มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
มีปัญหาการค้าขายกับเพื่อน

สวัสดีค่ะอาจารย์ รบกวนปรึกษาและขอคำแนะนำด้วยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า เพื่อนร่วมงานของแฟนดิฉันได้มาเช่าที่เพื่อขายของที่ตึกแห่งหนึ่ง ทำเลติดถนนใหญ่ตามแนวรถไฟฟ้า ค่าเช่า 9000 บาท/เดือน มูลค่าสินค้าของเค้าคือ 35 บาทขึ้นไป(มีสินค้าประมาณ 2-3 อย่าง) เนื่องด้วยค่าเช่าค่อนข้างสูงเค้าเลยคุยกับแฟนดิฉันว่าอยากมาขายของมั๊ยเพื่อจะได้มาช่วยแบ่งเบาค่าเช่า แฟนดิฉันเห็นว่าโอกาสดีเลยตกลง เค้าบอกว่าให้ขายฟรีไปก่อน เดือนต่อมาก็เริ่มเก็บค่าเช่าโดยเก็บคนละครึ่งซึ่งเจ้าของตึกก็ลดค่าเช่าให้เพราะยังขายของได้ไม่เยอะตึกเพิ่งเปิดไม่นานคนไม่ค่อยรู้จัก พอมาถึงเดือนนี้เจ้าของตึกไม่ลดให้เก็บเต็มจำนวน เพื่อนแฟนดิฉันให้ออกคนละครึ่งเลย โดยที่สินค้าที่ดิฉันเอามาขายมีมูลค่า 20 บาท วันนึงขายไม่ได้เยอะมาก ส่วนของเพื่อนแฟนขายได้ประมาณ 1400-1500 บาท/วัน แฟนดิฉันลงทุนส่วนดิฉันเป็นคนขาย ขายช่วงเย็นๆค่ะ โดยทุกๆวันดิฉันจะไปช่วยเพื่อนแฟนผลิตสินค้าเนื่องจากเป็นอาหารสด ช่วยทำทุกวันช่วยขายทุกวัน แฟนดิฉันเห็นว่าค่าเช่าค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับรายรับที่เข้ามา เลยคุยกับเพื่อนขอลดลงหน่อย เพื่อนแฟนบอกว่า ก็แล้วแต่ ถ้าไม่ขายก็บอกล่วงหน้าละกัน จะได้หาคนอื่นมาขายแทน ดิฉันได้ยินคำนี้จากแฟนรู้สึกเสียใจมากค่ะ เหมือนพอมีคนรู้ัจักสินค้าของเขาแล้วขายได้มากขึ้น เค้าก็ถีบหัวส่งเราเลย ทั้งๆที่เราก็ช่วยเค้าทุกวันช่วยด้วยใจไม่เคยร้องขออะไรเลย แต่เค้ากลับยอมหักไม่ยอมงอ ตอนนี้นั่งขายมองก็ไม่คุยกันเลยมองหน้ากันไม่ติด รู้สึกแย่มากๆ เลยค่ะ ไม่ทราบจะทำอย่างไรดี ขออภัยอาจารย์ด้วยนะคะเรื่องค่อนข้างยาวค่ะ จริงๆมีรายละเอียดมากกว่านี้ที่ไม่ได้เล่าค่ะ ยังไงแล้วรบกวนขอคำชี้แนะด้วยนะคะ

