มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
ชีวิตคู่กับครอบครัว

สวัสดีค่ะ ดิฉันแต่งงานกับชาวญี่ปุ่นอยู่กินกันมาเกือบจะสิบปีละคะ ยังไม่มีลูก สามีอายุ 42 ดิฉัน 30 ปี แต่งงานกันมาก็ดีก็ถือว่าชีวิตดิฉันดีขึ้นค่ะ หลังจากเจอเขาก็ได้เรียน จบ ป. ตรี แต่ก็ไม่ได้ทำงานนะคะ ไม่มีเงินเดือน แรกๆให้นะคะ พอเขามีปัญหาเรื่องฉันเลยตัดสินใจไม่เอาเงิน จนมาถึงทุกวันนี้ ไม่มีเงินสักบาทค่ะ แต่อยากได้อะไรก็ซื้อให้นะคะ ให้ตังใช้บ้างเวลาไปเที่ยวกับเพื่อน ชีวิตก็ปกติดีค่ะ คือเรื่องใช้จ่ายทั้งหมด สามีรับผิดชอบหมดค่ะ สำหรับดิฉันไม่มีปัญหาค่ะ เพื่อนหรือทุกคน พูดว่าวันนึงเลิกกันจะได้อะไร (เขาก็ห่วงกันค่ะ เข้าใจ) แต่ดิฉันเข้าใจค่ะแต่ก็อยู่มานานละ ก็ไม่ได้ลำบากอะไร เขาก็คิดอนาคตอยู่ เป็นคนขยันทำมาหากิน ตอนนี้มาอยู่ญี่ปุ่นด้วยกัน ชีวิตสองคนก็ดีค่ะ ไปกินไปเที่ยว แต่มันมีปัญหาคือ เรื่องเงินให้ทางครอบครัวดิฉันค่ะ คือสามีไม่ชอบแม่ดิฉันค่ะ คือดิฉันอยู่กับตายายตั้งแต่เด็ก แม่จะอยู่กับครอบครัวใหม่ มีน้องชายสองคน แต่ก็อยู่กันเป็นเหมือนครอบล่ะค่ะ แต่ดิฉันแยกจากแม่ตั้งแต่เด็กละ ชีวิตต้องดูแลตัวเองมาตลอด หาเงินเอง จบ ม3 มาทำงาน แต่ก็ติดต่อคุยกับทางครอบครัว น้องชายบ้าง เวลามีธุระ ส่งเงินแม่บ้างๆนานๆที ส่งตังให้ตายายบ้าง เวลากลับเยี่ยมท่าน พอจนมาแต่งงานนี้ล่ะค่ะ ปัญหาเรื่องเงินมาแล้ว คือก่อนแต่งงาน ก็ให้ตังพ่อแม่หมดค่ะ เขาคืนให้สามหมื่น เพราะดิฉันบอกไม่เอา ก็ไม่รู้นะคะเงินหักเหลือแล้วได้กันเท่าไหร่ ดิฉันไม่ยุ้ง ไม่รู้เขาเอาเงินส่วนนั้นไปทำอะไร แต่งงาน 2 ปีแรก เรื่องเงินไม่ค่อยเท่าไหร่ หลังจากนั้น สามีก็ช่วยเรื่องหนี้สิน ธกส ไปสี่หมื่น (เป็นหนี้เหมือนเดิมค่ะไม่รู้เอาเงินไปหมุนอะไร ไม่สำรองเงินไว้ส่ง) ช่วยซื้อดินถมที่ หมดไปห้าหมื่น แต่บ้านไม่เสร็จนะคะทีเหลือให้ไปช่วยกันทำเอง จนถึงตอนนนี้ก็ไม่ทำค่ะ ผ่านมาหลายปีละ งานบวชน้องสามีก็ช่วยให้หมดไปห้าหมื่น ใช้หนี้ที่แม่ยืมน้องชายไป หนึ่งหมื่นบาท (ให้คืนหนึ่งหมื่นแต่คืนแค่เจ็ดพัน) และยังไม่รวมที่ดิฉันแม่ใช้ทีละสองพันสามพัน คือให้เวลาเจอกัน และสามีก็ให้ตายายใช้อันนี้คนเลี้ยงดูมาค่ะเขาไม่ได้เรียกร้องแต่ดิฉันต้องให้ทุกครั้ง แต่คือที่ สามีไม่อยากให้แม่ดิฉันนะคะ คือให้แล้วไม่รูเอาเงินไปทำอะไร