มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
ท้อง แฟนทิ้ง เพิ่งรู้ว่าติดเชื้อhiv

สวัสดีค่ะ ... หนูตั้งครรภ์ได้3เดือน เพราะแฟนที่คบกันขอมีลูก เชื่อใจค่ะ เลยปล่อยมี สุดท้ายมารู้ว่าผู้ชายมีครอบครัวแล้ว เลยกลับมาอยู่บ้านกับที่บ้าน หนูเคยมีลูกแล้วนะคะ ผช.6ขวบ .... หนูเพิ่งไปฝากท้องมา ผลออกมาว่า หนูติดเชื้อhiv หนูจะต้องย้ายจากคลินิคไปฝากที่โรงพยาบาล เพื่อรับยาต้าน แฟนก็เหมือนจะไม่รับผิดชอบอยู่แล้ว ถ้าเกิดเขารู้ว่าหนูติดเชื้อแล้วเขาตรวจไม่มีเชื้อ เขาทิ้งหนูกับลูกแน่ๆ หนูจบแค่ม.3 ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำงานอะไร เงินก็ไม่มีสักบาท ถ้าไปโรงบาลมันเป็นโรงบาลรัฐของอำเภอ ต้องมีคนที่ติดเชื้อแล้วรู้จักหนู เอาไปพูดต่อๆกัน หนูอยากตายค่ะตอนนี้ ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว เงินไม่มีสักบาท ท้องไม่มีพ่อ แถมติดเชื้อhiv

นุ้ย
Nui.nui355@gmail.com
27 พฤษภาคม 2559 14:33

*หนูอายุ23ค่ะ ทางมันตันแล้ว หนูสามารถฆ่าตัวตายได้ทุกเวลา ถ้าหนูไม่คิดถึงลูกชายที่อยู่กับหนูตอนนี้ อยากตายค่ะ

นุ้ย
27 พฤษภาคม 2559 14:35
Post อันดับที่ 1

หนูนุ้ย ตอนนี้หนูรู้สึกโกรธ เสียใจ ทุกข์ใจ จนเหมือนส้ินหวัง เรามาช่วยกันคิดวางแผนไปทีละขั้นตอนนะ เพราะการติดเช้ือเอชไอวี ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หเมื่อก่อน อยากถามข้อมูลหนูสักเล็กน้อย คือ หนูกำลังอยู่ที่จังหวัดอะไร อายุเท่าไร หนูจบมัธยม 3 แต่ใช้คอมพิวเตอร์ได้ ใช้เนทได้ นั่นแสดงว่าหนูมีทักษะที่สามารถจะหางานทำช่วยเหลือตัวเองได้ ขอเพียงให้เราเจอและเลือก ช่องทางที่ถูกต้องกับความสามารถของเราเท่านั้น ก่อนอ่ืนอาจารย์อยากให้หนูรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเอชไอวีให้มากพอที่จะไม่ต้องหวาดกลัวมัน มันเหมือนเรารู้จักศัตรูของเรา คือรู้เขารู้เรา นั่นคือการที่คนคนหนึ่งติดเช้ือเอชไอวี เช้ือเอชไอวีที่เข้าไปในร่างกาย จะไม่ทำให้คนคนนั้นเสียชีวิตได้ แต่จะไปทำให้ร่างกายหรืุสุขภาพอ่อนแอลง เมื่อร่างกายอ่อนแอก็จะทำให้ร่างกายรับโรคอื่น ๆ ได้ง่าย เช่น วัณโรค ปอดบวม ไวรัสบี หรือโรคร้ายแรงอ่ืน ๆ ที่แทรกซ้อนเข้ามา คนติดเช้ือเอชไอวีอาจจะเสียชีวิตด้วยโรคแทรกซ้อนเหล่านั้น เพราะฉะนั้นคนที่ติดเช้ือเอชไอวี จึงต้องดูแลสุขภาพของตนให้แข็งแรง ไม่ปล่อยให้ร่างกายอ่อนแอและรับโรคแทรกซ้อนเหล่านั้น อย่างไรก็ตามโรคแทรกซ้อนเหล่านั้นหากเป็นแล้วก็รักษาหายหากรีบไปพบแพทย์ นอกจากนั้นคนที่ติดเช้ือเอชไอวีควรต้องไปพบแพทย์เป็นระยะตามที่หมอนัด หมอจะจะช่วยแนะนำประคับประคองให้คนไข้แข็งแรงเสมอ ๆ แต่หากป่วยบ่อยแพทย์ก็จะให้ตรวจเม็ดเลือดขาวหากผลออกมาต่ำกว่า 300 หมอก็จะให้กินยาต้านไวรัสเพ่ือช่วยให้ร่างกายแข็งแรงต่อไปเรื่อย

