มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
ปัญหาชีวิต

หนูเพิ่งเรียนจบ มา.6 ตอนนี้ไม่ได้เรียนต่อเพราะที่บ้านไม่มีเงิน(แค่ข้ออ้าง) ก่อนเรียนจบ มา.6 เราคุยกันเรื่องมหาลัยที่จะเรียนต่อ ไม่ว่ายังไงทางครอบครัวก็อยากให้เรียนมหาลัยที่อญุ่ใกล้บ้าน เป็นมหาลัยเอกชน ค่าใช้จ่าย มีเงินส่งให้เรียนแน่นอน (ฐานะทางบ้านไม่ได้รวยมากแต่ก็ไม่ลำบาก พอมีพอใช่มีเงินเหลือเก็บบ้าง ) ตอนนั้นหนูก็เหมือนเด็กคนอื่น อยากลองสอบตามมหาลัยรัฐบาลไว้วางใจ อย่างน้อยค่าเทอมก็ไม่แพง ก่อนถึงวันสอบเข้า หนูบอกแม่ไว้แล้วว่าพรุ้งจะไปที่มหาลัย แม่เงียบไม่ตอบอะไร ไม่ถามว่าไปกี่โมง เลิกกี่โมง เหมือนแม่ได้ยิน พ่อบอกว่าอย่าไปเลยมันไกลบ้าน (มหาลัยอยู่ในตัวเมืองเอง

บี
suttida8689@gmail.com
19 กรกฎาคม 2559 15:49

หนูบี เช่ือเถอะว่า คุณพ่อคุณแม่ของหนูอยากให้หนูได้เรียนสูง ๆ ส่วนจะเป็นที่ไหนค่อยว่ากันอีกที กรณีของหนูบอกว่าพ่อแม่ได้คุยกันแล้วว่าจะให้ไปมหาวิทยาลัยเอกชย เพราะอยู่ใกล้บ้าน แต่หนูอยากลองไปสอบมหาวิทยาลัยเอกชน แต่พ่อแม่ไม่สนับสนุน ถึงวันสอบหนูจึงไม่ได้ไปสอบ หมายความว่าวันสอบผ่านไปแล้วใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นถามพ่อแม่หรือยังว่า จะให้หนูไปสมัครมหางิทยาลัยเอกชนโดยตรงเลยใช่ไหม หากพ่อแม่ยืนยันอย่างเดิม หนูบีก็ไหยิบเอกสารระบียบการเข้าเรียนและค่าใช้จ่ายมให้คุณพ่อคุณแม่ดู หนูบอกว่าฐานะครอบครัวพอมีกินมีใช้ ในสายตาของลูกเมื่อพ่อแม่ไม่ปล่อยให้ลูกอดอยากหรือขาดแคลนมาก แต่อาจไม่ได้หมายความว่า พ่อแม่จะไม่มีปัญหาแต่ส่วนใหญ่พ่อแม่ไม่อยากบอกลูกเกรงจะเสียกำลังใจ ชณะนี้เป็นไปได้หรือเปล่าสถานะทางการเงินของพ่อแม่หนูกำลังมีปัญหา หากเรานำเอกสารมหาวิทยาลัยเอกชนมาให้ท่านดู ท่านอาจจะสามารถเร่ิมพูดบอกถึงปัญหาที่ท่านกำลังมีก็ได้ อยากให้หนูบีตั้งสติอย่าโกรธไม่พอใจในส่ิงท่ีพ่อแม่จะพูดต่อไป หากท่านบอกให้รอไปก่อน ก็ฟังท่าน หรือหากหนูรับรูว่าพ่อแม่กำลังมีปัญหาการเงิน ยังไม่มีจะส่งให้เรียน ก็อยากให้หนูเข้าใจว่า พ่อแม่น้ันห่วงเรื่องเรียนของลูกมากที่สุด ถ้าไม่จำเป็นจริงท่านไม่ปฏิเสธหนูหรอกนะ แต่ปัญหาการบ้านการเมืองตอนนี้ไม่แน่นอน การงานการเงินสั่นคลอนกันทุกบ้าน ทุกคนต้องพยายามประคับประคองครอบครัวและตัวเองให้ผ่านไปให้ได้ เรื่องเรียนนั้นสมัยนี้เรียนเม่ือไรก็ได้มีสถาบันการศึกษามากมายทั้งภาครัฐและเอกชน หากมีปัญหาเรียนเอกชนไม่ได้ มหาวิทยาลัยสุโขทัย หรือมหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นสถาบันที่ดี ลงเรียนไปก่อนก็ได้ สมัยนี้เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน แต่ตอนนี้หากพ่อม่มีปัญหาก็ใจเย็นรอไปก่อน ช่วยแบ่งเบาภาระในบ้านให้ดีให้มากกว่าเดิม สร้างบรรยากาศที่แสดงว่าเราเป็นลูกที่ดีมีความกตัญญู อย่างท่ี่บอกพ่อแม่รักลูกอยากให้เรียนสูง ๆ ทั้งนั้นแต่ทุกครอบครัวก็มีปัญหากันบ้าง รอไม่ก่อนไม่ต้องกังวลไม่ตต้องสงสัยเคลือบแคลงว่าท่านไม่อยากให้เราเรียนนะ พอจะทำได้ไหม คือฟังพ่อแม่และให้ความเข้าใจกับท่านบ้าง อย่าเพียงต้องการให้พ่อแม่เข้าใจเราทำตามใจเราเท่านั้น นะ หนูอาจจะคิดว่าอาจารย์พูดเข้าข้างพ่อแม่ ไม่ถึงขนาดนั้น แต่เข้าใจทั้งพ่อแม่และตัวหนู ปัญหาทุกวันนี้ทั้งที่บ้านและในสังคมซับซ้อนมาก อาจารย์มีลูกชายก็สอบเข้าได้หมดมหาวิทยาลัยปิดที่ดัง ๆ แต่เรียนได้เทอมสองเทอมก็ทนกับสิ่งแวดล้อมไม่ได้ การเดินทางลำบากมาก ไม่เคยไปเรียนทันเลย จึง เปลี่ยนสอบใหม่ก็สอบได้ แต่สุดท้ายก็เลือกเอกชนใกล้บ้าน เอาความสะดวกมากที่สุด ก็อลงไตร่ตรองดูนะเหมือนหนูจเขียนยังไม่จบ หากอยากเพ่ิมเติมอะไรเขียนไปเพ่ิมเติมได้นะจ๊ะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
20 กรกฎาคม 2559 14:11
Post อันดับที่ 1