ให้ก็หมด ไม่ได้ใช้หนี้ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน และก็ไม่พูดขอบใจอะไรสามีสักครั้ง รับเงินก็รับเลย ที่สำคัญที่สามีไม่ชอบนะคะ คือบ้างให้ตังแล้วเขาเอาตังไปให้น้องชายใช้ค่ะ คือแม่ดิฉันนะคะตามใจลูกชายคนเล็ก หาตังให้น้องชายใช้ค่ะ คือที่ไม่ตังเป็นหนี้เป็นสินก็เพราะลูกชายคนเล็ก น้องคนเล็กนี้สามีก็ให้ตังใช้นะคะ เห็นว่าไม่มีตังใช้แถมมีลูกอีก ให้ไปก็หมดล่ะค่ะ คนลองก็ไม่เท่าไหร่ คือน้องสองคนหาตังแต่ไม่มีตังให้แม่ใช้ตังด้วยกันกับแม่ หลังนี้สามีไม่ให้เลยค่ะ ทะเลาะกับสามีทุกครั้งที่แม่โทรมาขอตัง แค่สองพันยังไม่ให้ค่ะ (เหนื่อยใจ) และเมื่อเร็วมานี้ เดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม น้องชายสองคนแต่งงานไล่เลี่ยกัน น้องชายโทรมาขอตัง น้องคนลอง 20,000 บาท น้องคนเล็ก 10,000 บาท ดิฉันบอกเลยไม่มีตังช่วยหรอก เกรงใจสามี แต่สามีก็ยังมีน้ำใจนะคะ ให้น้องคนลอง 10,000 บาท คนเล็ก 5,000 บาท สามีให้พ่อ 1,000(ไม่ใช่พ่อแท้ๆค่ะ) ให้หลานอีก 500 และ เลี้ยงข้าวครอบครัวอีก ตอนกลับไปไทย 1/3/60 แต่ไม่ได้แม่ค่ะ ให้น้องชาย เขาก็คิดว่าจะให้แม่ด้วยล่ะค่ะ เขาไม่อยากให้แม่ตรงๆดิฉันไม่ขัดค่ะ ไม่อยากทะเลาะยังไงน้องก็ต้องให้แม่ใช้อยู่แล้ว. แต่ปัญก็เกิดขึ้นอีก น้องชายคนลองให้ตังแม่ แค่ 1,000 บาท ซึ่งภรรยาน้องไม่ยอมให้แม่ ซึ้งดิฉันได้บอกไปแล้วว่าให้แม่ใช้ ห้าพันบาท ซึ่งเขาก็รับปากแล้ว น้องชายคนเล็กโทรมาบอกว่าแม่เสียใจร้อไห้ที่น้องชายคนลองโกหกแม่ว่ารับเงินแค่ ห้าพัน ทั้งที่รูแล้วว่าให้หมื่นหนึ่ง ก็ผิดใจกันกับน้องสะใภ้ ก็บอกอยู่ว่าขอให้แม่ ให้แม่พันเดียวน่าเกลียด (ใจดำ) ดิฉันเลยโกรธ ส่วนน้องคนเล็กให้แม่สามพัน แต่แม่ไม่คุยอะไรกับดิฉันเลยค่ะ. คือดิฉันเบื่อแม่เบื่อทุกคน มีแต่เรื่องเงิน จนบางทีดิฉันกับแฟนจะเลิกกันหลายครั้ง เพราะดิฉันจะเอาตังไปให้ทางบ้านอย่างเดียว ดิฉันรู้สึกเกือบจะจบชีวิตคู่ หลายครั้งที่คิดจะเลิก แต่มาคิดดูเขาก็ดี ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม ขยันทำมาหากิน เลิกงานกลับบ้าน วันหยุดพาไปเที่ยว อยากได้อะไรซื้อให้ เลี้ยงข้าวชวนเพื่อนมากินข้าว ถึงแม้เขาจะนิสัยเอาแต่ใจ แต่ก็ทนกันมาได้ ดิฉันเบื่อแค่เรื่องครอบครัวค่ะเบื่อมีแต่เรื่องเงิน. เหยื่อยใจจนไม่มีความสุขในการใช้ชีวิตคู่

