มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
ทางออกของอาการระแวงในความรัก

สวัสดีค่ะ ตอนนี้คบกับคนๆ นึงได้ประมาณ 3 ปีแล้วค่ะ ตลอดระยะเวลาที่คบกันมาทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีมาก แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวของดิฉันที่ชอบดูโทรศัพท์เค้าซึ่งปกติไม่เคยเจออะไร ผ่านมาจนวันนึงกลับพบเจอสิ่งที่ทำให้ช็อคและค่อนข้างรับไม่ได้ค่ะ แต่ก็ผ่านมาและให้อภัยเค้า ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ทำให้ดิฉันกลายเป็นคนขี้ระแวงอย่างหนัก กังวลและกลัวเค้าจะกลับไปทำอีก ไม่ไว้ใจแบบเมื่อก่อน เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ก็มีการเล่นแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ใช้ในการหาคู่ หาคนคุย เค้าบอกมาว่าขอลองดูอยากจะรู้ว่าเป็นยังไง แล้วก็จะลบ แต่สุดท้ายในปัจจุบันนี้และที่ผ่านมาก็ไม่ได้ลบ กลายเป็นเค้าเข้าไปดูอะไรต่างๆ ในนั้นเป็นประจำ เค้าบอกว่าไม่ได้คุยกับใคร แค่โหลดมาดูคนนู้นคนนี้เฉยๆ ดิฉันก็ไม่เข้าใจผู้ชายเหมือนกันว่าการกระทำแบบนี้มันทำไปเพื่ออะไร นอกจากนี้ดิฉันยังเคยพบว่าเค้าได้คุยกับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ดิฉันทราบเรื่องจึงไม่ได้มีการคุยต่อ หลังจากเหตุการณ์พวกนี้เกิดขึ้น เค้าสั่งห้ามไม่ให้ดิฉันยุ่งแตะโทรศัพท์เค้าเลย เค้าพยายามหลบๆ ซ่อนๆ ทุกสิ่งทุกอย่าง ชีวิตในตอนนี้ของดิฉันอยู่กับความกังวล ความระแวง ความเครียด และความกลัว เราทะเลาะกันมากขึ้นทุกวัน เค้าไม่ค่อยแคร์จิตใจของดิฉัน เค้าเคยบอกว่า ถ้าดิฉันจะรู้สึกแย่ รู้สึกไม่สบายใจอะไรมันก็เรื่องของดิฉัน ไม่เกี่ยวกับเค้า ยอมรับค่ะว่าพูดไม่ออกเลยเมื่อเจอคำนี้เข้าไป ในตอนนี้ดิฉันเริ่มรู้สึกสับสนกับทุกสิ่งทุกอย่าง ดิฉันควรจะทำอย่างไร ดิฉันไม่อยากทนอยู่กับความกังวล ความระแวงแบบนี้ ดิฉันควรที่จะปิดหูปิดตาทำเป็นไม่รับรู้อะไร ทั้งๆ ที่ความจริงเค้ายังคงเล่นแอปหาคนคุย (แต่เค้าบอกว่าไม่ได้คุย) หรือควรจะทำยังไงดีคะ ดิฉันพยายามข่มตัวเองให้นิ่งเข้าไว้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ในระยะยาว ดิฉันควรจะทำอย่างไรต่อไปดีเพื่อที่จะอยู่อย่างมีความสุข ไม่ต้องอยู่กับความระแวงแบบนี้ ทำยังไงที่จะเชื่อใจเค้าได้ ในส่วนอื่นๆ เค้าเข้ากับดิฉันได้ดีค่ะ มีแค่เรื่องนี้ที่ทำให้ดิฉันไม่สบายใจ แต่ดิฉันก็รักเค้ามากจริงๆ จากเรื่องที่ได้เล่ามานี้ไม่ทราบว่ามีความคิดเห็นอย่างไรคะ และดิฉันควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ขอบคุณมากค่ะ