ทำยังไงดีคะนุรู้สึกเบื่อบ้านเบื่อครอบครัวเบื่อชีวิตตัวเอง รู้สึกอยากตาย แต่ก็กลัวที่จะตาย ไม่รู้จะต้องทำยังไง ชีวิตทุกวันนี้อยู่ เหมือนใช่ชีวิตไปวันๆ ไม่มีความฝัน ไม่มีจุดหมาย เบื่อทุกอย่างรอบตัว อยากให้มันหายไปจากโลกนี้ให้หมด บางครั้งรู้สึกอยากร้องไห้ และมันก็ร้องออกมาแบบไม่มีสาเหตุ ไม่รู้จะปรึกษาใคร ความรู้สึกเหมือนไม่มีใครที่ไว้ใจได้เลยทั้งเพื่อนทั้งคนในบ้านทั้งที่ทำงาน บ่อยครั้งนุชอบทำร้ายตัวเอง ชอบทำลายข้าวของเวลาที่โมโหเวลาไม่ได้ดั่งใจ หรือเวลาที่นุต้องมารับฟังปัญหาของพวกผู้ใหญ่ในบ้าน แต่เรื่องนี้ไม่มีใครรู้เลยเพราะไม่เคยมีใครสนใจ แม่แต่พ่อแม่ก็ไม่เคยรู้ ก่อนหน้านี้นุเคยมีความฝัน นุอยากมีบ้าน นุอยากให้ครอบครัวเราดีขึ้น แต่ตอนนี้รู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้แล้ว ก่อนหน้าที่ครอบครัวของเรา พ่อและแม่แยกทางกัน พ่อเค้าก็มีชีวิตใหม่มีเมียมีลูกใหม่ ส่วนแม่ก็อยู่กับน้องและก็ตัวนุเอง นุไม่เคยคิดว่าสุดท้ายแล้วครอบครัวที่นุรัก มันจะกลายเป็นแบบนี้ ดูแล้วก็เหมือนจะไม่มีอะไร ก็แค่พ่อแม่แยกทางกัน ตอนแรกๆก็เข้าใจผู้ใหญ่เองเค้าก็คงมีเหตุผลของเค้า ก็ใช่นะ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ นุรู้สึกว่านุไม่มีบ้าน ไม่มีใครเลย นุเบื่อเบื่อทีทุกคนเอาแต่ปัญหาเอาแต่เรื่องไม่สบายใจของตัวเองมาเล่าให้นุฟัง ชอบเอาเรื่องแย่ๆ มาตอกย้ำนุ ชอบทวงบุญคุณ ชอบพูดว่าเลี้ยงมาก็ต้องตอบแทน ทำงานมาได้เงินก็ต้องแบ่งให้ทั้งญาติทั้งพ่อทั้งแม่ พอไม่มีให้ก็กลายเป็นคนไม่สำนึกบุญคุณ ความรู้สึกเหมือนนุเป็นภาชนะอะไรสักอย่างที่รองรับอารมณ์พวกเค้า นุเกลียดพ่อที่เห็นแก่ตัวไม่รู้จักพอเอาแต่ความสุขของตัวเอง เกลียดแม่ที่ไม่เคยรักนุเลย เกลียดน้องที่มันไม่ต้องมารับรู้อะไรเลย ไม่เคยต้องรู้สึกกับคำว่าสำนึกบุญคุณ เพราะมันถูกแม่ปกป้องตลอดเวลา บางครั้งนุคิดว่าแล้วนุละคือตัวอะไร บ้านนี้ ครอบครัวนี้ นุเป็นตัวอะไรตายไปก็คงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม แล้วนุต้องต้องทำยังไง