เพชร
kamiya.2529@gmail.com
6 มีนาคม 2560 14:19

- ให้ทำการช่วยเหลือให้เต็มที่ แต่เท่าที่เรามีกำลังจะทำได้ คือ เราได้ทำดีที่สุดแล้ว - ในหลายๆเรื่องคุณก็ต้องบอกให้ญาติคุณเข้าใจว่าสถานะของคุณเป็นยังไง มีกำลังแค่ไหน - พยายามทำให้พ่อแม่พี่น้องได้สุดกำลังที่ตนมี ในแบบไหนที่ไม่ลำบากตัวคุณเองและสามี ซึ่งหลักๆเลย คือ ให้พ่อและแม่ ทดแทนบุญคุณท่านเป็นค่าเลี้ยงดู หากท่านฟุ่มเฟือยก็หาแนวทางแนะะให้ท่านประหยัดบางส่วนที่ฟุ่มเฟือย **แต่อย่ามีแล้วไม่ยอมให้ มีมากก็ให้มากได้ มีน้อยก็ให้น้อยตามไป รวมทั้งเหลือเผื่อไว้เก็บเพื่อครอบครัวคุณด้วย** - ส่วนน้องๆก็ประปรายให้ไป คนไหนมีครอบครัวทำงานได้ก็ให้เขาได้ต่อชีวิตสู่ทำงานต่อไป คนไหนยังเรียนอยู่ทำงานไม่ได้ก็โอบอุ่มภาระใช้จ่ายบางอย่างช่วยพ่อแม่ **แต่อย่ามีแล้วไม่ยอมให้ มีมากก็ให้มากได้ มีน้อยก็ให้น้อยตามไป รวมทั้งเหลือเผื่อไว้เก็บเพื่อครอบครัวคุณด้วย** - หากคุณมีกำลังเงินมากหน่อยก็ลงทุนให้ท่านเปิดร้านทำมาหากินบางอย่างบอกท่านว่ามีกำลังแค่นี้ คุณไม่มีเงินเดือน ไม่มีเงินใช้แต่ทำได้ประมาณนี้ก็บุญมากโขให้ได้ทดแทนคุณพ่อแม่บ้างแล้ว ส่วนเรื่องของคุณ คือ - ทำใจให้สบายๆ อะไรที่เอามาคิดแล้วปวดร้าวเป้นทุกข์ ให้รู้ว่าความคิดนี้ไม่มีคุณ อย่าไปติดใจข้องแวะมัน ปล่อยทิ้งมันไปไม่เอามายึดมั่นตรึกนึกคิด - มองหาทางที่จะสร้างรายได้เสริมในส่วนตน(หากในญี่ปุ่นเขาไม่ว่า แระทำได้ไม่ผิดประเภณีเขานะครับ) ขายของผ่านเน็ต ประดิษฐ์ของขาย ขายของกิน เราคนไทยหาวิชาทางไทยไปขายทางเขาจะเ)้นแนวแปลกใหม่สร้างรายได้ง่ายครับ ลองดูครับ