JT
12 กุมภาพันธ์ 2559 12:00

คุณJT รู้สึกเสียความรู้สึกมาก แล้วถามแฟนหรือเปล่าว่าเขารู้สึกหรือคิดอย่างไร เพราะนี่คือเพื่อนของเขา เขารู้จักกันมาก่อน ส่วนหนึ่งคือแฟนคุณก็อยากจะช่วยเพื่อน เราจึงมานั่งอยู่ตรงนี้ มันก็ดีที่มีเพื่อนช่วยเหลือกัน แต่ดูจากค่าเช่าครึ่งหนึ่งคือ 4,500 บาท กับรายได้ที่ได้รับ (1) เรายังไม่มีของมาขายให้เต้มที่กับพ้ืนที่ที่เราต้องจ่ายคือครึ่งหนึ่ง (2) เราช่วยเขาผลิตอาหารสดด้วย หากเขาทำเองคนเดียวไม่ได้ ต้องหาลูกจ้างมาช่วย กำไรก็จะน้อยลง แต่เขาไม่ได้มองตรงนั้น เขามองว่าเรามาพึ่งเขา เขาช่วยเราให้ได้ขายของ เขามีบุญคุณกับเรา แฟนของคุณมองเห็นอย่างที่อาจารย์เห็นหรือเปล่า ต้องเคลียร์กับแฟน ให้เรามองเห็นคิดได้เหมือน ๆ กัน จะได้ช่วยกันคิดต่อไปว่า ถึงตรงจุดนี้เรา ควรหาของมาขายเพ่ิมรายได้ และทำให้ไม่มีเวลาช่วยเขา หรือมองหาที่ใหม่ อาจเสียเพื่อน แต่หากอยู่นานไป เพื่อนเร่ิมมีปฏิกิริยาต้านหรือเป็นศัตรูหรือข่มเหงเรามากขึ้น จะคุ้มไหมกับเงินที่เสียไป และที่ได้มา หากเพื่อนมีนิสัยเห็นแก่ตัวอย่างนี้ แล้วเราจะเป็นเพื่อนกันไปได้อีกนานเท่าไร จะพูดกับเธอตรง ๆ คงไม่ได้ เพราะเพื่อนมองเห็นแต่ผลประโยชน์ที่จะได้ ถึงขณะนี้เพื่อนก็น่าจะอยู่เองได้แล้ว หากที่ผ่านมาเราพยายามจะช่วยเพื่อน เราก็ช่วยไปแล้ว ถึงเวลาต้องช่วยตัวเองแล้วละนะ คิดอย่างไร ลองพูดคุยทบทวนกับแฟนตามลำพังจะดีไหม ลองคุยกันดูแล้วปรึกษาไปใหม่ได้ค่ะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
13 กุมภาพันธ์ 2559 14:34
Post อันดับที่ 1

สวัสดีค่ะอาจารย์ ขออภัยนะคะที่ทิ้งช่วงไว้นาน ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้นค่ะ เดี๋ยวคงต้องหาเวลาคุยกันจริงๆจังๆกับเพื่อนแฟนขอใช้ชื่อ A นะคะกับแฟนของ A ขอใช้ชื่อ M ค่ะ เมื่อวานมีคนมาถามว่าจะขอเช่าขายของช่วงเช้าประมาณตี 5 ถึง 9 โมงเพราะว่าตอนเช้าไม่มีใครขายตรงนั้น แต่จะมีโต๊ะที่ดิฉันกับ A ขายตอนเย็นวางไว้อยู่เคลื่อนย้ายไม่ได้เป็นโต๊ะที่ตึกทำไว้ให้ค่ะ ดิฉันกับ M ก็เลยได้มีการคุยกันนิดหน่อยเพราะมีลูกค้ามาก็เลยคุยได้ไม่นาน M บอกว่าต้องจ่ายครึ่งนึงเค้ายกตัวอย่างมาว่า ถ้าเราไปทำสัญญากับใครตกลงจะจ่ายเท่าไหร่ก็ต้องตามที่เค้ากำหนด ซึ่งมันก็ถูก แต่นี่เค้าให้เรามาช่วยแล้วแถมยังเป็นเพื่อนกันอีก วันที่แฟนดิฉันกับ A คุยกันแฟนดิฉันบอกว่าคุยด้วยความเป็นเพื่อนจริงๆ ไม่มีข้อตกลงตายตัวอะไรเลย สัญญาก็ไม่ได้ทำ คุยไปหัวเราะไปด้วยซ้ำ แต่กับ M เค้าไม่ได้คิดแบบนี้มองทุกอย่างเป็นธุรกิจอย่างเดียว ทั้งๆที่ทุกวันนี้ดิฉันก็ยังไปช่วย M เหมือนเดิมทุกอย่าง แต่เค้าไม่เห็นเลย แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปใดๆนะคะ เพราะไม่มีเวลาคุยมาก ส่วนที่อาจารย์บอกว่าหาของมาขายเพิ่มดิฉันกับแฟนก็คิดค่ะ แต่เศรษฐกิจตอนนี้ขายของยากเอามาแล้วจะขายได้รึเปล่า แถมยังต้องลงทุนเพิ่มด้วยต้องคิดเยอะมากค่ะ เรื่องถัดมาอยากสอบถามอาจารย์ว่า ที่มีคนมาขอเช่าช่วงเช้า ตามหลักแล้ว A กับ M ควรจะคิดค่าเช่าเท่าไหร่คะ ดิฉันกับแฟนเกรงว่า A กับ M จะเก็บค่าเช่าไม่เท่ากับเราซึ่งช่วงเวลาการขายก็เท่าๆกัน ต่างกันที่ตอนเช้ากับตอนเย็น แล้วกลายเป็นว่าคนที่จ่ายค่าเช่าน้อยที่สุดก็คือ A กับ M เพราะได้เรา 2 ร้านช่วยแบ่งเบาก็เปรียบเสมือนเรากำลังถูกเอาเปรียบอยู่ รบกวนอาจารย์ช่วยแนะนำด้วยค่ะ ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

