่สามี เพราะหากไม่มีคนอ่ืนแล้วคุณกับสามีต้องดูแลเธอ แล้วเผอิญคุณมีลูกตอนนี้ กว่าลูกจะเข้าวัยรุ่น คุณบุ๋มก็เกือบหกสิบปี วัยเปลี่ยนแปลง ฮอโมนส์เปลี่ยนแปลง สภาพจิตไม่เหมือนเดิม หากต้องทำงานด้วย ต้องดูแลแม่สามีด้วย มันคงยุ่งมาก โดยเฉพาะมีลูกวัยรุ่นขณะที่เราใกล้เกษียณ มันเหนื่อยมากจริง ๆ นะ นอกจากคุณไม่ต้องทำงาน ฐานะการเงินดีมีผู้ช่วยแม่บ้านช่วยงานบ้าน มีพี่เลี้ยงดูแลลูก และไม่ต้องดูแลแม่สามี ไม่ต้องดูแลแพ่อแม่ตัวเอง อย่างนี้ก็พอจะสบายหน่อย เพราะฉะนั้นคุณบุ๋มต้องพิจารณา คุยกับสามีของคุณ ฟังแม่สามีได้ แต่ก็ต้องนึกว่า ถึงเวลาแล้วเราจะไหวหรือไม่ หากอธิบายแล้วตามเหตุผลที่ผ่านมา เธอยังจะต้องการให้มีลูก คุณหากไม่ต้องการปฏิเสธตรง ๆ ก็เฉย ๆ เสียเพราะไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นปัญหาอยู่ที่คัวคุณ และคุณเท่านั้นที่ต้องแบกรับภาระ ซึ่งหากคุณเองรักเด็ก อยากมีลูก ก็อาจมีกำลังใจในการตั้งครรภ์ มีความสุขในการเลี้ยงลูก ก็น่ามีนะ แต่เมื่อใจคุณเร่ิมต้นปฏิเสธแล้ว หากฝืนใจทำไปตามความคาดหวังของแม่สามี ในอนาคตมีปัญหาเกิดขึ้น คุณคนเดียวเท่านั้นที่ต้องเผชิญสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ลองไตร่ตรองดูนะคะ หากยังรู้สึกเหมือนเดิม ก็บอกแม่สามีไปตรง ๆ ว่า เราไม่พร้อมที่จะมีลูก และยังมีความสุขสนุกกับการทำงานอยู่ แล้วหลีกเลี่ยงความขัดแย้งด้วยการฟังเงียบ ๆ ไม่โต้แย้ง แต่คุณสามารถรักษาความต้องการและการตัดสินใจของตัวเองเอาไว้ เพราะหากเสี่ยงมีลูกในขณะที่ใจไม่อยากมี สุขภาพหรือายุกลางคน ไม่มีความช่วยเหลือสะดวกสะบายภายในบ้าน ก็ไม่ควรฝืนมีหรือต้องมาตัดสินใจว่าจะทำแท้งหรือไม่ทำในอนาคต รู้สึกเหมือนเรากำลังจะสร้างปัญหาให้ตัวเอง อยู่อย่างนี้มีความสุขอยู่แล้วก็เก็บรักษาไว้าน่าจะดีกว่านะ หากคุณอายุน้อยกว่านี้สักสิบปี ก็พอจะมีแรงดูแลวิ่งตามเด็ก ๆ ได้นะ ลองไตร่ตรองดูแล้วคุยกับสามีอย่างจริงจัง ถึงเขาจะรักเด็ก แต่หากไม่พร้อม ความรักจะนำความทุกข์ให้เราได้มากกว่าสุขนะ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ตัดสินใจได้ถูกต้องนะคะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
9 มิถุนายน 2559 14:40
Post อันดับที่ 1

ตอบกระทู้


กลับด้านบน