มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
ทำไงดีค่ะ

คือหนูชอบผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นรุ่นน้อง แล้วคือก็ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง พอเราบอกชอบเขาไป เขาก็ตอบมาแค่ครับ หลังจากนั้นเราก็เป็นฝ่ายไปขอเบอร์เขาก่อนแล้วก็ได้คุยกับเขาระยะหนึ่ง ต่อมาเราโทรไปหาเขา เขาไม่รับสายและเขาก็โทรกลับมาเขาไม่พูดอะไรแต่มีเสียงคนกำลังร้องเพลงบอกรัก แล้วจากนั้นเขาก็วางไป เราก็ไม่แน่ใจว่าเขาบอกรักเราเหรอ เพราะก่อนหน้านั้นเราถามเขาว่าขอจีบได้ไหม เขาก็ตอบเราว่า ผมจีบรุ่นน้องอยู่ครับ หลังจากนั้นเราเลยไปถามเขาอ้อมๆว่า บอกชอบรุ่นน้องคนนั้นไปรึยัง เขาก็ตอบเราว่า บอกไปแล้วครับ เราก็คิดว่าเราอกหักไปแล้ว แต่ปรากฏว่าเขาก็มาหาเรา เดินผ่านๆให้เราเห็นบ่อยๆ จนเราไม่แน่ใจว่าคืออะไรกันแน่ เวลาผ่านไปเราก็ไม่เห็นเขาจะอยู่กับผู้หญิงคนไหน เราลองจีบเขาใหม่ มีส่งข้อความไปหาเขาบ่อยๆ เขาก็ไม่เคยตอบเรากลับมาซักฉบับหรือโทรมาอีกเลย แต่เขาก็มาให้เราเห็นบ่อยๆ เหมือนเดิม จนมาวันหนึ่งเราฝากเพื่อนเอาของไปให้เขา เขาก็รับไว้ ครั้งที่สองเราก็ฝากเพื่อนเอาของไปให้เขาก็รับ พอครั้งที่สาม ฝากเพื่อนไปให้เขาเหมือนเดิมแต่เขาไม่รับปฏิเสธเรากลับมา พอตอนเย็นวันนั้น จะกลับบ้านให้เพื่อนไปเอากระเป๋าที่ห้อง พอเพื่อนเรากลับมาเขาบอกเราว่า อาจารย์เรียกไปพบแล้วถามว่าใครเป็นคนส่งข้อความหารุ่นน้อง เพื่อนเราตอบว่าไม่รู้แต่จริงๆคือเขารู้ว่าเป็นเรา เราก็เครียดทั้งวัน กลางคืนเราโทรไปหาเขา เขาก็ไม่รับสายเรา พอเช้าวันต่อมาอาจารย์ก็มาพูดเรื่องนี้หน้าห้อง เขาบอกว่า มีรุ่นน้องมาฟ้องครูว่าเด็กเราส่งข้อความไปหาเขา น้องคนนั้นบอกว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว และอาจารย์เขาก็บอกว่า ไม่ควรไปยุ่งกับน้องคนนี้อีกจะดีกว่านะ เขาก็จบแค่นี้ ตอนแรกเรานึกว่าเขาจะถามว่าใครเป็นคนทำ ก็เลยกังวลมาก หลังจากนั้นเราก็ส่งข้อความไปหารุ่นน้องคนนี้อีกเพื่อขอโทษเขา และก็ไม่ส่งหาเขาอีกเลยเพราะกลัวเขาจะฟ้องอาจารย์อีก แต่คือเขาก็มาหาเราที่ข้างห้องเรียนของเราในอีกอาทิตย์ต่อมา เขามากับเพื่อนกลุ่มใหญ่ เราทำอะไรไม่ถูกก็เลยหลบหน้าเขา เพื่อนเขาก็เลยพูดขึ้นมาว่า เห้ย แม่งไม่มองหน้าเลยวะ เราก็ตีความไม่ถูก สรุปคือเราก็ไม่ได้คุยกับเขาอีก แต่ไม่นานต่อมาเขาก็พาน้องผู้หญิงที่เขาบอกว่าเป็นแฟนเดินมาเยาะเย้ยเรา ก่อนหน้าครั้งที่สองที่เราเอาของไปให้เขา เราก็เห็นแล้วว่าเขามากับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่คือเขาก็ยังโผล่มาให้เราเห็นบ่อยๆ บางวันเหมือนเขาดักรอเรา เพื่อให้เราเห็นนะ ว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว เป็นแบบนี้เรื่อยๆจนเราทนไม่ไหว ก็เลยส่งข้อความไปหาเขาอีก เขาก็ไม่ตอบเราเหมือนเดิม เคยนัดให้เขามาคุยด้วย เขาก็ไม่มา จนในที่สุดเราก็เรียนจบ เราก็คิดว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้ว ก็เลยเลิกไป แต่พอปิดเทอมได้ไม่กี่วัน เขาโทรมาแต่เราไม่ได้รับ พอโทรกลับเขาก็ไม่รับสายเรา เราเลยนัดจะคุยกับเขาอีกครั้ง พอวันนัดมาถึง เราโทรไปตรงเวลา เขาก็ไม่รับสายเราและก็ไม่มีการโทรกลับ วันต่อมาเราเลยไปดูเขาที่hi5 ปรากฏว่าเขาบอกรักน้องผุ้หญิงคนนั้นแล้วก็มีรูปถ่ายคู่กัน สาเหตุที่เรายังคุยกับเขาอยู่เนื่องจากก่อนปิดเทอม เพื่อนเราที่อยู่หมุ่บ้านเดียวกับเขาบอกเราว่าเห็นเขากับน้องผู้หญิงคนนี้แล้วก็แม่น้องเขา วิ่งออกกำลังตอนเช้าแถวบ้านด้วยกันสามคนบ่อยๆ และก็วันสุดท้ายที่เรามาเรียนเราก็เห็นเขากับน้องคนนี้ลงรถมาโรงเรียนด้วยกัน เราถึงยอมคุยกับเขาแต่ทำไมเขาถึงไม่ยอมคุยกับเรา เราก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าพอเราเห็นภาพนั้นเราก็ช็อคมาก มันสับสนไปหมด ไม่เห็นจะเข้าใจสักอย่าง แต่พอทำใจได้ก็จะเลิกอีกครั้ง เรากำลังเข้ามหาลัยใกล้เปิดเทอมก็เลยไปซื้อของ พอขากลับเขาก็โผล่มาที่สะพานลอยแถวบ้านเรากับน้องผู้หญิงคนเดิมซึ่งทางนี้ไม่ใช่ทางกลับบ้านเขา เขายืนอยู่กับเพื่อนผู้ชายหนึ่งคนแล้วก็น้องผู้หญิงคนเดิมแล้วก็เพื่อนของน้องผู้หญิง ทั้งหมด4คน เราไม่เข้าใจว่าเขาจะมาหาเราอีกทำไม แต่เราก็ส่งหาข้อความไปหาเขาเหมือนเดิม เขาไม่เคยตอบกลับเราเลย พอหลังจากนั้นก็ไม่เจอเขา แต่เจอเพื่อนเขาแทนที่สะพานลอยในตอนเช้า ซึ่งทางนี้ไม่ใช่ทางไปโรงเรียน แล้วจะเจอบ่อยมากแทบทุกอาทิตย์ เราลองโทรหาเขาติดต่อเขา หลายครั้งเขาก็ไม่รับ วันหนึ่งเราเอาเบอร์เพื่อนโทรไปหาเขา ก็มีคนรับสาย เราตกใจรีบกดวางเพราะคนที่รับสายเป็นผู้หญิง สักพักผู้หญิงคนนั้นก็โทรกลับมา เราก็เลยพูดว่าขอสาย..