มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
อยากทราบ..

สวัสดีค่ะ ต้องบอกไว้ก่อนว่าเมื่อก่อนเป็นคนเฮฮา ชอบไปเที่ยวทำกิจกรรม ติดเพื่อนมาก จะไปไหนมาไหนต้องไปกับเพื่อนตลอด ไปคนเดียวไม่ได้เลยค่ะ ไม่ชอบสายตาเวลาเป็นจุดสนใจ กลัวไปทำผิดพลาดแล้วขายหน้า กลัวสายตาดูถูกของคนอื่นเลยจำเป็นต้องมีเพื่อนตลอด ที่ผ่านมาประมาณสามเดือนมีปัญหากับเพื่อนแต่เคลียกันเรียบร้อยแล้ว รู้สึกตัวเองแปลกไปจากเดิม จากเวลาเพื่อนชวนไปไหนมาไหนด้วยจะไปตลอดไม่ว่าใกล้หรือไกล ตอนนี้ปฏิเสธทุกครั้งเพราะรู้สึกว่าการไปกับเพื่อนมันวุ่นวาย หลายคนย่อมมีหลายปัญหาเลยตัดปัญหาโดยการไม่ไป เวลานั่งเรียนก็แยกตัวมานั่งคนเดียว พูดน้อยขึ้นไม่ค่อยอยากสุงสิงกับใคร ไม่อยากไปโรงเรียน เคยโกหกที่บ้านว่าปวดท้องเพื่อจะได้ไม่ต้องไปโรงเรียน อยู่บ้านก็อยู่แต่ในห้องเล่นคอมไม่ค่อยได้คุยกับครอบครัว รู้สึกเบื่อทุกอย่างไปหมดจากสิ่งที่เคยชอบเช่นอ่านหนังสือ ซึ่งเวลาอ่านจะได้แค่ 3-4 บรรทัดก็อ่านไม่ได้แล้วเพราะไม่มีสมาธิมากๆ ต้องอ่านย้ำไปย้ำมา จากเมื่อก่อนสามารถอ่านได้เป็นเล่มๆ ความรู้สึกมันเหมือนโลกมันมืดมัวตลอดเวลาไม่สดใสไม่มีอะไรที่เราอยากจะสนใจ ไม่อยากทำอะไรอยากนอน ร่างกายมันเพลียตลอด เบื่ออาหารจนน้ำหนักตัวลดไปสองถึงสามกิโลจนผอมอย่างเห็นได้ชัด จากเป็นคนกินเก่งมากๆ ปกติเป็นคนชอบนอน ตี 3-4 เพราะชอบตอนกลางคืนชอบเวลาทุกคนหลับมันเงียบไม่วุ่นวาย เวลามีเรื่องเครียดหรือเสียใจจะเก็บมาคิดไม่บอกใคร คิดตอกย้ำตัวเองวนไปวนมาตลอด ชอบเอาเรื่องที่ทำให้เสียใจมาคิดจนร้องไห้ โทษตัวเองตลอด สองอาทิตย์ที่ผ่านมาอยู่ๆก็เศร้ามาแบบไม่รู้สาเหตุ เก็บเอาทั้งเรื่องครอบครัวเรื่องเพื่อนเรื่องแฟนมาคิด เอามาตอกย้ำจนตัวเองจนร้องไห้ อึดอัดจนทนไม่ไหวต้องทำให้ตัวเองเจ็บตัวถึงจะบรรเทาความอึดอัดในใจลงได้ทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้วแต่ไม่ถึงทำหนักมาก แค่เลือดซิบ หนูเลยไปทำแบบทดสอบโรคซึมเศร้าก็ได้ผลว่าเข้าข่าย ไปอ่านบทความเกี่ยกกับโรคนี้ก็เป็นหมดครบทุกอาการ แบบนี้หนูควรไปพบจิตแพทย์มั้ยคะหรือว่าหนูแค่คิดไปเอง หนูไม่รู้จะปรึกษาใครกลัวเขาไม่เข้าใจสิ่งที่หนูรู้สึกอยู่