ทะเล้น
7 มีนาคม 2560 22:37
Post อันดับที่ 1

จากที่ฟังเรื่องราวที่เล่าไป รู้สึกว่าคุณโชคดีที่ได้สามีมีน้ำใจ แม้เขาจะไม่ได้ให้เงินคุณเป็นเรื่องเป็นราวเพื่อใช้จ่ายจัดการในบ้านและในครอบครัว แต่เขาก็รับผิดชอบทุกอย่างให้ความสะดวกสบายที่เราไม่สามารถตำหนิเขาได้ อยากได้อะไรกินอะไรก็ซื้อให้ หากคุณอยากจะเก็บเป็นเงินส่วนตัวบ้างคงต้องเจียดเงินของตัวเองเก็บไว้บ้าง หรือหางานทำเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเก็บเป็นเงินส่วนตัว อย่างไรก็ตาม พิจารณาจากเรื่องราวในครอบครัวของคุณ เป็นไปได้หรือเปล่าที่สามีเขาดูจะอ่านนิสัยคุณออกว่ามีความกตัญญูต่อพ่อแม่พี่น้อง ในขณะที่ครอบครัวของคุณแม้จะช่วยตัวเองทำงานได้บ้าง แต่ดูจะไม่พอ ต้องขอจากคุณ เขาอาจคิดว่าการแต่งงานกับคนต่างชาติ ฝ่ายชายมีเงินหรือมีรายได้สูง ทุกคนจึงหวังจะพึ่งคุณ หรือคาดหวังว่าคุณจะช่วยเหลือดูแลครอบครัวของคุณทุกคน สามีคุณจึงรับภาระจัดการจัดสรรปันส่วนการเงินเท่าที่เขาทำได้และเท่าที่เขาเห็นว่าควร เพื่อไม่ให้คุณต้องลำบากใจและปล่อยตัวเองให้ตกเป็นเหยื่อความสงสารครอบครัวของคุณโดยเฉพาะ “แม่” กับน้องชายคนเล็กของคุณ ทั้งนี่ตั้งแต่ต้นมา สามีคุณและคุณก็ได้ช่วยครอบครัวเต็มที่แล้ว อาจถึงเวลาที่คุณจะต้องบอกพ่อแม่ น้อง ๆ คุณว่า คุณและสามีไม่สามารถจะให้ความช่วยเหลือได้อย่างที่ผ่านมา ทุกคนเติบโตมีงานทำ ต้องช่วยตัวเอง ช่วยครอบครัว และช่วยพี่น้องกันเองบ้าง เพราะทุกวันนี้คุณเป็นแม่บ้านไม่ได้ทำงานเอง จึงไม่สามารถจะส่งเงินมาให้ได้โดยตรง หากทางครอบครัวยังพยายามจะบีบบังคับให้คุณส่งเงินไปช่วย สามีคุณดูจะเป็นผู้ใหญ่กว่าคุณมาก เขาได้ช่วยมามากพอแล้ว หากเขาจะโกรธ เบื่อและเลิกรากับคุณ จะมีใครที่บ้านช่วยเหลือดูแลคุณบ้างไหม ตอนนี้คุณกำลังพยายามหางานทำเพื่อจะเก็บเงินเองบ้าง ปล่อยให้คุณได้มีเวลาจัดการเรื่องของตนบ้าง ทางด้านครอบครัวของคุณ ทุกคนต้องช่วยตัวเอง และช่วยแม่กับน้อง ๆ บ้าง คุณคิดว่าจะทำอย่างที่แนะนำมานี้ได้บ้างไหม เพื่อที่คุณจะได้รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับสามีและมีชีวิตสมรสที่มีความสุขต่อไป หรือเขาไม่สนใจว่าคุณจะสุขหรือทุกข์ ขอเพียงส่งเงินให้เขา อย่าลืมนะเราก็ได้ทำหน้าที่ลูกมาอย่างดีพอสมควร แต่หากทุกคนรุมทึ้งคุณกับสามีต่อไปเรื่อย ๆ ชีวิตสมรสของคุณล้มเหลวแล้วใครจะช่วยคุณได้ หันมาช่วยเหลือตนเองในการสร้างชีวิตคู่ที่มีความสุข ส่วนสมาชิกในครอบครัวของคุณก็ต้องตั้งสติทำงานพึ่งตนเองให้ได้เช่นกัน เดือดร้อนจริง ๆ เราค่อยช่วยอีกครั้ง ลองไตร่ตรองดูนะ มีอะไรปรึกษาไปใหม่ได้ค่ะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
16 มีนาคม 2560 16:16
Post อันดับที่ 2

