มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
ลูกชายของเพื่อน

เพื่อนดิฉันเป็นแม่เลี้ยงเดียว ลูกชายอายุ 20 ปี เคยเห็นเค้าตั้งแต่อายุ 5 -6 ปี เป็นเด็กน่ารัก พอโตเรียนม.2 ก็ออกเพราะตก ไม่ยอมซ่อม หลังจากนั้นชีวิตก็พลิกผัน แม่ส่งไปเรียนที่ ตจว ต่อ ก็ไม่จบ พาลูกสาวคนอื่นหนีกลับมา กทม. มาทำงานได้สักพักก็ออก เลิกกับแฟน ติดยา สุดท้าย โดนคุมประพฤติ และเป็นกลายเป็นผู้ต้องบำบัด ก่อนหน่านี้แม่ดิ้นรนและบังคับให้ไปสอบจนลูกได้ ม.6 กศน.มา แต่ติดตรงที่มีคดียาเสพติดต้องไปรายงานตัว ปัญหาคือ ไม่ยอมไปรายงานตัว ไม่ฟังแม่ ดิฉันเองเคยไปคุยและกล่อมจนเค้ายอมไป รพ เพื่อตรวจและอบรมครั้งหนึ่ง อธิบายเหตุผลให้ฟังว่าทำไมต้องไปและถามเค้าว่า จำได้เปล่าว่าตอนอยู่ในเรือนจำเป็นไง อยากกลับไปอยู่อีกหรอ เค้าก็ตอบว่าไม่ และก็ยกเหตุผลมาอ้างอีกว่า ถ้ายังไม่เสร็จธุระเรื่องการบำบัดจะไปทำงานที่ไหนต่อก็ลำบากเพราะต้องลาไป แล้วนายจ้างที่ไหนจะยอมให้ลางานบ่อย ๆ เค้าถึงยอมไป แต่ครั้งหลังสุด แม่เค้าโทรมาหาว่าลูกไม่ยอมไป กลุ้มใจ ไม่รู้จะทำงัยดี ดิฉันสงสารทั้งแม่และเด็กค่ะ จะบอกเค้ายังไงดีค่ะ เพราะดิฉันรู้ว่าเด็กช่วงนี้ต้องให้เค้ายอมรับ จึงจะทำ ดิฉันก็เคยอธิบายถึงข้อดี ข้อเสียของการไม่ไปรายงานตัวให้เค้าฟังไปหลายครั้ง เด็กดูเหมือนจะฟังแต่ไม่ทำค่ะ เค้าไม่ใช่เด็กเลวร้ายอะไร แค่หลงผิด อยากช่วยเค้าค่ะ แม่ เป็นคนซีเรียส ค่อนข้างเครียด ขี้บ่น ซื้อของแพง เวลาโกรธลูกชอบด่า ว่าแรง ๆ เราได้ยินยังตกใจ เพราะไม่เคยพูดกับลูกตัวเองแบบนั้น เคยบอกเพื่อนไปหลายครั้งว่าอย่าพูด มันไม่ดีจะเป็นตามอย่างคำที่แม่พูด ลูก มองดูเหมือนเป็นเด็กหัวอ่อน เวลาสอน หรือบอก ก็จะครับ แต่ลับหลังไม่ทำ แม่เค้าว่าอย่างนั้น ช่วยงานบ้านดี ทุกวันนี้ก็ชอบออกไปหาเพื่อนตอนเย็น ๆ บางวันก็กลับเช้า ดิฉันแอบถามเค้าว่าออกไปทำอะไร เค้าก็ว่าไปเล่นไพ่ ดิฉันก็บอกเค้าไปว่าเดี๋ยวโดน ตร จับหรอก เค้าก็หัวเราะ ข้อดีอีกอย่าง รักแม่ แต่เค้าก็น่าจะรู้นะค่ะว่าที่เค้าทำอยู่ ทำให้แม่เสียใจ