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
28 พฤษภาคม 2559 14:45
Post อันดับที่ 2

หนูนุ้ย ตอนนี้หนูรู้สึกโกรธ เสียใจ ทุกข์ใจ จนเหมือนส้ินหวัง เรามาช่วยกันคิดวางแผนไปทีละขั้นตอนนะ เพราะการติดเช้ือเอชไอวี ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หเมื่อก่อน อยากถามข้อมูลหนูสักเล็กน้อย คือ หนูกำลังอยู่ที่จังหวัดอะไร อายุเท่าไร หนูจบมัธยม 3 แต่ใช้คอมพิวเตอร์ได้ ใช้เนทได้ นั่นแสดงว่าหนูมีทักษะที่สามารถจะหางานทำช่วยเหลือตัวเองได้ ขอเพียงให้เราเจอและเลือก ช่องทางที่ถูกต้องกับความสามารถของเราเท่านั้น ก่อนอ่ืนอาจารย์อยากให้หนูรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเอชไอวีให้มากพอที่จะไม่ต้องหวาดกลัวมัน มันเหมือนเรารู้จักศัตรูของเรา คือรู้เขารู้เรา นั่นคือการที่คนคนหนึ่งติดเช้ือเอชไอวี เช้ือเอชไอวีที่เข้าไปในร่างกาย จะไม่ทำให้คนคนนั้นเสียชีวิตได้ แต่จะไปทำให้ร่างกายหรืุสุขภาพอ่อนแอลง เมื่อร่างกายอ่อนแอก็จะทำให้ร่างกายรับโรคอื่น ๆ ได้ง่าย เช่น วัณโรค ปอดบวม ไวรัสบี หรือโรคร้ายแรงอ่ืน ๆ ที่แทรกซ้อนเข้ามา คนติดเช้ือเอชไอวีอาจจะเสียชีวิตด้วยโรคแทรกซ้อนเหล่านั้น เพราะฉะนั้นคนที่ติดเช้ือเอชไอวี จึงต้องดูแลสุขภาพของตนให้แข็งแรง ไม่ปล่อยให้ร่างกายอ่อนแอและรับโรคแทรกซ้อนเหล่านั้น อย่างไรก็ตามโรคแทรกซ้อนเหล่านั้นหากเป็นแล้วก็รักษาหายหากรีบไปพบแพทย์ นอกจากนั้นคนที่ติดเช้ือเอชไอวีควรต้องไปพบแพทย์เป็นระยะตามที่หมอนัด หมอจะจะช่วยแนะนำประคับประคองให้คนไข้แข็งแรงเสมอ ๆ แต่หากป่วยบ่อยแพทย์ก็จะให้ตรวจเม็ดเลือดขาวหากผลออกมาต่ำกว่า 300 หมอก็จะให้กินยาต้านไวรัสเพ่ือช่วยให้ร่างกายแข็งแรงต่อไปเรื่อย

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
28 พฤษภาคม 2559 14:45
Post อันดับที่ 3