ชื่อเขา..หน่อย ผุ้หญิงคนนี้ตอบเราว่า ไม่มีคนชื่อนี้ค่ะ เราหน้าเสียก็เลยขอโทษแล้วก็วาง เราเช็คเบอร์ว่าโทรผิดรึเปล่าก็ไม่ผิดนะ เราส่งข้อความหาเขาจนจำได้แม่น เราไม่รู้ว่าสรุปมันยังไงกันแน่ แต่ที่รู้ๆคือทุกครั้งที่เราเอาเบอร์เราโทรไปเขาจะไม่รับสาย แต่ถ้าเป็นเบอร์คนอื่นเขาจะรับ ต่อมาเราเอาเบอร์ของพ่อโทรไป เป็นเสียงผุ้ชายรับ คือสับสนมากแต่ก็ทำไรไม่ได้ วันหนึ่งเรากลับไปโรงเรียนเก่าอีกครั้ง หลังเลิกเรียนแล้ว เราก็นั่งคุยกับเพื่อนเราแล้วก็อาจารย์อยุ่ที่โต๊ะข้างตึกที่เขาเรียน จู่ๆอาจารย์ก็ทักโต๊ะข้างๆว่า สองหนุ่มตรงนั้นทำไมไม่มานั่งนี่ล่ะ มีของกินด้วยนะ(โต๊ะเราเพิ่งซื้อของกินมา) เรางงเลยหันไป คนที่นั่งโต๊ะข้างๆเราคือ เขากับเพื่อนเขา คือก็ทำไรไม่ถูก นั่งฟุ่บหน้าบนโต๊ะ จนเราทนไม่ไหวก็เลยเดินหนีไปล้างหน้า แต่ตอนลุกไปเราแอบเห็นเขาก็นั่งฟุ่บหน้ากับโต๊ะเหมือนกัน แล้วพอเรากลับมาที่โตีะอีกครั้ง เขาก็ไม่อยู่แล้วเหลือแต่เพื่อนเขา เย็นวันนั้นเราก็ส่งข้อความไปหาเขาอีก เขาก็ไม่ตอบ หลังจากนั้นเราซิ่วเนื่องจากปัญหาหลายๆอย่างที่เข้ามาจนเรารู้สึกว่าทนไม่ไหว ไม่ใช่การเรียน เราไปสมัครที่ใหม่ ขากลับเราออกมา จุ่ๆก็มีรถคันหนึ่งเฉียดเข้ามาใกล้ๆเรา เราก็บ่นด่ามันในใจ ถนนก็ออกจะกว้างมาเบียดเราทำไม ไม่ชนไปเลยล่ะ แล้วเราก็มองเข้าไปในรถที่กระจกด้านหลัง มีผุ้ชายใส่ชุดนักเรียนโรงเรียนเก่าเรานั่งอยู่ หน้าคุ้นๆแต่เราจำไม่ได้ เขาทำหน้าเยาะเย้ยใส่เรา แล้วก็เดินผ่านไปโดยไม่อะไร แต่มันก็อดคิดไม่ได้ว่า เราไม่รู้จักกันแท้ๆไม่ใช่เหรอ เขาทำหน้าแบบนี้ทำไม เราเดินข้ามสะพานลอยไปจนจะลงอีกฝั่ง เราก็นึกออกว่า ผุ้ชายในรถนั้นคือใคร แต่จะย้อนกลับไปเขาก็คงไปแล้วมั้งก็เลยกลับบ้านดีกว่า แล้วเราก็ทำเหมือนเดิมคือส่งข้อความไปหาเขาแทน ในวันนั้น ทำแบบนี้เรื่อยๆจนในที่สุดก็ทนต่อไปไม่ไหว ก้เลยขอให้แม่ช่วยติดต่อเขาให้หน่อย แม่บอกเราว่า เขาเปลี่ยนเบอร์มือถือไปแล้ว เราไม่เชื่อเลยเอาเบอร์อื่นโทรไป เขารับสายเราเลยถามเขาว่า กับน้องคนนั้นเป็นยังไง เขาก็ตอบเราทันที เลิกกันแล้วครับ เราอึ้งจะร้องแต่ก็พยายามที่จะคุยกับเรา เราเงียบไปสักพักเพื่อปรับเสียงตัวเอง เราบอกเขาว่า ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก(คือเรากังวลมากที่เราส่งข้อความหาเขาแล้วมันจะกลายเป็นทำให้เขามีปัญหากับแฟนเขารึเปล่า คือก็รู้สึกผิดเหมือนเป็นมือที่สามที่ไปยุ่งกับเขาแต่อีกใจก็ดีใจที่ในที่สุดก็ได้พูดกับเขาสักที แต่คือก็แยกไม่ถูกว่าอันไหน) แล้วเราก็กดวางสายไป แล้วทีนี้เราก็โทรกลับไปใหม่เพราะยังคุยกับเขาไม่จบ มีอีกหลายเรื่องที่อยากจะถาม แต่เขาก็ไม่รับสาย โทรไปหลายครั้ง จนเขาปิดเครื่องหนีไป เขาเล่นเฟสบุ๊ค เราก็คิดถึงเขาก็เลยแอบไปดู เราเอาเฟสเราแอดไปหาเขา เขาก็ไม่รับ ส่งข้อความเขาก็ไม่ตอบ จนเขาเปลี่ยนเบอร์ เราก็เลยส่งข้อความทางเฟสบุ๊คแทน แต่เขาก็ไม่ตอบเช่นเดิม ทำแบบนี้หลายปีจนถึงตอนนี้ และล่าสุดเราแอบไปดูเฟสเพื่อนเขา ก็เห็นภาพเขาไปผับกับเพื่อนอีก3และก็มีผู้หญิง2คน คือก่อนหน้านั้นเราดูเฟสเขาก็มีภาพที่เขาถ่ายกับเพื่อนผุ้หญิง มีคำแบบว่าชวนให้คิดมากหลายคำ แต่คือเราก็หาเรื่องเขาไปหลายรอบ จนเราเริ่มปล่อยวางได้แล้ว แต่ครั้งนี้ที่เขาไปผับคือ บนโต๊ะมีเหล้าด้วยขวดหนึ่ง เราติดต่อเขาเพื่อที่จะถามเรื่องนี้หลายครั้ง ถามเพื่อนเขาแต่ก็ไม่มีใครยอมตอบเราสักคน เราไปแอบอ่านคอมเม้นของภาพนั้น เพื่อนเขาคุยกัน ตัวเขาบอกเพื่อนเขาว่าไม่แทครูปนี้ได้ไหม เพื่อนเขาก็แบบว่ากลัวเข้าใจผิดกะ.. หรือไม่ก้กลัวเสียภาพพจน์เหรอ แล้วผู้หญิงในภาพก็มาคอมเม้นว่า ..ชื่อเขา.. ไม่แทคไม่ได้หรอก คือพออ่านแล้วทำไมทุกอย่างมันส่อมากเลยอ่ะค่ะ คือจะทำไงดี คือหนูเป็นโรคจิตไหมแล้ว จะเลิกยังไงดี คือลองมาหลายวิธี เคยคิดฆ่าตัวตายด้วย มันก็ไม่สามารถเลิกชอบเขาได้เลย เห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่นทีไรก็จะคิดมากตลอดทั้งๆที่เราไม่ได้เป็นแฟนกัน ไม่ได้ติดต่อกัน แล้วที่เขาไปผับเราก็คิดมากว่าเขากับผุ้หญิงคนนั้นจะมีอะไรกันรึเปล่า เพราะฟังมาหลายที่เขาก็บอกว่าส่วนใหญ่ไปผับก็จะไม่พ้นเรื่องพวกนี้ คือต้องทำยังไงถึงจะหายหรือเลิกชอบเขาได้อ่ะค่ะ ให้เปิดใจมองคนใหม่ก็กลัวว่าจะมีปัญหาอีก กลัวตัวเองจะกลับไปหาเขาอีกแล้วเดี๋ยวก็กลายเป็นปัญหาเพิ่ม ถ้านับตอนนั้นก็เกือบ6ปีแล้ว ทำยังไงก็กลับมาที่เดิมตลอด ทำไมต้องร้องไห้เพราะผู้ชายคนนี้ด้วยก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เขาไม่ได้จะอะไรเลย