มูลนิธิศูนย์ฮอทไลน์ ปรึกษาปัญหาชีวิต และโรคเอดส์ โทรฟรีทั่วประเทศ
เรียน/ทำงาน

สวัสดีค่ะ หนูมีเรื่องรบกวนปรึกษาค่ะ หนูเป็นนักศึกษาปี4ค่ะ ปัจจุบันหนูอาศัยอยู่คอนโดกับแฟนสองคนค่ะ เพราะสะดวกกับการเดินทางไปเรียน เราทั้งสองคบหากันตั้งแต่มัธยมปลายค่ะ และพ่อแม่ของเราทั้งสองรับรู้ค่ะ เรากับแฟนจึงสนิทกันมากค่ะ เวลามีอะไรเราจึงพูดคุยกันทุกๆเรื่องค่ะ ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ คือแฟนของหนูทำงานไปเรียนไปด้วยค่ะ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีปัญหาเรื่องค่าเทอม พ่อแม่ของแฟนไม่มีเงินพอที่จะส่งมาให้แฟนหนูเรียน แฟนหนูจึงตัดสินใจทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยค่ะ ซึ่งในตอนแรกการทำงาน ดูเหมือนจะไม่เป็นปัญหา เพราะแฟนจะทำงานเฉพาะตอนที่เลิกเรียน หรือไม่มีคาบเรียน จนมาพักหลัง พ่อของแฟนหนูเริ่มมีการโทรมาขอยืมเงินจากแฟนหนูและจากหนู เพราะเงินที่บ้านไม่พอใช้ งานที่ทำอยู่รายได้น้อย แต่มีรายจ่ายเข้ามามากขึ้น จึงทำให้แฟนหนูต้องทำงานมากขึ้น จนกินเวลาเรียนไปด้วยค่ะ จากที่เคยทำงานเฉพาะตอนเลิกเรียน ก็กลายเป็นต้องเอาเวลาเรียนไปทำงานด้วย แฟนหนูบอกว่า ถ้าทำงานเพื่อให้มีเงินพอที่จะจ่ายค่าเทอม ค่ากินค่าอยู่ของตัวเขา เขามีพอ แต่ถ้าจะต้องแบ่งให้ทางบ้านด้วย เขามีไม่พอ เขาต้องทำงานมากขึ้น เขาไม่อยากให้พ่อของเขาไปกู้หนี้ยืมสินใคร และเขาก็อยากหาเงินมาคืนในส่วนที่พ่อเขาได้ยืมหนูไปด้วยค่ะ จนมาตอนนี้เปิดเทอมปี4แล้ว แฟนหนูจึงกำลังตัดสินใจว่าจะดรอปเรียน แล้วไปทำงานแบบเต็มตัว เพื่อหาเงิน หรือว่าจะทำเงินเก็บที่มีอยู่ในบัญชีมาจ่ายค่าเทอม แต่จะไม่มีเงินให้พ่อถ้าพ่อโทรมาขอยืมอีก ซึ่งตัวหนูเองบอกตามตรงว่า อยากให้แฟนเรียนต่อจนจบค่ะ เพราะหนูคิดว่างานที่เขาทำอยู่ตอนนี้ ก็เป็นFreelance ไม่ได้เป็นงานประจำที่จะให้ความมั่นคงกับเขาได้ในอนาคต หนูอยากให้เขาเรียนต่อจนจบ หนูพยายามพูดกับเขาแล้ว และเขาก็บอกหนูว่าเขาอยากเรียนต่อ แต่เขาจะปฏิเสธพ่ออย่างไร ถ้าพ่อโทรมาขอยืมเงิน แล้วเขาไม่ให้ หรือไม่มีให้ เขาจะอกตัญญุไหม และนอกจากนี้ปัญหาสำคัญคือ แม่ของแฟนค่ะ ทุกวันนี้หนูเห็นแม่ของแฟน ไปกินอาหารดีๆ ใช้ของดีๆ ซื้อโทรศัพท์ ของฟุ่มเฟือยใหม่ๆตลอดค่ะ ในขณะที่พ่อของแฟนโทรมายืมเงินหนูกับแฟน แต่ทำไมแม่ของแฟนถึงใช้ชีวิตเหมือนไม่รับรู้ถึงเหตุการณ์ทางการเงินของพ่อที่กำลังมีปัญหาค่ะ จากที่หนูได้สังเกตจากการที่ได้ไปบ้านแฟนอยู่บ่อยๆ แม่ของแฟนจะใช้ของดีๆแตกต่างจากพ่อของแฟนมากๆค่ะ ชอบคุยกับหนูเรื่องของแบรนด์เนมต่างๆ รองเท้า กระเป๋า หรือบางทีก็มีของที่ซื้อมาใหม่มาอวดค่ะ แต่เขาไม่เคยส่งเงินมาให้แฟนหนูเลย ไม่เคยถามเลยว่ามีเงินจ่ายค่าเทอมหรือเปล่า มีเงินกินข้าวหรือเปล่า มีแต่พ่อเขาค่ะ ที่คอยถามและเป็นคนที่รู้ปัญหาการเงินของทางบ้าน แต่เหมือนแม่เขาไม่รู้เลย เพราะถ้ารู้ก็น่าจะไม่ไปเที่ยวช๊อปปิ้งไม่ซื้อไม่ใช้ของฟุ่มเฟือยแบบนั้นค่ะ และเรื่องนี้แฟนหนูก็รู้เหมือนกัน เราทั้่งสองคิดว่า พ่อน่าจะไม่ยอมบอกแม่เรื่องการเงิน คงเพราะอยากให้แม่สบายใจ เลยเลือกเก็บปัญหาไว้เองลำพัง ซึ่งตอนนี้หนูจึงเครียดมากค่ะ เพราะหนูอยากให้แฟนหนูได้เรียนต่อจนจบ และอยากให้ทั้งพ่อและแม่ของแฟนทราบ ว่าแฟนหนูสามารถหาเงินได้แค่เลี้ยงตัวเอง แต่ยังไม่พอที่จะมีเก็บให้พ่อโทรมาขอยืมครั้งละมากๆค่ะ อยากให้ทั้งครอบครัวของแฟนได้รับรู้เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น หนูอยากเปิดใจคุยกับพ่อแม่แฟนตรงๆนะคะ แต่ทั้งแฟนหนูและหนูกลัวพ่อแม่แฟนจะมองหนูไม่ดี และหนูเองก็เป็นคนนอกไม่อยากผิดใจกับพ่อแม่แฟนเลยค่ะ หนูควรทำอย่างไรดีคะ หนูไม่อยากปล่อยให้เวลาผ่านไป หนูอยากให้แฟนหนูรีบนำเงินเก็บไปจ่ายค่าเทอม และตั้งใจเรียนให้จบ รับปริญญาและหางานที่มั่นคงทำไปพร้อมๆกันค่ะ.. หนูไม่อยากเห็นอนาคตของแฟนหนูต้องจบเพียงเท่านี้ค่ะ รบกวนช่วยให้คำปรึกษาหนูด้วยนะคะ