(ยังพูดไม่จบ) ปัจจุบันการติดเช้ือเอชไอวีก็เหมือนกับคนเป็นโรคเบาหวาน ความดัน เป็นต้นคือปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และป้องกันไม่รับเช้ือเอชไอวีเพ่ิมนั่นคือหากมีเพศสัมพันธ์ก็ต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง กรณีที่ตั้งครรภ์ ไปตรวจที่โรงพยาบาล และเข้าโครงการกินยาต้านไวรัสไม่ให้เด็กในท้องติดเอชไอสี ปัจจุบันผู้เข้าโครงการหรือกินยาต้านนี้ เด็กส่วนใหญ่ไม่ติดเอชไอวีเมื่อเกิดมานะ ทางโรงพยาบาลพยาบาลจะให้คำแนะนำที่ดี พยายามไปโรงพยาบาลและเข้าโครงการให้ได้ ไม่ต้องเสียเงินนะ และไม่ต้องกังวลว่าใครจะพูดนินทาหรือวิจารณ์ เพราะไม่ใช่โรคร้ายแรงอีกต่อไป และพยาบาลคนทั่วไปก็มีความรู้ความเข้าใจเรื่องโรคเอดส์มากขึ้นจึงไม่ต้องกังวล ส่วนเรื่องผู้ชายถึงหนูไม่ติดเอดส์และตั้งครรภ์ ก็หวังอะไรจากเขาไม่ได้เพราะเขามีครอบครัวแล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อไม่อยากบอกเขาเรื่องลูกเรื่องโรค ก็ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเขาเพราะเขาอาจจะเป็นคนนำเอชไอวีมาติดเราก็ได้ ถึงขณะนี้จะหวังพึ่งใครคงยาก ต้องพึ่งตนเอง เพราะเรามีลูกอีกคนหนึ่งอยู่แล้วที่้องการเรา เม่ือมีคนที่สองก็สามารถบอกหมอขอทำหมันได้จะได้ไม่สร้างภาระให้ตัวเองต่อไป ถึงตอนนี้คือคั้งสติ พยายามหางานสร้างเงินจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ ทุกวันนี้เราคงเห็นคนต่างชาตมาทำงานบ้านเราเงินเดือน ๆ ละ เป็นหมื่นแล้วเราทำไมหาเงินหางานไม่ได้ หากพยายามไม่เลือกงานใช้แรงงานตนเองให้เป็นประโยชน์เราย่อมตั้งหลักได้ในที่สุด ที่ผ่านมาหนูนุ้ยเลือกการใช้ชีิวตที่ถูกเอาเปรียบโดยผู้ชาย คัวเราสามารถทำงานใช้แรงกายเราให้เกิดประโยชน์ได้แต่ไม่ได้ทำ ตอนนี้ต้องให้โอกาสตนเองหางานทำงานช่วยตัวเองให้ได้นะ หมดเวลาที่จะหันไปมองอดีตหรือมองหาผู้ชายที่เขาไม่ได้รักเราจริงหรอก เราต้องรักตัวเอง รักลูกดูแลช่วยเหลือตัวเองให้ได้แล้วทุกอย่างจะต่อย ๆ ดีขึ้นเองนะ หากต้องการความช่วยเหลืใอนกรุงเทพ เช่นที่พัก บ้านพัก ติดต่อไปได้นะ จมีสถานที่ที่จะช่วยเหลือคุณต่อไปได้นะ ลองไตร่ตรองดูนะแล้วบอกอาจารย์ไปด้วยว่าคิดจะทำอะไรต่อไปที่สร้างสรรค์สำหรับชีวิตเราและลูก ๆ ดูแลตัวเองโดยไม่โรงพยาบาลฝากครรภ์ขอยาต้านกินให้ได้นะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
28 พฤษภาคม 2559 15:01
Post อันดับที่ 4

ขอบคุณค่ะอาจารย์ ตอนนี้ทางครอบครัวหนูรู้หมดแล้ว หนูกำลังจะย้ายไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัด เพื่อเข้าโรงพยาบาลและรักษาที่นั่น เพราะหนูไม่พร้อมที่จะเข้ารับการรักษาที่นี่ .. ใช่ค่ะ หนูสับสน หนูเศร้าใจ ทุกข์ และหดหู่มาก. ทุกคนก็ต่างร้องไห้แต่ก็พากันให้กำลังใจหนู ... หนูจะเข้าไปปรึกษาคุณหมอให้เร็วที่สุด และ จะมีชีวิตที่อยู่สู้กับโรค เพื่อลูกและคนที่รักหนู หนูพยายามจะคิดว่าหนูโชคดีที่รู้เร็วก่อนที่ร่างกายจะทรุด ... มันคือบทเรียนสำหรับชีวิตหนู ถ้าหนูไปอยู่ต่างจังหวัด ญาติบอกให้ไปช่วยๆกันขายของ หนูคิดว่าต่อจากนี้อะไรๆก็คงดีขึ้น เพราะไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้ได้อีกแล้วค่ะ

นุ้ย
28 พฤษภาคม 2559 16:04
Post อันดับที่ 5

ดีใจที่หนูคิดได้และเลือกทางที่จะอยู่ท่ามกลางคนที่รักหนูคือครอบครัวเครือญาติ อย่างที่บอกคือการทำให้ร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคแทรกซ็อน ดีที่สุดและหนูทำได้เพราะอายุยังน้อย ขยันทำงานออกกำลังกาย ร่างกายก็จะคืนสภาพคือแขงแรง ตั้งสติมองหางานที่พอจะทำได้ ว่างไปเรียน กศน ให้จบ ม 6 เผื่อจะ มีโอกาสจะได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยนะ พยายามทำส่ิงที่ดีที่สุดเพือตัวเองและลูกทั้งสอง แล้วปัญหาจะคลี่คคลายและช่วยเหลือตัวเองได้ในที่สุดนะ ขอให้โชคดี อยู่ที่ไหน หากมีปัญหาหรือมีโอกสก็ปรึกษาหรือคุบกับอาจาร์ผ่านเวบไซด์นี้นะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
29 พฤษภาคม 2559 19:31
Post อันดับที่ 6

ตอบกระทู้


กลับด้านบน