รบกวนปรึกษาปัญหาชีวิตยุ่งๆ ครับว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี เรื่องมีอยู่ว่าทุกวันทำงานออฟฟิตผม กับพนักงานออฟฟิตก็สนิทสนมกันมามีอะไรก็ปรึกษาช่วยเหลือคุยกันทุกวันตลอดเวลา 3 ปี แต่ทั้งสองก็มีครอบครัวมีลูกกันแล้วตามปกติ แต่เนื่องจากความสนิทสนมกันทุกวัน เลิกงานก็ส่งไลน์กลางคืน เช่นหลับฝันดีนะ เป็นต้น เรื่องอื่นก็ไม่มีอะไร และวันหยุดก็ส่งหา แต่ผมจะเป็นคนส่งหาตลอดเขาก็ตอบรับ ยิ้ม ตลอดทำแบบนีมาเกือบสามปี พอมาวันหนึ่งผมก็ส่งไปว่า ขอคิดถึงได้ใหม.. เขาก็ตอบรับ ยิ้มมา แต่กลับพลิกผัน ไอ้คำว่า คิดถึงได้ใหม..ทำให้เขาโกรธ ไม่สบายใจทั้งสองฝ่าย และก็ไม่คุยเล่นเหมือนเดิมปกติตลอดเวลาสามปี คุยเฉพาะเรื่องงานจำเป็นอย่างเดียว ผมจึงไม่เข้าใจว่าทำไม ถึงเป็นแบบนี้ ผมถามว่า คิดถึงได้ใหม..ถ้าบอกว่าไม่ได้..ก็ไม่มีอะไรทุกอย่างก็ปกติ แต่หลังจากนั้นกลับกลายเป็นไม่พอใจโกรธกันไปเลย ที่สนิทสนมกันก็อาจคล้อยไปตามชั่ววูปจึ่งถามไป ว่าคิดถึงได้ใหม เพราะที่จริงก็แค่เป็นกำลังใจในการทำงานสนุกไปวันๆ เลิกงานก็กลับบ้านครอบครัวใครครอบครัวมัน ไม่มีอะไรเกินเลย หรือนัดไปใหนทำอะไรที่ผิดศิลธรรม แค่คิดถึงอยู่ใจเท่านั้น ถ้าเขาไม่มีความรู้สึกแบบนี้ทำไมทุกวันคุยเล่นเรียกหาตลอดวัน ให้ของให้โน่นให้นี่ตลอดมา ผมอาจจะเดาคาดคะเนใจเขาผิดพลาด..ผู้หญิงเข้าใจยากจริงๆๆ ครับ ผมอยากทราบว่าหลังจากนี้จะทำอย่างไรดี นั่งมองหน้ากันก็ไม่แทบจะมอง ที่เคยคุยสนุกสนานกลายเป็นไม่คุยเลย ผมจะทำอย่างไรได้บ้างให้กลับมาคุยเหมือนเดิม จะบอกขอโทษเขาใหม จะอธิบายอย่างไร ว่าไม่ได้คิดแบบชู้สาวอย่างนั้นเลย ผมเครียดมากนอนไม่หลับกินไม่ได้ จนไม่อยากทำงาน ชีวิตมันวุ่นวายปวดหัวมาก หากจบสิ้นก็ดีนะ อยากขอคำปรึกษาแนะนำด้วยครับ