moshimoahi@gtmail.com
2 พฤศจิกายน 2557 22:54

ภาษาฝรั่งบอกว่า "Changing is Growing......" หรือ การเปลี่ยนแปลงคือการเจริญเติบโต และหนูกำลังเติบโตค่ะ หนูเคยสังเกตุตัวเองหรือเปล่าว่า มีอาการซึม เศร้า เหงา อ่อนไหวง่าย ร้องไห้ง่าย ตอนช่วงไหน เด็กสาววัยรุ่นส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมนตอนช่วงใกล้ประจำเดือนมา และจะรู้สึกกระปรี้แระเปร่าขึ้นหลังหมดประจำเดือน ประจำเดือนมาตรงไหม หรือมาบ้างไม่มาบ้าง นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ สำหรับเด็กสาววัยนี้ อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องศึกษา หรือแก้ไขให้ตัวเองออกจากสถานการณ์ที่ระบุมา คือการที่หนูไม่ได้ออกกำลังกายเลย เหงื่อไม่ออก กล้ามเนื้อไม่ได้รับการทำนุบำรุงให้กระฉับกระเฉง พยายามจัดเวลาให้ตัวเองได้ออกกำลังกาย เช่นเดินเล่นสัก 1-2 ชั่วโมง หรือกระโดดเชือก ว่ายน้ำขี่จักรยาน ตีแบต หรือเล่นกีฬาอะไรก็ได้เพื่อให้การเคลื่อนไหวคล่องตัว ข้อสามคือ ที่บ้านหนูมีงานที่ต้องช่วยเหลือพ่อแม่ไหม เช่นทำกับข้าว กวาดถูบ้าน รดน้ำต้นไม้ ล้างถ้วยชามซักผ้า ทำอะไรที่เป็นการช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องคนในบ้าน จะได้รู้สึกตัวเองมีคุณค่าไม่น่าเบื่อ ข้อสี่คือ อ่านหนังสือ ไม่จำเป็นต้องอ่านเฉพาะตำรา อ่านนวนิยายเพ้อฝันอะไรก็ได้ทำให้ตัวเรามีความฝัน รู้สึกมีชีวิตชีวา นักเขียนส่วนใหญ่เร่ิมเขียนหนังสือเพราะต้องการหลบออกจากโลกของความจริง ไม่เสียหายหากเราจะอยู่กับหนังสือสารพัดเรื่อง ข้อห้า มีเพื่อนสนิทสักคนสองคนก็พอไม่ต้องมีมาก หากยังไม่ถูกใจเพื่อนคนไหนเป็นพิเศษ ก็จงเป็นเพื่อนที่ดีของตัวเอง คิดทำ พูดแต่สิ่งดี ๆ ทำให้รู้สึกชอบพึ่งพอใจในตนเอง อยู่กับตัวเองได้อย่างมีความสุข ไม่เหงาไม่เบื่อหาอะไรเล้ก ๆ น้อย ๆ ทำเพื่อครอบครัว คนในบ้าน เพื่อตัวเองได้ จิตใจจะได้ไม่เหงา ที่สำคัญคือ สละเวลาสักเล้กน้อยในแต่ละวัน พูด คุย ถาม ไถ่ ทุกข์สุขของพ่อแม่พี่น้อง สอนการบ้านน้อง เล่าเรื่องที่โรงเรียนให้พ่อหรือแม่ฟัง เอาใจใส่ท่าน รินน้ำให้พ่อ แม่เมื่อท่านเข้าบ้าน อย่าเก็บตัวแต่อยู่ในห้อง การที่คนเราจะเติบโตไปเป็นคนหนึ่งที่สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่น ๆ ในสังคมได้ หรือช่วยเหลือคนในสังคมได้ หรือทำงานบริการเพื่อใคร ๆ ได้ต้องเร่ิมที่บ้าน ให้การใส่ใจดูแล รับใช้บริการปรนนิบัติพ่อแม่พี่น้องให้ได้เสียก่อน ค่อยไปทำนอกบ้าน อยากให้หนูฝึกตามที่แนะนำมาให้ได้ อย่าพยายามไปเชื่อหรือคิดว่าเราเป็นโรคโน่นนี้ ถ้าหนูไม่อยากเป็น เราก็ต้องไม่เป็น ฝึกตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรง อดทน ไม่หวั่นไหว อะไรที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นช่วงการเปลี่ยนแปลง ทั้งร่างกาย จิตใจการเรียนและสิงแวดล้อม ต้องพยายามก้าวข้ามไปให้ได้ หาเรื่องคุยกับพ่อแม่พี่น้องให้มาก ความจริงเรื่องที่หนูรู้สึกหรือเกิดขึ้นกับหนู เป็นเรื่องที่เรา ผู้ใหญ่เคยผ่านหรือมันเคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปหน้าที่การงานมีมากขึ้นทำให้หลงลืมกันไปหมด ไม่เป็นไรนะ ลองฝึกปฏิบัติแล้วจดบันทึกเก็บไว้ นานไปค่อยนำมาอ่านใหม่แล้วหนูก็จะเข้าใจคนรุ่นต่อไปอย่างชัดเจน ดูแลตัวเองนะมีอะไรเขียนไปใหม่ได้

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
3 พฤศจิกายน 2557 13:35
Post อันดับที่ 1

ตอบกระทู้


กลับด้านบน