มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
หากหมดใจจะบอกเลิกอย่างไรให้อีกฝ่ายไม่เจ็บช้ำหรือเสียกำลังใจ

ผมเป็นชายวัย 37 ปี มีชีวิตคู่ที่ผิดหวังมาตลอด ช่วงที่ค้นหาใครคนใหม่ก็มักล้มเหลว ผมแต่งงานครั้งแรกตอน 23 ปี ใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน 5 ปี ก็ต้องเลิกรา ฝ่ายหญิงเองไปมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นจนตั้งครรภ์ ชีวิตเธอเองก็ย่ำแย่เพราะฝ่ายชายไม่รับผิดชอบ หลังจากเธอคลอดลูก เธอก็มีแฟนใหม่อีกหลายคน กลับมาที่ชีวิตผม ในช่วงที่เลิกกับภรรยาคนแรกใหม่ๆ ผมก็ได้รู้จักผญ.คนนึง อายุห่างจากผม 7 ปี เราได้แค่รู้จักกันเพราะเธอมีแฟนอยู่แล้ว เวลาผ่านไป 4 ปี เราก็ได้กลับมาพูดคุยกันอีกครั้ง แล้วเราก็ได้เป็นแฟนกัน หลังจากนั้น 6 เดือนเราก็มีเหตุให้เลิกกัน โดยสาเหตุมาจากเธอไปพบกับสามีเก่า(แฟนคนที่ 2 ของเธอ) และทำให้ผมเสียใจมากและหัวเสียมาก แต่สุดท้ายผมก็ให้โอกาสซึ่งกันและกันอีกครั้ง เรากลับมาคบกันอีกหลังจากเหตุการณผ่านไป 6-7 เดือน เราเริ่มย้ายมาอยูด้วยกัน เวลาผ่านไปประมาณเกือบ 2 ปีเราก็มีเหตุให้เลิกรากันอีกครั้ง จากเหตุว่าเธอย้ายไปทำงานที่จังหวัดบ้านเกิด และได้แอบคบกับผู้ชายที่รู้จักกันมาสมัยเรียน และเราก็เลิกกันไปเป็นเวลา 1 ปี หลังจากนั้นเธอก็กลับมาหยิบยืมเงินที่บ้านเพื่อเปิดร้านอาหาร จึงเป็นเหตุให้เราได้กลับมาคบหากันอีกครั้ง แต่ผมหมดรักเธอไปแล้ว แต่ยังคงแสดงออกว่ายังรัก และคอยให้กำลังใจเธอเสมอ เพื่อไม่ให้เธอท้อแท้ในการทำร้านอาหาร ผมคอยสนับสนุนเธอเสมอ ทั้งเรื่องเงิน และของใช้ในร้าน และแรงกาย รวมถึงให้ความหวังเธอว่าเราจะแต่งงาน สร้างครอบครัว มีลูกด้วยกัน แต่ผมก็รู้สึกได้ว่า ลึกๆในใจเธอก็ไม่ได้คาดหวังจริงจังว่าผมจะทำหรือบังคับให้ผมทำ ผมว่าเธอเองก็หมดใจอยู่บ้าง ด้วยวัยที่โตขึ้น แต่มาถึงตอนนี้ ผมไม่อยากให้ความหวังเธออีกแล้ว ผมคาดหวังให้ชีวิตผมพบคนที่อยู่กับผม แล้วเราทั้งคู่มีความสุขไปพร้อมๆกัน ผมควรบอกเลิกเธออย่างไร เพื่อให้ผมสามารถไปค้นหาชีวิตที่หวังต่อไปได้ แม้สุดท้ายต้องโสดจนแก่เฒ่าก็ตาม

