มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
ทะเลาะกับแม่ และไม่พอใจญาติ

ปรึกมาก็หลายปัญหาแล้ว ตอนนี้ขอปรึกษาปัญหาของตนเองที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และก้ทนมาก ไม่พูดอะไรจนเมื่อวาน ไม่ไหว ร้องให้มากที่สุดเท่าที่เคยร้องมาเลย เพราะอัดอั้นตันใจมาก เรื่องแรก.แม่หนูอายุ 67 ปี สามี(พ่อหนู) และครอบครัวพี่ชายหลาน 2 คน ส่วนหนูแต่งงานแล้วอยู่กับแฟนที่ กทม.จะกลับไปที่บ้านก็แค่เสาอาทิตย์ เวลากลับบ้านหนูก้จะทำความสะอาดบ้าน ทุกอย่าง ซักที่นอน เสื้อผ้าให้ตามปกติ แต่มาช่วงหลังนี้ ถ้าหนูจะทำ แม่บอกไม่ต้องทำ เปลืองน้ำ คือห้ามไม่ให้ทำ แต่ถ้าหลานเล่นน้ำเปิดน้ำไม่ว่า ห้ามหนูไม่ให้ไปเที่ยว แต่หลานซื้อของเล่นได้ไม่ว่า (หนูให้เงินทุกเดือนไม่มาก เรื่องต่อมา เวลาหนูจะทำอะไรเช่นปลุกต้นไม้จะปลูกตรงนี้ แม่ก้บอกไม่ได้ อย่างเรื่องหลานหนูบอกแบบนี้ไม่ได้ เขาก้บอกว่าช่างมันเหอะ ปล่อยมัน จนเหมือนตอนนี้หนูจะตัดสินใจอะไรเองไม่ได้ ต้องคอยฟังเขา อย่างครอบครัวพี่เขาก้ไม่ปล่อย คอยตัดสินใจแทน หนูก้บอกเขาว่าอย่าไปตัดสินใจให้ครอบครัวเขาดูแลกันเอง แม่ก็พูดว่าถ้าไม่มีเขาก้คงทำมาหากินไม่ได้ อย่างเมื่อวานมีงานทำบุญซึ่งหนูไม่พอใจ น้าขับรถทับหมาหนู แล้วหนูด่าน้าเลย หนูเลยไม่ขึ้นไปทำบุญด้วย เขาก็ด่าหนูอีก(ซึ่งที่หนูไม่พอใจก็ที่เขาแวดใส่หนูตลอด)แล้วหนูก็ขับรถกลับกรุงเทพเลย ขนาดพ่อเขาก็ด่าซึ่งพ่อนอนแล้วบ่นพร่ำทั้งคืนซึ่งเป็นมานานแล้ว เขาก้บ่นก็ด่าทุกวัน หนูให้เงินพ่อถ้าบอกเขาก็จะไม่พอใจ หนูก็ต้องแอบให้ หนูเข้าใจนะคะว่าเรื่องแบบนี้ถ้าเราคิดอคติกับพ่อแม่ไม่ดี แต่จะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะเขาไม่ฟัง หาว่าหนูไปสอนเขาอีก หรือว่าคนสูงอายุเป็นแบบนี้ทุกคน หนูควรจะปฏิบัติอย่างไรดีคะ เรื่องที่ 2 เรื่องน้าผู้ชายที่บ้าน(น้องคนสุดท้องแม่) เขาเป้นคนที่จุ้จี้มากมาย เมื่อวานที่บ้านที่มีงาน เขาพูดว่าชื่อ....และชื่อ.... ไม่มาไม่ดีเลยประมาณว่าไม่มีคนช่วยทำงาน พูดเหมือนประชดหนูว่าไม่ืทำอะไร หนูก็นิ่ง และหนูก็ไม่พอใจก็ไม่ช่วยอะไรเลย และเขาก็จะดุหลานหนูมาก ถ้าหลานไปเล่นบ้านเขาแล้วเลอะเทอะ ว่าตลอด ว่าสุนัขกินข้าวเลอะเทอะไปหมด ทั้งที่มันเฝ้าบ้านให้ เพราะน้ากลับแค่เสาร์อาทิตย์ และเขาก็จะยอยอภาค.... ว่าดีมากซึ่งแฟนเขาเป้นคนภาคนี้ จนทุกคนมองว่าเขาหลงไปเลยหรือเปล่า และจะชอบสั่งโน้นสั่งนี่ คือคนอื่นไม่ดีไปหมด หมายเหตุ ชวงนี้หนูเป้นอะไรมีแต่คนมาแวด มายุ่งทำให้เราวุ่นวายใจไปหมดเลย หนูพยายามนิ่งที่ไม่อยากจะพูดจะคุยแล้ว แต่คนที่ทำให้วุ่นวายใจคือแม่ ซึ่งค่อนค้างหนัก อารมณ์คนแก่จะเป้นแบบนี้เหรอคะ หนูควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร /ขอบคุณมากค่ะ