สุ
1 มิถุนายน 2558 09:14

คุณสุ ลำพังการมีสามีคอยช่วยเหลือในการเลี้ยงดูครอบครัวก็นับว่ายากแล้ว ย่ิงเป็นแม่เดี่ยว ความกลัวในการเลี้ยงลูกเพราะเป็นsingle mother ย่ิงมากกว่าแม่ทั่วไปเพราะท่ามกลางความอ้างว้างว้าเหว่ในการเลี้ยงดูลูกตามลำพัง ด้วยอ้อมแขนสองแขนนี้แม้จะทำให้เต็มที่แค่ไหนก็ดูเหมือนจะไม่เคยพอ ไม่รู้ว่าจะรักษาสมดุลอย่างไร ดูเหมือนหากไม่มากเกินไปก็น้อยเกินไปในการแสดงออกในการเลี้ยงดูลูก ก็ว่าทำอย่างดีที่สุดแล้วแต่ก็เหมือนเราจะผิดพลาดไปในหลาย ๆ เรื่องจนคนเป็นแม่เหมือนจะเป็นคนบ้า!ไปด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะยึดอะไรเป็นมาตรฐานในการเลี้ยงดูลูก อย่างในกรณีที่คุณเล่าไป แม่ก็พยายามทำอย่างดีที่สุดในทุก ๆเรื่อง แม่ก็รักลูก ลูกก็รักแม่ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมส่ิงที่ลูกเป็นลูกทำไปจึกลายเป็นเหมือนการทำร้ายแม่ และดูเหมือนพฤติกรรมของลูกก็จะกลายเป็นเพราะความรู้ไม่เท่าทันของแม่ แม่เองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรอีกต่อไปเพื่อจะได้ประคับประคองลูกให้เดินอยู่บนทางที่ถูกต้องปลอดภัยและไม่สร้างปัญหาให้สังคม ลูกก็อยากจะทำดีเป็นคนดีให้ได้อย่างที่แม่คาดหวัง แต่ลูกก็ไม่รู้ว่ากรรมเวรอะไรดลใจให้ลูกทำผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่ากับแม่ทำให้แม่เป็นทุกข์ได้ถึงขนาดนี้ อย่างไรก็ตามอยากให้คุณสุให้กำลังใจเพือนของคุณว่า เธอได้ทำอย่างดีที่สุดแล้ว แต่โจทย์ข้อนี้อาจยากมากกว่าปกติและมีหลายข้อ ค่อยผ่อนหนักผ่อนเบาบ้าง ไม่ต้องไปเครียดไปกังวลมาก เธอได้ผ่านบททดสอบของชีวิตมาแล้ว ผลก็คือไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ลูกรักแม่ แต่การที่แม่เครียด ไม่แสดงออกถึงความรักที่แม่มีต่อลูกไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร เขาก๋คือลูกคือความรักและจะอยู่เคียงข้างเราตลอดไป เพียงแต่เราอาจจะยังไม่ได้แสดงความรักอย่างที่เขาคาดหวังต้งแต่เด็กมาก็ได้ อย่างที่ดิฉันพูดข้างบนนี้ มากมายที่พ่อแม่ก็ไม่รู้วาความสมดุลของกรแสดงออกของการอบรมสั่งสอนมันอยู่ที่ตรงไหน ทำไมเหมือนเราพลาดไปในส่ิงที่ไม่ควรพลาด ก็เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วชีวิตต้อการอะไรจากเรา เขาขาดอะไรและเราจะได้เติมเต็มตรงไหน เราก็ตั้งใจทุกอย่าง แต่ทำไมจึงเหมือนเราทำผิดไปทุกเรื่อง ไม่เป็นไร! เธอทำมากแล้ว เหนื่อยมากแล้ว หยุดพักซะบ้าง ปล่อยบ้าง ที่ผ่านมาแม่ลูกต่างผ่านประสบการณ์มาด้วยกัน ถึงเวลาเดินไปด้วยกันทุกข์บ้างสุขบ้างสนุกบ้าง อยากให้แม่พูดคุยปรับทุกข์กับลูก หากอยากร้องไห้ก็ร้องให้ลูกปลอบใจ บางทีการที่แม่พย่ายามเข้มแข็งไม่อ่อนแอเพราะเป็นแม่เลี้ยงเดียว อาจทำให้เราเหมือนทำตัวเป็นเทวดาที่ลูกเอ้ือมไปไม่ถึ ถึงเวลาเป็นแม่ธรรมดา ๆ ทำได้ไหม ใช้ชีวิตอย่างที่เราเป็นตัวของตัวเองจริง ๆ ไม่ต้องฝืนเพื่อลูกจะได้รู้จักเราอย่างจริง ๆ เสียที ทำได้ไหม เป็นแม่ที่รักลูกไม่คาดหวังไม่แข็งแกร่ง แต่เป็นแม่ที่ต้องการการเอาใจใสดูแลจากลูกชายคนเดียว ส่งเสริมให้เขาเป็นผู้ชายในบ้านได้แล้ว ไว้วางใจเขา ให้โอกาสเขาปกป้องแม่ปกป้องครอบครัวบ้างเท่าที่เขาพอจะทำได้ อย่าทำตัวเหมือนแม่จะต้องเป็นผู้ชนะเสมอ ส่วนลูกก็ต้องเป็นผู้แพ้เสมอ หากจะชนะก็ต้องชนะด้วยกัน หากจะต้องแพ้ก็แพ้ด้วยกัน ทำได้ไหมเดินไปด้วยกัน ดึงเชาบ้างปล่อยเขาบ้าง หัวเราะและร้องไห้ไปด้วยกันแม่ลูกทำได้ไหม ขอเป็นกำลังใจให้เธอผ่านช่วงนี้ไปใหได้ อีกไม่ช้าลูกก็จะโตและทุกอย่างจะค่อย ๆ ดีไปเองนะ เขียนไปใหม่ได้