A
22 กุมภาพันธ์ 2559 13:53

คุณเอ จากที่คุณเล่าไป ฟังแล้วรู้สึกว่า คุณเอเป็นคนดีมีระเบียบวินัย ชอบให้ทุกอย่างชัดเจนตรงไปตรงมา ไม่ชอบมีลับลมคมนัย โดยพฤติกรรมคุณคงเป็นคนเปิดเผย ไม่มีอะไรที่ซ่อนเร้น ในอีกความหมายหนึ่งคือ คุณเป็นคนมีมาตรฐานสูง เพราะคุณเป็นคนทำดี จึงอยากให้คนที่คุณรักก็ดีเหมือนคุณ เพียงแต่ในฐานะของคนรัก คุณก็อยากจะรู้จัก หรือรู้บ้างว่าชีวิตส่วนตัวของเขาเป็นอย่างไร แล้วคุณก็ตกใจที่ได้เห็น หรือรู้จักอีกด้านหนึ่งของแฟนคุณที่เขาปกปิดเอาไว้ ไม่ต้องการให้คุณรู้ ถามว่าคนเป็นคู่รักกันสมควรจะต้องรู้เรื่องของกันและกันไปทุกเรื่องหรือไม่ ลำพังเป็นคู่รักกัน ก็คงยังจะสามารถสงวนหรือเก็บรักษาความเป็นส่วนตัวของตัวเองไว้ได้ เพราะเรายังไม่ได้แต่งงานเป็นสามีภรรยากัน วันหนึ่งอาจต้องแยกกันไม่ได้แต่งานกันก็ได้ ตอนนี้เหมือนเราไม่ได้เป็นคนเดียวกันอย่างที่คนส่วนมากชอบพูดคิดว่า สามีภรรยาเหมือนคนคนเดียวกัน ซึ่งไม่เป็นความจริงเสมอไป เพราะคนส่วนใหญ่ก็ต้องการเก็บบางส่วนของชีวิตตนเองไว้เป็นความลับ และเราต่างต้องเรียนรู้ที่จะเคารพในความเป็นส่วนตัวของกันและกันบ้าง ไม่จำเป็นจะต้องเล่าเรื่องหรือเปิดเผยทุกเรื่องไป ก็ขึ้นอยู่กับ ประเด็นหรือเรื่องที่ต้องการเก็บไว้เป็นความลับ โดยเฉพาะหากความลับนั้นไม่เกิดประโยชน์อะไร เช่น หญิงสาวจำนวนมาก เคยมีเพศสัมพันธ์กับชายอื่นหรือแฟนเก่ามาก่อน แต่เรื่องจบไปแล้ว ตอนนี้เธอมาแต่งงานกับสามี ถามว่าเธอควรไต้องบอกเขาไหมว่าเธอเคยมีผู้ชายมาก่อน คำตอบคือบอกไปเพื่ออะไร หากเขารับได้ก็ดีไป หากเขาทำใจยอมรับไม่ได้ ก็จะกลายเป็นปัญหา กรณีของคุณเอ หากเรื่องที่เราค้นพบมีผลกระทบต่อชีวิตคู่ในอนาคต เช่น เป็นเรื่องที่ขัดต่อศีลธรรมจรรยาบรรณ เป็นพฤติกรรมที่เป็นปรปักษ์ต่อความเป็นสามีภรรยา ก็ต้องถามตัวเองว่า รับได้ไหม ขัดต่อกฎ หรือความรู้สึกส่วนตัวหรือไม่ และหากเขาไม่เลิกเมื่อแต่งงานกันแล้ว เราจะทำอย่างไรต่อไปดี นี่เป็นเรื่องที่ต้องคิดพิจารณา เพราะวันนี้ ในความเป็นคู่รัก เขาบอกมาชัดเจนว่า ห้ามไม่ให้คุณเอย่างกับโทรศัพท์ของเขา หรือไม่ให้ยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขานั่นเอง ที่สำคัญคือเขาพูดชัดเจนว่า ไม่สนใจต่อความรู้สึกไม่สบายใจ เป็นทุกข์ของคุณ และเขาจะยังทำอย่างที่เขาอยากทำตอไป เขาไม่แคร์ต่อความรู้สึกของคุณต่อไป เขาจะพูดจริงหรือด้วยอารมณ์ งานของคุณคือ รอให้ใจเย็นลงทั้งสองฝ่าย ตั้งสติ ตรวจสอบความรู้สึกของตัวเองว่า หากแต่งงานไปแล้วเขายังประพฤติเช่นนี้ จะมีปัญหาอะไรตามมาสำหรับความสัมพันธ์ และความรู้สึกของคุณ ความดีหรือคุณค่าของเขาที่ผ่านมา คุ้มกันไหมกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นและตามมา เพราะเขาบอกแล้ว่า นี่เป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ต้องการให้คุณยุ่ง แล้วคุณจะใช้ความสัมพันธ์หรือสถานภาพอะไรในการเจรจาถามไถ่ และต่อรองกับเขา นอกจากนั้นโดยนิสัยส่วนตัวคุณออกจะขี้ระแวง ช่างสงสัย อยากรู้อยากเห็นเรื่องของเขาเสมอมา แล้วคิดว่าจะเปลี่ยนแปลงปิดหูปิดตาตนเองไม่รับรู้เรื่องเขาได้หรือ ทนได้หรือจะเปลี่ยนมาเชื่อใจเขาได้หรือ อะไรจะง่ายกว่า ระหว่าง เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเขา กับของตัวเราเอง และหากพยายามจะอดทนต่อไปด้วยหวังว่า แต่งงานแล้วจะเอาความดีเข้าช่วยให้เขาเปลี่ยนแปลง เหมือนผู้หญิงส่วนใหญ่ที่รู้ก็รู้ว่าสามีติดเหล้าบุหรี่ การพนันตั้งแต่ก่อนแต่ง แต่ก็คิดว่าแต่งงานไปแล้ว จะเอาความดีชนะใจเขา หรือเราจะเปลี่ยนเขาได้ ผลคือ ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะหากคุณรักเขา ยังต้องการจะแต่งานใช้ชีวิตคู่กับเขา ก็ต้องมีสติเตือนตัวเองว่า คุณรู้และมองเห็นทั้งส่วนที่เป็นทั้งความดี และสิ่งที่ไม่ดี รักเขาอย่างที่เขาเป็น อดทนอยู่ได้โดยไม่คาดหวังว่าจะเปลี่ยนแปลงเขา เพราะไม่เช่นนั้น คุณก็จะผิดหวัง จะทุกข์ไม่มีความสุขในชีวิตคู่ที่สำคัญคือ ต้องยอมรับได้ว่า แต่ละคนก็มีส่วนที่เขาอยากเก็บไว้เป็นความลับส่วนตัว หากไม่ทำให้เราเสียหายหรือทำให้เขาเป็นอันตรายเป็นภัยวังคม เราคงต้องปล่อยให้เขาเก็บส่วนนั้นไว้ เราได้แต่มองดูห่าง ๆ ด้วยความเข้าใจและให้อภัย ทำได้ไหม ลองคิดดูนะ ขอให้เกิดสติและปัญญา!

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
22 กุมภาพันธ์ 2559 13:56
Post อันดับที่ 1

ตอบกระทู้


กลับด้านบน