chu
27 กรกฎาคม 2559 12:09
Post อันดับที่ 2

หนูนุ เข้าใจนะคะว่าหนูกำลังรู้สึกทุกข์ เหน่ือยล้า เครียดหงุดหงิดและสับสนคับข้องใจ มันมีหลายประเด็นที่ทำให้หนูรู้สึกไม่ดีขณะนี้ ที่สำคัญหนูรู้สึกผิดหวังในหลาย ๆ คน รวมทั้งผิดหวังในตัวของหนูเองด้วย แต่ไม่เป็นไรนะ เรามาช่วยกันเรียงลำดับทางความคิดไปทีละเร่ือง หนูนุไม่ได้บอกว่าอายุเท่าไร จบการศึกษาระดับไหน บอกแต่ว่าทำงานแล้ว ก็คาดว่าคงเรียนจบมหาวิทยาลัยมา ไม่ได้บอกว่ารับราชการหรือทำงานเอกชน แต่ฟังดูหนูนุก็ไม่สนุกในการทำงาน และไม่ว่าจะเป็นราชการหรือเอกชน ในสถานการณ์ปัจจุบันคือ ทุกคนต้องคว้า ตองยึด ต้องจับ งานที่ทำอยู่ไว้ให้มั่น เพราะหากหลุดลอยไปหรือเราเบ่ือเซ็งไม่ทำงาน สถานการณ์อาจจะย่ิงแย่กว่าที่เป็นอยู่ ไม่ว่าชีวิตส่วนตัว ที่บ้านจะเป็นอย่างไร เราอาจเบ่ือ ล้า แต่กับการทำงาน อาชีพที่ช่วยให้เรามีงานมีเงินใช้ไม่ต้องขอใครให้เขาบ่นว่าเราให้เสียน้ำใจ เราต้องรักษาและยึดงานที่ทำอยู่เอาไว้ให้ได้ เพราะงานหายาก เศรษฐกิจกำลังมีปัญหาต้องไม่ตกงาน ! หันมาดูเร่ืองพ่อแม่แยกทางกันแล้ว พ่อเขามีเมียมีลูกมีครอบครัวใหม่ ก็ดีแล้วปล่อยเขาไปเถอะ เพราะหากพ่อแม่ยังอยู่ด้วยกันอาจมีเร่ืองทะเลาะโตัเถียงกันรุนแรงทำให้ไม่มีใครมีความสุข หากการแยกทางทำให้พ่อหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีความสุข ก็คงจะดีกว่าทุกข์กันทุกคนนะ ไม่ต้องไปโกรธเขาหรอกนะ เร่ืองเขากับแม่จบลงแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นพ่อของเราถึงเขาไม่ให้เงินไม่ส่งเสียเราก็ไม่เป็นไร ดีแล้วที่ไม่มาเบียดเบียนเรา ตอนนี้หันมาดูในบ้านเรา ฟังเหมือนอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ไม่ใช่เพียงสามคนแม่ลูก ทำให้เรารู้สึกรำคาญเบ่ือหน่าย แต่แม่ก็คงมีเหตุผลที่ต้องอยู่อย่างนี้ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งทุก ๆ คนรอบ ๆ หนูก็คงเป็นกันทุกคน อยากให้หนูนุฝึกให้ใจเย็น เงินเดือนเราอาจไม่มากพอจะช่วยใครได้ในเร่ืองเงินแม้เราจะอยากช่วย แต่เพียงหนูนุรับฟังเขาบ้าง ไม่ต้องใส่ใจในเน้ือหาของปัญหาเพราะหนูนุคงช่วยไม่ได้ ญาติเหล่านั้นเพียงอยากให้มีคนฟังเขาพูดบ้าง