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
9 มิถุนายน 2558 19:16
Post อันดับที่ 1

ตอนนี้ได้แต่บอกแม่เค้าให้ทำใจ แต่ยากนะค่ะอาจารย์ เพราะเราเห็นทางลงเหวอยู่ข้างหน้า รู้ว่าเดินต่อไปลูกจะตกลงไป ห้ามแล้วบอกแล้วก็ยังไม่ฟัง คงต้องปล่อยให้เค้าเจอเอง..แต่กลัวว่าจะยิ่งแย่ เข้าป่าเข้าเหวไป แม่เค้าก็ไม่อยู่ดูแลเค้าไปตลอด ยากเหมือนกันที่จะให้เด็กคิดได้ด้วยตัวเอง เพราะท้ายสุดก็ไม่มีใครหวังดีไปกว่าคนในครอบครัว

สุ
12 มิถุนายน 2558 15:00
Post อันดับที่ 2

คุณสุ ไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องของเขาไปล่วงหน้า สิ่งดี ๆ ก็อาจจะเกิดขึ้นอาจรออยู่ข้างหน้า หากแม่และคุณสุเชื่อว่าได้ทำดีที่สุดแล้ว ก็ต้องเชื่อในความดีของเรา ระยะนี้อยากให้คุณแม่ลดละเลิกการดุว่า การวิจารณื ตำหนิหรือดุด่าเขาให้ลดลงมาก ๆ หันกลับมาฟังเขาให้มาก ยืนอยู่เคียงข้างเขาให้มากเสมอต้นเสมอปลาย เด็กที่เติบโตมาเพราะแม่ตอบคำถามไม่ได้ ว่า "พ่อผมไปไหน ทำไมผมไม่มีพ่อ ทำไมผมต้องอยู่กับแม่ตามลำพัง...." เมื่อไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ลึก ๆ เด็จะบอกกับตัวเองว่า เขาไม่มีค่าควรแก่การที่พ่อ (หรือแม่จะ มีชีวิตอยู่เพื่อเขา) หรือยอมรับเขาอย่างที่เขาเป็น นี่คือส่ิงที่แม่เลี้ยงเดี่ยวกลัว กลัวว่าจะไม่มีแรงพอจะดูแลเขาให้ดีท่สุด การเลี้ยงลูกด้วยความกลัว แม้จะรักจะทำดีที่สุด แต่ลึก ๆ เหมือนจะไม่พอที่จะให้เขา ย่ิงให้ก็เหมือนย่ิงทำร้ายเขา แม่กลัวตัวเอง กลัวลูกและกลัวแทนลูก มันเป็นสภาพจิตที่อ่อนไหว เปราะบาง ที่แม่เดินคลำไปเหมือนอยู่ในความมืด เป็นเรื่องต้องอาศัยทั้ง ความกล้าหาญ ความอุตสาหพยายาม ความอดทนใจเย็น และที่สำคัญคือ ความรักทั้งหัวใจที่จะต้องให้กับเขา มันเหมือนกับจะต้องแลกด้วยชีวิตของเราจริง ๆ ที่พูดอย่างนี้เพราะดิฉันก็เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว (ขอ)เขามาเลี้ยงตั้งแต่เขาเกิด จะผิดชั่วดีอยู่ที่ตัวแม่คนเดียวจริง ๆ ค่ะ ดิฉันได้เห็น รุ้จักชีวิตของแม่เลี้ยงเดี่ยวมากมาย ที่เราเหมือน ๆ กันคือ ความกลัว จะต่างกันก็ตรงใครกลัวมากน้อยกว่ากันเท่านั้น กลัวให้น้อยจะได้ไม่เครียด อย่ารังเกียจที่จะเลี้ยงลูกคนเดียว ลำพังชายอื่นในโลกนี้แม้เราจะรักแค่ไหนนานไปเขาอาจเปลี่ยนแปลง แต่ลูกที่เราเลี้ยงด้วยหัวใจและชีวิต จะไม่มีวันเปลี่ยนใจไปจากแม่เลย นั่นคือรางวัลของเรา แต่จะรับเฉพาะรางวัลอย่างเดียวหรือรอรางวันไม่ได้ เราต้องสร้าง ปั้นเขาให้ดีที่สุดเพื่อท่ี่เขาจะได้ดูแลตัวเองและเป็นภาระต่อสังคมภายหลังเมือเราจากโลกนี้ไปแล้ว ฝากกำลังใจให้เพื่อนคุณด้วย ปรึกษาไปใหม่ได้

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
14 มิถุนายน 2558 13:13
Post อันดับที่ 3

แก้ --- และไม่เป็นภาระต่อสังคมภายหลัง.....

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
15 มิถุนายน 2558 10:01
Post อันดับที่ 4

ตอบกระทู้


กลับด้านบน