แล้วล่าสุดเขาตอบเฟสเรากับมาสั้นๆคือเรา ถากถางเขาไปว่า มีผุ้หญิงมาจีบเยอะจังเลยนะ(ประชด) เขาตอบเราว่า งงฮะ จากนั้นเราลองขอเขาเป็นแฟน เขาก็บล็อคเฟสเรา ตอนนี้คือก็ใช้อีกเฟสคุยกับเขาแต่เขาก็ไม่ตอบเราเหมือนเดิม เราบอกตัวตนกับเขาเสมอว่าเราคือใคร คือหนูจนปัญญาจริงๆค่ะ คืออยากเลิกยุ่งกับเขาแต่มันก็อดไม่ได้ทุกที ควรจะทำยังไงดีอ่ะค่ะ

M
15 ตุลาคม 2557 17:20

หนูเอ็ม เขียนจดหมายได้ยาวดีนะ เขียนแล้วสะบายใจข้ึนไหม คนรุ่นเก่ามักนิยมให้เด็กวัยรุ่นเขียนไดอารี เพื่อเป็นการระบายอารมณ์ ทำให้คลายเครียด เพราะเรามีเรื่องจะพูดออกมามากมาย แต่คงยากจะมีใครสนใจฟังหรือฟังแล้วก็อาจไม่เข้าใจ ลำพังตัวเราเองพูดไปพูดมาก็สับสนเหมือนกันไม่รู้วาตัวเองต้องการอะไร อารมณ์วัยรุ่นมันพุ่งขึ้นพุ่งลงไม่มีใครตามทัน การเขัยนจดหมายเหล่านี้นอกจากเป็นการช่วยระบายอารมณ์แล้วยังเป็นการช่วยให้เราเกิดการเรียงลำดับทางความคิด เกิดการบำบัดเยียวยาตนเอง ทำให้โล่งใจไปเยอะ! ที่นี้มาที่คำถามหนูว่าทำอย่างไร หนูเคยเห็นภาพโฆษณาหรือในหนังสือที่เด็กสาวยืนถือดอกไม้มือซ็้าย มือขวาก็เด็ด กลีบดอกไม้ทีละกลีบ ปากก็พูดว่า "รัก ไม่รัก รัก ไม่รัก รัก ไม่รัก รัก........" นั้นแหละคือความรู้สึกของหนูขณะนี้ ก็เหมือนวัยรุ่นอีกมากมายที่กำลังมีความรู้สึกเหมือนหนูขณะนี้ อาจารย์เมื่อวัยหนูก็เคยผ่านตรงนี้มานะ มันอยากรู้อยากได้คำตอบ อยากรู้ว่าเขาคิดอย่างไร แอบหวังนิด ๆ ว่าเขาจะชอบเรา แต่เพราะเขาก็ยังเด็ก ยังสับสนไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ไม่รู้จะตอบอย่างไร ไม่รู้จักตนเองพอจะแสดงการยอมรับได้ สถานการณ์ของหนู กับหนุ่มน้อยคนนั้น ซึ่งดีกว่าอีกหลาย ๆ รายที่กระโจนเข้าสู่ความสัมพันธ์ทางเพศ ให้ทั้งหนูและเขา อยู่บนเส้นกล้า ๆ กลัวตรวยี้แหละดีนะ เพราะหนูกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย โลกใหม่คนกลุ่มใหม่อีกมากมายกำลังรอหนูอยู่ หากหนูตกลงเป็นแฟนกับเขา หนูอาจพลาดโอกาสดี ๆ ข้างหน้า ที่สำคัญบุคลิกลักษณะอย่างหนูเอ็มนะ ความรู้สึกขณะนี้มันเป็นอารมณ์ว่าง ๆ เหงา ๆ เลยคิดโน่นคิดนี่ฟุ้งซ่านเรื่อยไป แต่หากเขาตอบตกลงคบกับหนู หนูก็จะรู้สึหสมใจเหมือนเด็กหญิงที่อยากได้ตุ๊กตาสักตัว ตราบใดที่ยังไม่ได้ หนูก็จะยืนจ้องมองจะเอาให้ได้ไม่ไปไหน แต่หากได้มาแล้ว ไม่นานหนูก็จะเบื่อและพร้อมจะโยนท้ิง ตอนนี้เหมือนเด็กเล็กที่ยังไม่ได้ของที่ต้องการ มันเลยดูมีค่า! แต่วันข้างหน้าเจอคนใหม่มากมาย หนูก็จะเปลี่ยนใจเป็นเรื่องธรรมดาเกิดขึ้นกับเกือบทุกคนนะ เพราะฉะนั้นอดใจรอ อดทนอย่าไปรับรู้หรือรับเขามาเป็นแฟน ให้โอกาสตัวเองให้แน่ใจว่าเจอคนที่ "ใช่" จริง ๆ เสียก่อนดีกว่านะ สำหรับหนุ่มน้อยคนนี้ พ่อแม่เขาคงอบรมมาดี เขาไม่ตอบรับใคร เขาให้โอกาสตัวเองที่จะเติบโตเรียนรู้จักผู้หญิงหรือเพื่อนหญิงไปก่อน เราก็ควรทำตัวให้ได้อย่าเขา ไม่ตอบรับจริงจังกับใครขณะนี้ รอเวลาให้เราพร้อมและแน่ใจก่อนนะ หากหนูหมกมุ่นกับเขานานเกินไปหรือนานมาแล้วคงต้องก้มลงมองตนเองว่า จริง ๆ แล้วเราเป็นคนที่ด้ือรั้นอยากได้อะไรต้องได้ พอไม่ได้ก็ไม่ยอมไปไหน แต่ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ตุ๊กตา แต่เป็นคนที่มีสมอง หากจะให้ตัวเองเป็นที่สนใจเท่าเทันมกับเขา เราก็ต้องฝึกให้เป็นผู้ใหญ่ เข้มแข็งอดทน และจำไว้ว่า การที่เรารักชอบใครสักคน ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องรักชอบตอบกลับเราด้วย เราต้องเคารพความคิดการตัดสินใจของเขา ตอนนี้ตั้งหน้าเรียนสอบให้เข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ พยายามมานานแล้วเขายังไม่สนใจ ไม่รับความรู้สึกดี ๆ ของเรา เราก็ดึงความรุ้สึกดี ๆ กลับมา ไม่ต้องเสียหน้าเสียใจไม่ต้องเสียความรู้สึก การรักชอบเป็นเรื่องเกิดขึ้นและเปลี่ยนไปตามวัยและเวลา ตอนนี้เขาไม่พร้อมจะชอบเราก็ไม่เป็นไร ก้าวเดินต่อไป นานไปวันเวลาอาจพาให้เขากลับมาพบและรู้จักคุ้นเคยกันได้ ตอนนี้เมื่อยังไม่ถึงเวลาสำหรับเขา เราก็วางเรื่องนี้วางเขาไว้ก่อน รอจนเขาและเรามีความพร้อมกว่านี้ คือรู้จักใจรู้จักความต้องการของตัวเองชัดเจนเสียก่อน ทุกอย่างก็จะชัดเจนขึ้นเอง แล้วเราก็จะตระหนักแน่นอนว่าเขาเหมาะกับเราหรือไม่ อดทน ตั้งสติ ตั้งหลัก รักษาเกียรติและศักด์ศรีของเราไว้ แล้วสิ่งดี ๆ ก็จะมีเข้ามาเองนะ ดูแลตัวเองด้วยนะอย่าหมกมุ่น ทำใจสบาย ๆ ขอให้โชคดีเจอคนที่ใช่นะ!

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
16 ตุลาคม 2557 11:26
Post อันดับที่ 1

ตอบกระทู้


กลับด้านบน