จะได้สบายใจ ไม่ต้องไปมีอารมณ์ร่วมกับเขา เพราะเราก็มีภาระในการดูแลแม่และน้องอยู่แล้ว ใครพูออะไรก็ปล่อยเขาไป จากที่หนูนุเล่าไป ได้ความรู้สึกว่า หนูนุรับเรื่องทุกเร่ืองของทุกคนมาคิด ปะปนสับสนจนเหมือนเรามีปัญหามากมาย หนูนุอาจอยากมีเวลา มีสถานที่ที่จะเป็นส่วนตัวบ้าง จะได้ไม่ต้องคิดมาก ส่วนที่หนูเคยฝัน อยากมีบ้านมีครอบครัวที่อบอุ่น เราก็สามารถทำความฝันให้เป็นความจริงได้ ตอนนี้ยังทำไม่ได้ก็รอไปก่อน ค่อย ๆ ศึกษามองหาส่ิงแวดล้อมบ้านที่เราจะอยู่ คิดรู้สึกอะไร อย่างไร ค่อย ๆ พูดคุยกับแม่ ตอนนี้แม่มีหนูเป็นเพ่ือนคนเดียว หนูนุก็มีแม่เป็นเพ่ือน เพราะฉะนั้นเราต้องอยู่กันด้วยความเมตตาและเป็นมิตรของกันและกัน น้องเราก็เช่นกัน ตอนนี้ยังเด็ก พ่อก็ไม่อยู่แม่กับหนูนุก็ต้องเข้าใจน้อง คำว่าครอบครัวไม่จำเป็นต้องมพ่อแม่ลูก เพียงมีแค่แม่ลูกก็เป็นครอบครัวแล้ว ขอเพียงให้อยู่กันด้วยเมตตาจิต ถึงจะยากจนแค่ไหนชีวิตเราก็เป็นสุขได้ ส่วนที่หนูนุเล่าว่าชอบทำร้ายตนเองนั้น ทำร้ายตนเองเท่ากับเราโกรธทำโทษตนเองทั้ง ๆ ที่เราอยู่ในช่วเวลาอ่อนแอและอ่อนแรง ขณะนี้เรามีเร่ืองราวมากมาย อย่าสร้างปัญญาเพ่ิมขึ้นจากที่มีอยู่ ตรงกันข้มหนูต้องทำตัวให้แข็งแร. ไม่เจ็บไม่ป่วยออกกำลังกายจะได้มีพลังกายพลังใจการต่อสู้กับชีวิตต่อไป ใช่คนมากมายที่อยู่ใสนภาพหนูอาจอยากตาย แต่ตายไปแล้วเราก็ยังไม่ได้ทำไม่ได้เป็นอย่างที่เราฝัน แต่ตราบที่เรายังมีชีวิตอยู่ ความฝันจะเป็นจริงได้เสมอ ขอเพียงความอดทน ขยัน ไม่ต้องโกรธไม่โทษใคร ก่อนหน้านี้เราอาจเลือกเกิดไม่ได้ แต่วันนี้เราสามารถที่จะเลือกเป็นอย่างที่เราปรารถนาได้ เพราะฉะนั้นให้กำลังใจตัวเอง ยิ่มแย้มแจ่มใจทำจิตใจให้เบิกบาน ไม่ว่าชีวิตจะทุกข์ยากแค่ไหน เรายังยืนหยัดอยู่ได้ พร้อมหน้าพร้อมตาทั้งแม่และน้อง ประคับประคองกันไว้ให้ดี ไม่มีใคปารถนาดีกับเราเท่ากับสองคนนี้นะคะ ขอให้กำลังใจตั้งสติ พูดให้ดี คิดดี ทำดีไม่นานเราก็จะเดินไปถึงเป้าหมายในชีวิต ขอให้โชคดีค่ะ เขียนไปคุยใหม่ได้

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
28 กรกฎาคม 2559 13:43
Post อันดับที่ 3

ตอบกระทู้


กลับด้านบน