ยูกิ
29 สิงหาคม 2560 23:34

หนูยูกิ แฟนก็เรียนปี 4 เหมือนกันใช่ไหม มหาวิทยาลัยเปิดหรือปิด หากเป็นมหาวิทยาลัยเปิด ก็ไม่ต้องดรอปเอาแค่ลงวิชาให้น้อยหน่อย เช่น เทอมละ 2-3 วิชามหาวิยาลัยปิดก็เช่นกันลองเช็คดูว่า จะลงเพียง 2-3 วิชาได้ไหม ให้เล่ือนการจบออกไปอีก เพราะเราจะได้ เพ่ิมเวลาทำงานให้มากขึ้น หรือไม่เช่นนั้น ให้เขาคุยกับพ่อตรง ๆ ว่าจะขอเรียนให้จบก่อน แต่จะไม่มีเงินช่วยพ่อได้ ขอเวลาสักระยะหนึ่จะได้ไหม จบแล้วจะได้ทำงานเต็มเวลาและช่วยส่งเสียพ่อได้ ถ้าพูดกันรู้เร่ืองก็ดี แต่หากเขาเดือดร้อนมากเพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี งานไม่มี และมีนอ้ง ๆ ที่พ่อต้องดูแลข้อแนะนำแรกน่าจะดีกว่า เร่ืองที่จะพูดกับพ่อ คือให้แฟนไปหาพ่อเพ่ือคุยและเราไปนั่งฟัง มีจังหวะจึงค่อยเสริม หรือช่วยกันอธิบาย กรณีของแม่แฟน คงไม่จำเป็นต้องพูด พ่อเขาคงรูจักนิสัยดีกว่าเรา หากพูดแล้วรู้เร่ืองเขาคงพูดไปแล้ว แต่หากเธอไม่ต้องการรับรู้รับผิดชอบ พูดไปก็เสียเวลา ในสถานการณ์ขณะนี้ พ่อแม่ที่รู้หน้าที่ไม่ตอ้งรอให้ลูกขอหรอก มองก็รู้ว่าลูกเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ ไม่ใช่สนใจแต่ตัวเอง เพราะฉะนั้นห่าง ๆ ไว้ดีกว่า ทีแนะนำมาลองคุยกับแฟนนะว่าคิดอย่างไร หนูเป็นเด็กมีน้ำใจดี เขาโชคดีที่มีหนู ดูแลกันให้ดีนะ มีอะไรก็ปรึกษาไปใหม่ได้

อาจารย์ อรอนงค์ อินทรจิตร
30 สิงหาคม 2560 15:59
Post อันดับที่ 1

ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับคำปรึกษา หนูเองก็ได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับแม่ของหนู แม่ของหนูก็แนะนำให้แฟนหนูไปพูดกับพ่อแม่เขาตรงๆเหมือนกันค่ะ ส่วนหนูก็จะไปรับฟังในความคิดเห็น ในมุมมองของพ่อแม่เขาเช่นกัน หนูขอบคุณมากๆนะคะที่ช่วยให้คำปรึกษา ทำให้หนูมีกำลังใจมากขึ้น มีแรงสู้มากขึ้นในการต่อสู้กับปัญหาที่เกิดค่ะ ขอบคุณมากๆจริงๆนะคะ ^^

ยูกิ
30 สิงหาคม 2560 17:22
Post อันดับที่ 2

ตอบกระทู้


กลับด้านบน