สุทธิพงษ์
22 มีนาคม 2560 16:02
Post อันดับที่ 3

ก่อนหน้านี้ก็ทำงานด้วยกัน เห้นหน้ากันทุกวันก็ปกติดี ต่อมาเร่ิ่มสบตาพูดคุยส่งไลน์ทักทาย กลายเป็นความคุ้นเคยและเคยชิน วันไหนเม่ือไรไม่ได้ทำรู้สึกผิดแปลกเหมือนเรา ไม่ได้ทำหน้าที่ในส่ิงที่เคยทำในชีวิตประจำวัน แม้จะบอกว่าไม่มีอะไร แต่กลายเป็นความเคยชินที่ไม่ปกติธรรมดา เราเริ่มแคร์และมองหาเธอมากขึ้นเร่ือย ๆ เสียใจและรู้สึกขาดหายหากไม่ได้พูดคุยและทักทาย หากปล่อยให้ความรู้สึกนี้ดำเนินต่อไป แล้วคิดว่าอะไรจะเกิดต่อไป หรือทำให้เรารู้สึกมากกว่าที่ผ่านมา ถึงเวลานั้นจะให้เหตุลผตนเองอย่างไร เคยคิดบ้างไหม หากจะให้กลับเหมือนเดิมก็เพียงแค่ทักทายพูดคุยธรรมดา ไม่ใช่เวลาจะสร้างความคุ้เคยให้กลายเป็นความเคยชิน เพราะเราต่างมีครอบครัวที่บ้านที่ต้องดูแลและซ่ือตรง ความรู้สึกที่เกิดขึ้นขณะนี้ เป็นเพียงอารมณ์ส่วนเกิน หากเราให้ความสำคัญกับมัน ก็จะกลายเป้ฯส่วนหนึ่งของอารมณ์เรา เพราะฉะนั้น มองข้ามหรือปล่อยให้อารมณ์ส่วนเกินนี้ให้ผ่านไปจะดีกว่านะคะ ลองไตร่ตรอง หากไม่ฝึกจิตให้อยู่ในกรอบแห่งศีลธรรมที่ดีแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ดีแล้วที่บอกว่าไม่มีอะไร หยุดลงตรงี้แหละดีที่สุดนะ ขอให้มีสติและปัญญา

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
22 มีนาคม 2560 19:17
Post อันดับที่ 4

ขอบคุณ อาจารย์ ที่ให้ข้อคิดเรื่องด้งกล่าว เหตุการณ์ที่เกิดก็เหมือนอาจารย์เข้าใจ ขอปรึกษาเพิ่มเติมนะครับ ผมต้องทำอย่างไรบ้างจะขอเคลียร์คุยปรับความเข้าใจใหม และทำอย่างไรให้คุยกันปกติ แต่ไม่ใช่สนิทสนมเหมือนเก่า หรืออยู่เฉย ๆๆไม่ต้องทำอะไร และจะมีโอกาสหายโกรธใหม หรือต้องใช้เวลา ผู้หญิงเข้าใจยากอาจนานเกลียดนาน..แต่ก่อนเคยช่วยเหลือ ตอนนี้ไม่ช่วยเหลือไรแล้ว ... และอยากรู้ว่าทำไม แค่ คำว่า คิดถึงได้ใหม .. ทำไมถึงโกรธด้วยครับ แค่ตอบว่าไม่..ก็ไม่มีอะไรไม่เห็นต้องโกรธกัน อยากรู้เหตุผลนี้ จะได้เป็นอุทาหรณ์การดำเนินชีวิตต่อไป ขอขอบคุณอาจารย์มากที่ให้ข้อคิดที่ดี..

สุทธิพงษ์
23 มีนาคม 2560 08:50
Post อันดับที่ 5

คุณสุทธิพงษ์ คำว่า "คิดถึงได้ไหม" หากคุณทั้งสองหรือคนหน่ึงคนใดเป็นคนโสด คงจะใช้ทักทายหรือลงท้ายกันได้ เพราะมันให้ความรู้สึกทีใกล้ชิดหรือประชิดตัว ซึ่งอาจเหมือนกล้ำกลายล้ำเส้นความเป็นเพ่ือนไปบ้าง แต่เม่ือต่างฝ่าายต่างมีคู่สมรสแล้ว มันดูจะไม่เหมาะสมนะ เหมือนคุณหยั่งทีท่าก่อนจะจีบเธอ และเม่ือเธอแสดงทีท่าชัดเจนว่าไม่พอใจ คุณคงต้องเฉย ๆ ไป แสดงตัวสุภาพเป็นเพ่ือนร่วมงานที่ดีอย่างที่ผ่านมา ช่วยเหลืองานของตนเอง นานไปเธอหายโกรธ และทำใจได้ว่าคุณใช้ภาษาผิดพลาดไป เธอก็อาจจะกลับมาเป็นเพ่ือนที่ดีดังเดิม อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องพยายามเข้าใจผู้หญิง เอาแค่พยายามเข้าใจภรรยาหรือลูกสาวที่บ้านให้ได้ ก็คงลำบากใจพอสมควรอยู่แล้ว ก็ฝากข้อคิดไว้เท่านี้แหละนะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
24 มีนาคม 2560 16:06
Post อันดับที่ 6

