มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
หนักใจกับสามี

สวัสดีคอาจารย์อรอนงค์ที่เคารพ หนูมีเรื่องปรึกษาอาจารย์ คือหนูเพิ่งคลอดลูกได้ประมาณ 2 เดือนกว่า หนูกับแฟนได้ย้ายบ้านมาอยู่กับพ่อแม่ของหนูเพราะต้องการเลี้ยงลูกเองไม่อยากจ้างให้คนอื่นเลี้ย คะ ช่วงระยะเวลาที่หนูต้องไปทำงานแม่ก็เลี้ยงหนูก็มรับช่วงต่อหลังจากเลิกกงาน แต่ปัญหามีอยู่ว่าที่บ้านหนูเขาชอบบ่น ชอบทะเลาะกันระหว่างพ่อกับแม่ไม่ให้ไปไหนให้ดูแต่ลูก ให้รีบกลับบ้าน บางทีหนูก็มีธุระบ้าง พ่อเหมือนไม่พอใจ สามีหนูเขาก็เบื่อไม่อยากจะอยู่บ้าน แต่ติดตรงที่มีลูก สามีหนูเขาไม่ค่อยชอบครอบครัวหนู หนูรู้สึกอึดอัดใจ สามีจะเอาลูกกลับไปเลี้ยงที่ต่างจังหวัด หนูไม่ให้เอาไปเด็ดขาด คือหนูก็รู้นิสัยพ่อกับแม่หนูดี เขาแค่บ่นๆ ด่าๆ ไปอย่างนั้นเองไม่มีอะไร แต่สามีบอกไม่เคยเจอ หนูก็เลยทะเลาะกับสามีอยู่บ่อยครั้ง หนูเลยย้อนสามีว่าพ่อกับแม่เขามีบุญคุณกับเรา 2 คนมากนะ ทั้งปลดหนี้สินให้ ตอนแต่งงานฝ่ายเจ้าสาวก็ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ค่าสินสอดก็คืนให้ไม่เอาสักบาท ค่าน้ำนมก็ไม่ได้ให้แม่เลย ทั้งๆที่พ่อแม่ฝ่ายพี่รับปากจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด จนกระทั่งมีลูกพ่อกับแม่หนูก็เลี้ยงให้ฟรี อย่างนี้ยังไม่ดีอีกหรอ อีกอย่างครอบครัวหนูก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรแต่ไม่เคยมาขอเงินหรือมาเบียดเบียนจากหนูเลย เพราะเราก็มีครอบครัวแล้ว ต่างจากครอบครัวของพี่ที่มายืมแต่เงิน แล้วก็ไม่คืน มาเอาเงินทุกเดือน เราก็ไม่ค่อยจะพอใช้ไหนจะลูกอีก ไหนน้องพี่จะมานอนค้างด้วยนอนห้องเดียวกันไม่มีความเป็นส่วนตัวซักอย่าง ไม่เคยเกรงใจ พี่จะเอายังไง เขาเงียบไปเลยคะอาจารย์ หนูโกรธมากเพราะหนูก็รักพ่อกับแม่หนูเหมือนกัน ถ้าสามีไม่เอาครอบครัวหนู หนูก็ไม่เอาเขาเหมือนกัน อาจารย์คะหนูควรตัวอย่างไร หนูเครียดมากเลยคะ อยากมีบ้านเป็นของตนเองแต่ก็ไม่มีเงินพอที่จะซื้อบ้าน ภาระก็เยอะมากคะ

ไอรดา
17 มกราคม 2558 10:54

คุณไอรดา คุณพ่อคุณแม่คุณท่านรักและเป็นห่วงลูกหลานมากนะ กรณีที่ชอบบ่น หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณและหลาน เข้าใจว่าพ่อแม่มองว่าภาระส่วนใหญ่ในครอบครัวมาตกอยู่กับคุณ ส่วนสามีนอกจากตัวเองจะให้ความสะดวกหรือช่วยเหลือลูกเมียไม่ได้แล้ว ยังนำพ่อแม่และพี่น้องของตัวเองเข้ามารบกวนคุณอีก เรียกว่าท่านห่วงคุณและหลานมาก ๆ กังวลไปหมด แต่ไม่รู้จะพูดอย่างไร เพราะคนเป็นพ่อแม่นั้น หากพูดไปแล้วไม่ถูกหูก็อาจกลายเป็นการยุยงให้สามีภรรยาเขามีเรื่องแตกแยกกัน ซึ่งคนพุทธถือว่าเป็นบาป พ่อแม่อึดอัดพูดไม่ได้จึงกลายเป็นการบ่นว่าจุกจิก คุณไอรดาต้องตั้งสติ แล้วพูดกับท่านอย่างสุภาพนุ่มนวลบอกท่านว่า คุณรู้ว่าพ่อแม่เป็นห่วงลูกหลานมาก หนูเองก็กังวล กำพลังพยายามพูดกับเขาอยู่ให้ปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น เพราะไม่อยากเป็นภาระของพ่อแม่ หากสามีไม่อยู่บ้านพยายามให้แวลากับพ่อแม่พาไปทานข้าวซ้ือของหรือตรวจสุขภาพ ให้พ่อแม่รู้สึกว่าคุณยังแคร์และเป็นลูกของเขอย่าไม่ใช่แต่งงานแล้วกลายเป็ฯคนรับใช้สามีกับครอบครวสามีไป กรณีสามีคุณ พิจารณาดูจากที่เล่าไป เขาก็คงเครียดไม่พอใจครอบครัวเขาแต่พูดไม่ได้ ความสามารถในการดูแลคุณและลูกยังไม่ได้ แต่เมื่อต้องพึ่งพ่อแม่เรา ทุกคนต้องเกรงใจให้เกียรติพ่อแม่เรา หากเขาไม่พอใจอะไร คุณก็พูดกับเขาเรียบ ๆ ว่า กำลังมองหาที่อยู่ใหม่จะได้ไมีมีเรื่องกวนใจคุณ ดีไหม ส่วนที่คุณคิดอยู่ขณะนี้ ก็ไม่ต้องพูดออกมาจะได้ไม่มีเรื่องมาก แต่รู้และตัดสินใจแล้วว่าจะทำอย่างไร ตอนนี้เพียงให้เวลาตัวเองกับสามีให้พยายามปรับตัวและยอมรับกันเองมากขึ้น หรือเดินกันไปให้ถึงที่สุดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาส่วนหนึ่งของครอบครัวคือเศรษฐกิจของประเทศมันซวนเซกันมานานทำให้ทุกคนลำบาก ปัญหาไม่ใชเกิดเฉพาะในบ้านแต่นอกบ้านรอบบ้านด้วย หากเข้าใจปัญหาของทุก ๆ คน ทำใจให้มีเมตตาไม่ถือสาบ้าง ให้อภัยกันบ้างเพื่อประคับประคองชีวิตให้มันดำเนินไปรอเวลาสถานการทางเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้น หวังว่าทุกอย่างจะค่อย ๆ ดีขึ้นนะ มีอะไรก็คุยไปได้ อดทนอีกหน่อยนะ ขอให้โชคดีค่ะ

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
17 มกราคม 2558 15:30
Post อันดับที่ 1

ตอบกระทู้


กลับด้านบน