ณัฐ
packredemption@gmail.com
29 ตุลาคม 2558 16:23

คุณนัฐ สุนทรภู่ระบุไว้ "จิตมนุษย์นี่ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง.." เพลงสุนทรภรณ์ระบุว่า "กังหันต้องลมหมุนวน ไม่รู้กี่หนต่อวัน แต่ใจคนหมุนเวียนผัน ไม่รู้ว่าวันละกี่หน..." หรือคำโบราณว่า "ยามรัก น้ำต้มผักก็ว่าหวาน พอเน่ินนานน้ำอ้อยก็กร่อยขม.." ฯลฯ คงจำกันได้นะ แม้จะเพ่ิงอายุ 37 ปี แต่นั้นแหละก็ถือว่ายังเป็นเรื่องปกติสำหรับคนวัยนี้ คนโบราณมักจะสอนว่า "ชีวิตตั้งต้นเมื่อ อายุ 40 ปี" สรูปคุณก็ยังมีเวลาอีกสามสี่ปีในการเปลี่ยนแปลง ก่อนที่ชีวิตจะตั้งต้นจริง ๆ จากที่เล่าไป ถึงคุณจะรู้สึกว่าความรักของคุณที่มีต่อเธอไม่มีต่อไปแล้ว แต่อาจเพราะคุณอยากรักษาภาพพจน์ผู้ชายดีของคุณไว้ คุณจึงทำดีทำเหมือนยังรักเธออยู่ คือหลอกทั้งตัวเอง และหลอกทั้งผู้หญิง ก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่า ด้วยเงื่อนไขหรือผลประโยชน์อะไร ที่ทำให้คุณไม่สามารถพูดกับเธอตรง ๆ ได้ คุณบอกว่าเพื่อให้กำลังใจ ไม่ให้เธอท้อแท้ใจในการทำร้านอาหาร ท้งแรงกาย แรงเงินและความหวังว่าจะอยู่ด้วยกันต่อไป จนถึงวันนี้ที่คุณช่วยเธอหลายอย่างเพื่อให้เธอตั้งหลักได้ คุณไม่ได้บอกว่าผลลัพย์มันเป็นอย่างไร เธอตั้งหลักได้หรือยังธุรกิจดีขึ้นไหม และเธอยังจำเป็นจะต้องมีคุณต่อไปหรือไม่ ในขณะที่คุณเร่ิมจะเบื่อ "ดราม่า" ของตัวเอง คุณอยากก้าวออกไปหาสิ่งใหม่ ๆ ที่น่าสนใจกว่า เพราะรู้สึกอยากเป็นตัวของตัวเองมากกว่า ในเมื่อคุณก็ได้พยายามทำอย่างดีที่สุดในฐานะของคนเคยรักกัน ของเพื่อนเก่า คุณเองก็รู้สึกว่า เธอก็คงไม่ค่อยจะเหลือใจให้คุณเท่าไร น่าจะเป็นจังหวะเวลาที่ดีที่คุณจะต้องเร่ิมขยับขยาย ถอยห่างออกไป เช่นหากอยู่คอนโดด้วยกัน ก็เร่ิมหาที่อยู่ของตัวเองใหม่ และที่เคยแสดงบทหวานจ๋อย ก็ค่อยเปลี่ยนเป็นความสุภาพนุ่มนวล หวังดีและมีความเป็นเพื่อนในการรับฟังปัญหา และฟังว่าเธอมีแผนการอะไรต่อไป ส่วนคุณจะได้มีโอกาสพูดว่า อยากจะอยู่สงบ ๆ หรือให้เวลากับตัวเองในการไตร่ตรองคิดพิจารณษอนาคตว่าจะทำอะไรต่อไป อยากให้เวลากับครอบครัวคือพ่อแม่บ้าง เมื่อเธอเร่ิมรับได้และเปิดเผยความในใจของเธอ คุณก็จได้พูดถึงความต้องกายอยากอยู่สงบ ๆ หรืออยากไปไหนทำอะไรก็บอกกับเธอตรง ๆ เราคบหามีความสัมพันธ์กันมาหลายปี ถึงวันนี้หากความรักนั้นจืดจางไป เปลี่ยนแปลงไป แต่ความเป็นเพื่อน ควรจะต้องยังคงอยู่ เพื่อในยามที่เราต้องการใครสักคนในวันที่เงียบเหงาโดดเดี่ย่ว เราจะได้สามารถหันมาปรับทุกข์แบ่งปันความทุกข์กันบ้าง หาจังหวะเวลาที่จะพูดกับเธออย่างตรงไปตรงมาในฐานะเพื่อนที่ดีที่เรามีต่อกันมานานปี เชื่อว่าเธอจะเข้าใจ ลองพิจารณาไตร่ตรองดูนะ ขอให้โชคดี

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
30 ตุลาคม 2558 19:35
Post อันดับที่ 1

ตอบกระทู้


กลับด้านบน