ขอบคุณอาจารย์มากครับที่ให้ข้อคิดที่ดี แต่ช่วงแรกก็ทำใจยากเหมือนกัน หรือว่าต้องเปลียนงานดีกว่าใหม

สุทธิพงษ์
26 มีนาคม 2560 10:36
Post อันดับที่ 7

ขอรบกวนอาจารย์ อีกครั้งเนื่องจากไม่รู้จะอธิบายบอกใครได้ เริ่มแรกก็เป็นเพือนปกติไม่ความรู้สึกอื่นได้ มีวันหนึ่งเธอเครียดๆๆก็ถามว่าเครียดเรื่องไร เขาไว้ใจผมก็เล่าให้ฟังว่า สามีเขาไปมีกิ๊กเขาเล่าฟังทุกอย่าง ผมก็ปลอบใจว่าใจเย็นๆๆค่อยๆๆคุยกันสงสารลูก อย่ากระทำรุนแรงก็ปรึกษาเล่าให้ฟังตลอดมา และเหมือนเข้าใจรู้ใจไว้ใจคุยทุกเรื่องในครอบครัวเรื่องพ่อแม่พี่น้องลูกแต่ละคน รู้จะเหมือนอยู่ในครอบครัวเดียวกัน ก็คุยให้คำปรึกษากันไปผ่านมาปีสองปีความใกล้ชิดคุ้ยเคยมากขึ้นเฉพาะที่ทำงานไม่มีอะไรเกินเลย ต่อมาได้ข่าวว่าสามีเขาเริ่มมีกิ๊กคนใหม่อีกมาจนถึงบัจจุบัน โดยที่เราไม่สามารถบอกอะไรเขาได้กลัวครอบครัวเขาจะมีปัญหา ความรู้สึกเริ่มเป็นห่วงใยเขามากขึ้น กลัวว่าวันหนึ่งเธอรู้เรื่องแฟนเขามีกิ๊กใหม่ไปลงทุนเปิดร้านขายก๊วยเตี๋ย ซื้อนาฬิกา ซื้อของต่างๆๆโดยที่เธอยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ใจหนึ่งอยากจะบอกเธอด้วยความเป็นเพื่อน ด้วยความเป็นห่วงเผื่อจะแก้ไขได้ทัน แต่ถ้าเธอรู้ปัญหาก็เยอะได้แต่ความเป็นห่วงเริ่มตวามคิดถึงเข้ามาโดยไม่รู้ตัว ก็เลยได้ส่งไลน์ไป ขอแค่คิดถึง..เธอก็ส่งรอยยิ้มกลับมา จึงเข้าใจว่าเธอคงคิดถึงเหมือนกัน ครั้งสอง เลยส่งว่า คิดถึงได้ใหม..ก็ตอบรอยยิ้มมาเหมือนกัน แต่โดยไม่คาดคิดรอยยิ้มที่ส่งมาครั้งนี้ทำให้เธอโกรธดังกล่าว จึงส่งขอโทษเขาและสัญญาจะไม่ส่งอีก ขอเป็นเพื่อนดังเดิมได้ใหม จึงไม่เข้าใจมันคือยังไงถึงโกรธไม่คุยกันเหมือนเดิม อยากอธิบายดีใหม คำว่าขอแค่คิดถึงไม่ได้หมายถึงมีอะไรกันหรือมาอยู่ด้วยกันเพราะทั้งสองมีครอบครัวอยู่แล้วไม่สามารถเป็นไปได้อยู่แล้ว เพียงแค่เป็นเพื่อนที่คิดถึงเป็นกำลังใจให้กันในการทำงาน ในชีวิตประจำวันทุกวันเลิกงานก็บ้านใครบ้านมันไม่มีอะไรเกินเลยที่น่าเกลียดหรือไม่เหมาะสม ผมจึงเครียดไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรงงจริงๆๆเรื่องนิดเดียวเอง คนอื่นเขาล้อเล่นแซวเล่นว่าคิดถึงกันเยอะแยะไป แต่ผมแค่นี้ทำไมโกรธ แค่บอกว่า..เป็นเพื่อนกันก็พอ..ก็ไม่ซีเรียสไร เลยไม่เข้าใจจริงๆๆเลยข้องใจว่า..จะอธิบายให้เขาเข้าใจดีใหม..หรืออยู่เฉยๆๆ แต่กันทุกวันจากเคยคุยเป็นไม่คุยก็อึดอัดใจ.ไม่เห็นกันยังดีกว่า...หรือว่าผมเปลี่ยนงาน..จะได้ไม่เจอกัน..หรือว่าแสดงความบริสุทธิ์ใจแสดงความเป็นเพื่อนจริงบอกเรื่องแฟนเขามีกิ๊กอยู่ตอนนี้... ผมจึงกราบเรียนอธิบายมายังอาจารย์อีกครั้งเพื่อความกระจ่างแจ้งในเรื่องราว อาจจะรบกวนอาจารย์แต่เพื่อคลายเครียดความข้องใจที่ไม่สามารถบอกปรึกษาใครได้เพราะเรื่องศิลธรรม จึงมีอาจารย์ได้แนะนำได้ลดความเครียดลง ขอขอบคุณอาจารย์อีกครั้งที่ให้คำแนะนำ