พิมพ์
pimrapasd@gmail.com
16 มีนาคม 2558 17:18

หนูพิมพ์ คนอายุเท่าแม่ของหนูนี่ ก็อยากจะใช้ชีวิตสบาย ๆ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมาก มีลูกมีหลานคอยดูแลช้วยเหลือ หรือไม่ก็มีเงินพอจะซ้ือความสะดวกสบายสามารถช่วยเหลือตัวเองและลูกหลานได้ แต่ที่หนูเล่าไปเหมือนแม่ยังต้องมีภาระกับลูกหลายอยู่ปล่อยวางไม่ได้ ความห่วงกังวลทำให้หงุุดหงิดง่าย ไม่ได้ดังใจ ลึก ๆ อาจคิดว่าคุณเงินเดือนสูงสะดวกสะบายกลับบ้านบ่อย แต่เงินให้แม่ไม่มากอยากได้เพ่ิมแต่ไม่เอ่ยออกมา กลายเป็นการแสดงความเข้มงวดประหยัดซึ่งเป็นภาระที่ตนกระวนกระวาย ปัญหาเช่นนี้เชื่อว่าเกิดขึ้นกับทุกบ้านทุกคน ที่ให้ความสนใจกับความต้องการของตนเอง หรือคิดว่าตัวเองมีสิทธิจะใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ ในขณะที่บางคนยังไม่พอยังต้องการความช่วยเหลือเช่นแม่ของคุณ แต่หากหนูพิมพ์บอกว่าก็ช่วยแล้ว ไม่มีปัญญาจะให้มากกว่านี้ แต่หนูก็เห็นว่าทุกวันนี้ค่าครองชีพมันสุูงมาก (เมื่อกี้อาจารย์ไปซ้ือส้ิมมา 4 ลูกร้อยบาท เคยเห็นไหม?) เพราะฉะนั้นแม่คงเครียดกับรายได้และรายรับที่ไม่พอกัน จะขอลูกก็ไม่กล้า ปฏิกิริยาจึงแสดงออกมาดังที่เห็น อีกอย่างหนึ่งคือ คนกรุงเทพก็ลำบาก คนต่างจังหวัดก็ลำบาก แต่การทีหนูมาทำงานกรุงเทพ อยู่กับแฟน มีรถขับ รวมถึงมีค่าใช้จ่ายมากมาย แต่คนต่างจังหวัดเขามองไม่เห็นตรงนั้น หนูเองก็มองไม่เห็นปัญหาของแม่ที่ต่างจังหวัดว่าค่าใช้จ่ายมันก็พอ ๆ กับคนกรุงเทพ ย่ิงถ้าเขาไม่ได้ทำงานหรือทำงานในต่างจังหวัดรายได้คงน้อยกวาหนูในความคิดของเขา เพราะฉะนั้นเขาก็สรุปว่าหนูต้องมีมากได้มากแต่ให้เขาน้อย เขาคิดไปเครียดไปกลายเป็นทุกข์เพ่ิมขึ้น หนูกลับไปเย่ี่ยมพ่อแม่หวังจะได้อยู่อย่างมีความสุขเหมือนสมัยเป็นนักเรียน แต่ชีวิตตอนนี้มันไม่เหมือนเดิม ต้องมองเห็นในรายละเอียดและคิดให้ลึกมากกว่านั้น พ่อแม่ทุกคนทำงานส่งเสียลูก ๆ มานาน ชีวิตลำบากมาก ก็หวังว่าลูก ๆ จะส่งเสียช่วเหลือตนเองให้สบายได้ หรืออย่างน้อยตนเองก็มั่นคงเพียงพอ หรืออย่างน้อยที่สุดคือไม่ต้องรบกวนเขาหรือรบกวนเขาให้น้อยที่สุด เพราะปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ของชุมชนมันรุกถึงบ้านทุกบ้าน เราจึงต้องเรียนรู้ให้เข้าใจเรื่องราวและความคิดของตนเองและคนรอบ ๆ ให้มาก ลองไตร่ตรองดูนะ อาจจะไม่ใช่อยางทีอาจารย์วิเคราะห์ก็ได้ แต่อาจารย์อายุก็พอ ๆ กับคุณแม่ของหนูก็คิดว่าพอจะเข้าใจท่านหรือมองอย่างที่ท่านมอง ลองพิจารณาดู ขอให้โชคดี

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
19 มีนาคม 2558 11:50
Post อันดับที่ 1

ตอบกระทู้


กลับด้านบน