JT
24 กุมภาพันธ์ 2559 11:15
Post อันดับที่ 2

คุณJT กับแฟนต้องคุยกันอย่างจริงจังว่า สถานะของคุณกับแฟน กับ A กับ M เป็นหุ้นส่วนในการเช่าร้านด้วยกัน หรือเขาเป็นผู้เช่าหรือเจ้าของตึก แล้วมาแบ่งให้คุณเช่าในราคา 4,500 บาท หากเราเป็นหุ้นส่วน (เป็นเพื่อนกัน) จ่ายคนละคร่งแล้วเราช่วยเขาผลิตของที่จะขาย คงไม่เป็นไร แต่หากเขาคิดว่าเราเป็นเพียงคนมาขอแบ่งเช่า แต่ในราคานี้ เราก็ไม่ควรจะต้องช่วยเขาต่อไปจนกว่าจะเคลียร์กันให้ชัดเจน หากเราเป็นหุ้นส่วนในการเช่าตึกด้วยกัน เมื่อมีคนมาขอเช่าช่วงเช้า ให้เขาเช่าเท่าไรก็ต้องเอามาหักค่าเช่าของเราสองคน นั่นคือ หากเราให้เขาเช่า 3,000 บาท(สมมุตินะ) ที่เหลือ 6,000 บาทเราสองคนก็จ่ายอีกคนละ 3,000 บาท นี่คือราคาความเป็นเพื่อนที่ช่วยเหลือเจือจุนกัน คนมาเช่าตอนเช้าต่อไปหากขายไม่ดีเลิกไป คุณกับAM ก็ต้องแบ่งกันจ่ายคนละครึ่งเหมือนเดิม คำถามที่ต้องมีคำตอบให้ชัดเจนคือ คุณและแฟนอยู่ในฐานะใด เพื่อนมองคุณอย่างไร ตอนนี้ควรหาโอกาสพูดคุยกับแฟนคุณ แล้วจะได้พูดคุยกับ AM ต่อไป หากไม่ชัดเจนก็จะเป็นเรื่องกินใจไม่สบายใจกันต่อไป คุณและแฟนพิจารณาดูความเสี่ยง ผลที่ได้ กำไรนั่นคุ้มกันไหม หากพูดไม่รู้เรื่อง คุณและแฟนอาจต้องเสี่ยงถอยออกมาจะได้ไม่เสียเพื่อน ก่อนหน้านี่เขาไม่มีคนเช่าขอเราให้ช่วย เราก็ช่วยแล้ว ตอนนี้เขามีคนมาแบ่งเช่า ก็คงไม่ต้องการเราต่อไป เราก็ต้องก้าวออกมา หรือเจรจาใหม่ให้ยุติธรรม ตรงไปตรงมามากกว่านี้ จะดีไหมลองคุยกับแฟนดูนะ หากเรื่องยังไม่ชัดเจนไม่เห็นความจำเป็นจะต้องช่วยเขาผลิต หรือลดความช่วยเหลือลงไปบ้าง ลองหาอย่างอ่ืนทำดูที่สบายใจนะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
24 กุมภาพันธ์ 2559 14:12
Post อันดับที่ 3

ตอบกระทู้


กลับด้านบน