สุทธิพงษ์
26 มีนาคม 2560 12:46
Post อันดับที่ 8

คุณสุทธิพงษ์ เร่ืองของอารมณ์ ความอ่อนไหว ความใกล้ชิด อาจทำให้หัวใจของเราเตลิดหลงทางไปก็ได้นะ ตอนนี้รู้สึกคุณแคร์เธอมาก ๆ มันเป็นอารมณ์ส่วนเกินที่เกิดกับใครก็ได้ แต่ถ้าเราให้ความสำคัญกับความรู้สึกนี้มาก และต่อไป นานไปคุณจะตกเป็นเหย่ืออารมณ์ตัวเองนะคะ ในเม่ือเรามีชีวิตครอบครัวที่ดี ก็ต้องรักษาให้ดีต่อไปก่อน ส่วนเร่ืองของเธอหากเธอไม่ปรึกษาก็ให้เธอ แก้ไขปัญหาด้วยตัวเธอเอง เธอโตแล้ว นี่เป็นชีวิตของเธอ เธอต้องรักษาดูแล เราอาจช่วยได้หากเธอปรึกษามา แต่จำไว้อย่าทำให้ตัวเองกลายเป็นคนมีปัญหา หากเป็นไปได้ แนะนำเธอให้คุยกับนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์นักวิชชีพเหล่านั้นจะดีกว่า คุณไม่จำเป็นต้องลาออกจากงาน เพราะงานก็ต้องการคุณ คุณก็ต้องการงาน คุณยิ้มแย้มแจ่มใสตามปกติ ทักทายอย่างเพ่ือน แต่ไมไปทำใจจรดจ่ออยู่กับเธอ หรือให้ความใส่ใจกับเธอมากเกินปกติ ทำได้ไหม มันอาจจะยากที่จะทำ แต่ก็ต้องทำให้ได้

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
27 มีนาคม 2560 15:46
Post อันดับที่ 9

ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์มาก ที่ช่วยให้ข้อคิดความคิดอารมย์ไม่เตลิดไปจนอาจมีปัญหาตามมา จะทำตามอาจารย์แนะนำ ขอขอบพระคุณอย่างสูง..บางครั้งบางคราหลายคนไม่รู้จะปรึกษาใคร..ที่ยุติปัญหาได้

สุทธิพงษ์
27 มีนาคม 2560 21:16
Post อันดับที่ 10

ตอบกระทู้


กลับด้านบน